เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ถือเป็นวันสำคัญของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีนัดแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในช่วงครบรอบ 3 เดือน และการกำหนดทิศทางของประเทศในปีหน้า เพื่อให้แข่งขันกับทุกประเทศในโลกได้ โดยใช้ห้องประชุมใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) โดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน โดยจากรายงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เห็นพ้องกันว่า ในปี 2568 จะเป็นปีทองของประเทศไทย ทั้งด้านธุรกิจ ท่องเที่ยว การเกษตร อุตสาหกรรม และการลงทุนในประเภทต่าง ๆ ที่มีโอกาสที่จะทำให้จีดีพีของประเทศเติบโตได้มากขึ้น

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

นอกจากนี้ นายกฯ จะมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้หัวข้อ …2568 โอกาสไทย ทำได้จริง 2025 Empowering Thais: A Real Possibility จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริง… โดยมี ครม. หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง ระดับกรม ผู้ว่าฯทุกจังหวัด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผบ.ตร. หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์การมหาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานกว่า 500 คน โดยมีรายงานข่าวว่า เป้าหมายหลักของการจัดแถลงผลงาน 90 วันของนายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้ประชาชนเห็นว่า ในปี 2568 รัฐบาลจะทำอะไรบ้าง ทำให้ประชาชนมีความหวัง และเห็นว่ารัฐบาลกำลังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ฉายภาพว่าแม้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้เพียงแค่ 3 เดือน แต่ได้สานต่อนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้ไปเชิญชวนนักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนในไทย

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

คงต้องรอดูผลการแถลงผลงานของรัฐบาลว่า จะสร้างความประทับใจได้มากแค่ไหน และมีแผนงานในการจะผลักดันต่อไป ประกอบด้วยเรื่องอะไรบ้าง ขณะที่มีดราม่าเกิดขึ้นเมื่อ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 ธ.ค.ว่า ฝ่ายค้านได้เตรียมกระทู้สดที่จะถามนายกฯ ไว้แล้ว โดยให้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน. และผู้นำฝ่ายค้านในสภา เป็นผู้ถาม เราเลือกเรื่องที่สำคัญที่สุดและสังคมจับตามองมาถาม ทราบดีว่า ในวันที่ 12 ธ.ค. นายกฯ จะมีการแถลงผลงาน ซึ่งตรงกับวันเปิดสมัยประชุมพอดี แต่เราก็ได้แจ้งไปแล้วว่า การมาตอบกระทู้น่าจะเป็นเรื่องที่ดี และน่าจะสามารถสร้างความมั่นใจในหลายเรื่องให้กับประชาชนได้ มีเรื่องหนึ่งที่แปลกใจเหมือนกัน เมื่อช่วงต้นเดือนมีวิปรัฐบาลได้ทักมาส่วนตัว ถามว่าจะมีกระทู้ถามนายกฯ หรือไม่ ก็แจ้งไปแล้วว่า มี แต่อยู่ ๆ ก็จะแถลงผลงานในวันเดียวกัน ก็งง ๆ เหมือนกันว่า แล้วถามทำไม ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นช่วงเวลาไหนคงต้องคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน โดยจะมีการคุยกันภายในเพื่อวางแผนทั้งหมด

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

ส่วนประเด็นร้อนอีกเรื่องหนึ่ง ต้องรอดู นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) จะเสนอต่อที่ประชุมพรรค เพื่อขอถอนร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม กลับไปปรับปรุงแก้ไขใหม่หรือไม่ เพราะเป็นกฎหมายที่นายประยุทธ์และคณะเป็นผู้เสนอในนามส่วนตัว ไม่ใช่ความเห็นพรรค พท. ในการรับฟังความเห็นของประชาชนตาม มาตรา 77 ถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย ก็ไม่สามารถบรรจุวาระเข้าสภาได้ ส่วนจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ขอรอดูความเห็นประชาชน ที่จะสิ้นสุดการรับฟังความเห็นตาม มาตรา 77 ในวันที่ 1 ม.ค. 68 ก่อน อย่างไรก็ตาม ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาล ไล่ตั้งแต่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ไม่เห็นด้วย รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านอย่าง พลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ไม่เห็นด้วย ยกเว้นพรรคประชาชน (ปชน.) ที่เห็นด้วย เพราะมีการเสนอร่างกฎหมายในรูปแบบเดียวกัน โดยเรื่องค้างอยู่ที่สภา

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

สำหรับเนื้อหาของร่างกฎหมายที่ถูกเรียกว่า ป้องกันปฏิวัติ มาตรา 35 ที่ระบุว่า ห้ามใช้กำลังทหารเพื่อกระทำการที่มิชอบด้วยกฎหมายบางประการ เช่น ยึดอำนาจจากรัฐบาล ก่อกบฏ ขัดขวางการปฏิบัติราชการ เพื่อธุรกิจ หรือกิจการที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวของผู้บังคับบัญชา เป็นต้น ขณะที่การใช้กำลังทหารเพื่อการปราบปรามการจลาจล ให้เป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ส่วนมาตรา 42 ในส่วนของ สภากลาโหม จากเดิมที่ให้ รมว.กลาโหม เป็นประธานสภากลาโหม เปลี่ยนเป็น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสภากลาโหม ขณะที่การแต่งตั้งนายทหาร ชั้นนายพล ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ และ ครม.สามารถสั่งทบทวนรายชื่อใหม่ได้ โดยผู้เสนอร่างให้เหตุผลว่า ครม.เป็นองค์กรสูงสุดในฝ่ายบริหาร แต่กลับไม่มีหน้าที่ และอำนาจในการพิจารณาและให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

แต่ดูแล้วร่างกฎหมายดังกล่าวน่าจะแท้ง หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ กรณีนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.จะถอนร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ที่จะป้องกันการรัฐประหารว่า ในรัฐธรรมนูญ (รธน.) จริง ๆ ก็มีเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เราต้องแสดงจุดยืนนิดหนึ่งว่า รัฐบาลไม่มีเจตนาแทรกแซงงานของกองทัพ เมื่อถามว่าการออกกฎหมายป้องกันปฏิวัติเท่ากับสุมเชื้อไฟให้มันเกิดขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีความตั้งใจเลย เท่าที่พูดคุยกับกองทัพทั้งหมดก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน การทำงานของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหมเอง เวลาทำอะไร ก็รวบรวมความคิดเห็นอยู่แล้ว ไม่มีการทำอะไรโดยไม่ปรึกษากัน เราเน้นว่าทำอย่างไรให้ประเทศเราสงบสุข ประชาชนอยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่ใช่หาทุกมุมมองเพื่อหาความขัดแย้ง จะไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

เมื่อถามอีกว่า น.ส.แพทองธาร จะเป็นนายกฯ คนแรกในตระกูลชินวัตร ที่จะไม่ถูกรัฐประหารหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้มก่อนย้อนคำถามผู้สื่อข่าวว่า เมื่อกี้นักข่าวถามว่า นายกฯ อิ๊งค์จะเป็นคนแรกในตระกูลชินวัตรหรือเปล่าที่ไม่ถูกปฏิวัติ ทวนคำถามให้เผื่อไม่ได้ยิน ก็ไม่ทราบ อันนี้สื่อช่วยตอบด้วยแล้วกัน แต่คิดว่าจริง ๆ ในตอนนี้ทางออกของประเทศคือ การช่วยกันทำให้เศรษฐกิจดี ให้ประชาชนมีกินมีใช้ ถูกไหม อันนี้คือสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำ ในการประชุมทุกอย่างเป็นเรื่องของเศรษฐกิจแทบจะ 100% เพราะไม่มีเวลาของความขัดแย้ง จะหยุดประเทศไว้ไปต่อไม่ได้ ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายรักษาความสงบเอาไว้ เพื่อให้ประเทศไปต่อ ทุกคนอยากมาลงทุน เรายังแก้ปัญหาจากโควิดไม่หมด เรื่องความขัดแย้งบางเรื่องต้องมองข้ามไป เพื่อประเทศและประโยชน์ของประชาชน เมื่อถามอีกว่าการที่ สส.พท.ถอยแบบนี้ เป็นเพราะไม่อยากสุมเชื้อไฟ หลังกระแสสังคมตีกลับหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นสิทธิของ สส.ในการยื่นกฎหมาย แต่ไม่ใช่มติของพรรค

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

เช่นเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันว่า พรรค พท.จะคุยกันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) เป็นความคิดริเริ่มของบางคน โดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง แต่ถ้าผ่านแล้ว ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่การที่มีคนบอกว่านายใหญ่สั่งมา ตนเองไม่รู้เรื่อง ได้ยินยังตกใจ จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย แก้แค่ระเบียบการก็พอ จะทำงานให้คล่องตัวมากขึ้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ก็ตกใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้ากระบวนการของพรรค เมื่อถามว่าการที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกตัวว่าไม่สนับสนุนการแก้ไขระเบียบกระทรวงกลาโหมนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า พรรค ภท.อาจจะพูดเร็วไปหน่อย ยังไม่ได้ถามว่าเป็นมติของพรรค พท. ภท.รีบหล่อเร็วไปนิด ขอให้หล่อช้า ๆ หน่อย ยืนยันไม่มีอะไรต้องอธิบาย เพราะพรรคร่วมรัฐบาลต้องฝึกการทำงานร่วมกัน

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

เมื่อถามย้ำว่าต้องโทรฯ ไปหาคนหล่อหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่จำเป็น คนที่หล่อเร็ว ขอให้หล่อช้านิดนึง เมื่อถามอีกว่าวันนี้นายกฯ พูดว่าไม่รู้ว่าจะเป็นนายกฯ คนเดียวในตระกูลชินวัตร ที่จะไม่ถูกรัฐประหารหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ที่จริงแล้วมีอะไรที่เยอะกว่านั้น รับรองรัฐประหารไม่มีแล้ว เพราะมีวิธีการเปลี่ยนรัฐบาลหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐประหาร รัฐประหารแล้วมันช้ำ 9-10 ปีที่ผ่านมา ประเทศช้ำ ทำให้การแก้ปัญหาต่าง ๆ ยากขึ้น

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

แต่ปัญหาของร่างกฎหมายป้องกันปฏิวัติ คงจบลงไปได้ แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพรรค พท.กับ ภท. จะมีปัญหาหรือไม่ หลัง นายทักษิณ ออกมาติงการให้ความเห็นของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ในฐานะ หัวหน้าพรรค ภท. รีบหล่อไปนิด เพราะพรรคร่วมรัฐบาลต้องฝึกการทำงานร่วมกัน จะกลายเป็นรอยร้าวของรัฐบาลในอนาคต

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีแนวโน้มจะจบลงได้ เมื่อ พปชร. จะมีมติขับ 20 สส. ในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค พปชร. พ้นพรรค ​อ้างอุดมการณ์ไม่ตรงกัน​ โดย นายไพบูลย์​ นิติตะวัน ​ เลขาธิการพรรค พปชร. แถลงภายหลังประชุมพรรควันนี้ว่า​ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยตามที่ตนในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ กรณี สส.​พปชร. 20 คน มีการกระทำอาจฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค และเสนอว่าการกระทำของสมาชิกพรรคทั้ง 20 คน มีเหตุจากแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พปชร. ท่านอื่น​ เกินกว่าจะแก้ไข ทำความเข้าใจให้เป็นไปแนวทางเดียวกันได้

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

เหตุดังกล่าวเห็นว่า สส. ทั้ง 20 คนนั้น มีการกระทำลักษณะที่มีเหตุร้ายแรงอย่างอื่นตามข้อบังคับ 54 (4) ตนในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบและเลขาธิการพรรคจึงเสนอให้ที่ประชุมมีมติให้สมาชิกภาพของทั้ง 20 คนสิ้นสุดลง ตามข้อบังคับ 54 (5) และวรรค 2 และขอให้ที่ประชุมมีมติให้มีการประชุมร่วมของคณะ กก.บห.และสส.​พรรค พปชร. เพื่อพิจารณาลงมติ ตามข้อบังคับที่ 54 (5) และวรรค 2 ในวันที่ 12 ธ.ค. 67 เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา​ ซึ่งที่ประชุมพรรค พปชร. วันนี้เป็นการเห็นชอบชั้นที่ 1 แต่ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะต้องมีการลงมติโดยใช้เสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมกัน ระหว่าง กก.บห.และสส.​พรรค พปชร.

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

เมื่อถามว่า เป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ หรือมีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับคดีของคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร ที่ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดิน ส.ป.ก. ไร่ภูนับดาว นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น เป็นไปตามที่ตนแถลง โดยยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี เพราะแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราพยายามที่จะพูดคุยประสาน เพื่อที่จะให้มาในแนวทางเดียวกัน แต่คิดว่าเมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ถือว่าเป็นเหตุร้ายแรงอื่น ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมาย ควรจะมีมติให้ สส.ทั้ง 20 คน พ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรค พปชร.

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

ด้าน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังพรรค พปชร. เตรียมประชุมร่วม กก.บห.และ สส. เพื่อลงมติขับ สส. 20 คน ที่สังกัดกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรค พปชร. ซึ่งคาดว่าจะย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรมว่า พร้อมแล้วค่ะ เมื่อถามว่า ส่วนในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะมี สส.คนใดเข้าร่วมประชุมบ้างเพื่อให้ได้เสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมของ กก.บห.และ สส.พรรค พปชร. เพื่อให้ขับออกจากพรรค นางนฤมล กล่าวว่า ต้องถาม สส. 20 คน แต่ทราบว่ามีการแจ้งแล้วว่า ในขณะนี้ก็รอให้ขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ ทางกฎหมายเสร็จสิ้นก่อน ซึ่งคาดว่าการเปิดที่ทำการพรรค และการประชุมพรรคกล้าธรรม อาจจะเกิดขึ้นได้ในปีหน้า 2568 เพราะหากจะมีการประชุมใหญ่สามัญต้องแจ้งกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีกำหนดว่าจะต้องแจ้งก่อนล่วงหน้ากี่วัน

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์

จากนี้ต้องรอดูกระบวนการตรวจสอบไร่ภูนับดาว จะเดินหน้าต่อหรือไม่ และความสัมพันธ์ระหว่าง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเป็นอย่างไรต่อไป.

พรรคพลังประชารัฐขับสสกลุ่มผู้กองธรรมนัสเดลินิวส์