【ผลบอลคาราบัค】“ยกพลคนน้ำพริก” เรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทย | เดลินิวส์

“น้ำพริก” อาหารที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน ทุกภูมิภาคของประเทศไทยต่างมีน้ำพริกของตัวเอง มากกว่านั้นน้ำพริกเป็นมากกว่าอาหาร เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทย มีความหลากหลายและสื่อถึงเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น สะท้อนให้เห็นทรัพยากรที่มีความหลากหลายของแต่ละท้องถิ่น

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส โดยศูนย์สื่อศิลปวัฒนธรรม เปิดตัวรายการ “ยกพลคนน้ำพริก” เรียลลิตี้ที่จะพาทุกคนไปค้นหาสุดยอดน้ำพริกจากทั่วประเทศไทย พร้อมทั้งร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “น้ำพริก มรดกแห่งเครื่องจิ้ม” เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 ณ ลานอัฒจันทร์กลางแจ้ง มิวเซียมสยาม กรุงเทพมหานคร

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

**น้ำพริกทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

รศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส กล่าวถึงที่มาที่ไปของรายงการ “ยกพลคนน้ำพริก”ว่า ถือเป็นประเด็นสำคัญและเป็นเป้าหมายปีนี้และปีหน้าทั้งปี โดยตั้งแต่ปี2567 เป็นต้นมาไทยพีบีเอสได้กำหนดวาระสำคัญที่ต้องการขับเคลื่อน หนึ่งในวาระสำคัญที่ประกาศไว้ คือ ประเด็น “ทุนทางวัฒนธรรม” ในฐานะสื่อจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย นำไปสู่ระดับชาติและระดับสากลต่อไป  ส่วนเหตุผลที่หยิบยกเรื่อง “น้ำพริก” ออกมาสื่อสาร เพราะน้ำพริกเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย จึงเริ่มต้นทำเรื่องน้ำพริกมาตั้งแต่ต้นปี2567 จนมาถึงวันนี้ไทยพีบีเอสได้ทำงานร่วมกับหลายภาคส่วนในสังคมทั้งนักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน และจะเดินทางต่อไปในปี 2568 ซึ่งได้แนวรวมจากผู้คนจำนวนมาก

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

 “ไม่น่าเชื่อว่าน้ำพริกทำให้เกิดการเชื่อมต่อจำนวนคนมหาศาล เราได้ผู้รู้ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักประวัติศาสตร์ ได้ Food activist  (นักเคลื่อนไหวด้านอาหาร)  ได้พ่อครัว แม่ครัวน้ำพริกทั่วประเทศไทย ทำให้เห็นความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความมั่นคงทางอาหาร เพราะน้ำพริกหนึ่งถ้วยขยายไปได้ไกล และจะขยายไปได้ไกลแน่นอนเพราะปีหน้าไทยพีบีเอส จะมีรายการที่วางแผนกันมานาน คือรายการ “เรียลลิตี้ยกพลคนน้ำพริก”และงานน้ำพริกมรดกแห่งเครื่องจิ้ม ในวันนี้เป็นวันเปิดตัว เพื่อเตรียมสู่รายการใหญ่ในปีหน้า และเปิดตัวหนังสือเรื่องราวของน้ำพริกต่อไป”  

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ ไทยพีบีเอส  ศูนย์สื่อศิลปวัฒนธรรม จัดกิจกรรมสัญจรเสวนา น้ำพริก  โภชนวัฒนธรรมแห่งยุค ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมในระดับท้องถิ่นได้สัมผัสประสบการณ์และความรู้จากน้ำพริกท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด กิจกรรมแคมป์ “เปิดครก ยกสำรับ น้ำพริก พื้นบ้าน” เรียนรู้ ถอดบทเรียนน้ำพริกในระดับตำนานจากกูรู แม่ครัวเอก ยอดฝีมือด้านน้ำพริก ระดับท้องถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

**น้ำพริกกินคู่กับผักพื้นบ้านอร่อยแบบ “เป็นชู้”

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

พ่อเลี่ยม บุตรจันทา ปราชญ์ชาวบ้านแห่งสวนออนซอน จังหวัดฉะเชิงเทรา บอกเล่าในเวทีเสวนา   “น้ำพริก มรดกแห่งเครื่องจิ้ม” ว่า การปรุงน้ำพริกยังได้เห็นวิถีแห่งการแบ่งปัน เมื่อเราได้ปลา 1 ตัว จะทำอย่างไรให้เกิดการกินอย่างทั่วถึง เมนูที่นึกถึงคือ “น้ำพริก” ในอดีตการปรุงน้ำพริกแบบง่าย ๆ คือใช้พริกกับเกลือ แต่ที่สำคัญที่เป็นของคู่กันคือ ผักจิ้ม ขึ้นอยู่กับภูมิภาคว่ามีผักจิ้มแบบไหน แต่โดยส่วนตัวชอบผักพื้นบ้านและปลูกครั้งเดียวเก็บกินได้ตลอด ยกตัวอย่าง “ต้นอโศก” ดอกแกงส้มอร่อย และยอดใช้จิ้มน้ำพริก โดยเฉพาะน้ำพริกปลาร้าสับ และการกินน้ำพริก มีผักเครื่องแนมหรือเครื่องเคียงที่คู่กัน ยกตัวอย่าง “ปลาร้าสับ” ต้องกินกับ “ผักกระโดน” ทั้งกระโดนน้ำ กระโดนโคก ซึ่งมีรสฝาดเมื่อกินคู่กับปลาร้าสับจะทรงคุณค่าทางอาหาร

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

ด้าน คุณสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการด้านอุษาคเนย์ เสริมว่า ผักที่กินคู่กับน้ำพริกแล้วอร่อย ภาษาเหนือบอกไว้ว่า“เป็นชู้”กัน น้ำพริกผักของคนเหนือจะต้องกินกับ”ผักขี้หูด” ซึ่งผักขี้หูดมีรสเผ็ดนิดๆ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะเข้ากันเหมือนเป็นชู้กัน ซึ่งเป็นผัวเมียยังไม่เท่ากับการเป็นชู้

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

คุณจรงค์ศักดิ์ รองเดช (สตังค์) ผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่น อาหารและวัตถุดิบทั่วประเทศ ในฐานะผู้ผลิตรายการ “ภัตตาคารบ้านทุ่ง” บอกเล่าว่า คนใต้มีภาษาของกินน้ำพริกกับผักแนมว่า “ลงกันอย่างเปลาะ” ยกตัวอย่าง น้ำพริกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จะต้องกินคู่กับสาหร่ายน้ำชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “สาย” ซึ่งเป็นพันธุกรรมที่เกิดมาพร้อม ๆกัน ในเวลานั้นได้เห็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่รู้จักกินตามฤดูกาล ยกตัวอย่างการกินน้ำพริกกะปิถ้าจะให้หอมอร่อยคือใช้ พริกขี้นก เม็ดจะเล็กกว่า พริกขี้หนู

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

สำหรับน้ำพริกในดวงใจคือ “แจ่วบอง”และ“น้ำปลามอญ”  “น้ำพริกน้ำผัก” “น้ำพริกนา” น้ำพริกชนิดนี้มีรสชาติ ไม่ต่างจากพริกหนุ่ม ซึ่งรสชาติความอร่อยที่มีความเผ็ดเอามากินคู่กับหนังไก่ทอด ขณะที่น้ำพริกหนุ่มกินคู่กับแคปหมูเป็นอีกอย่างที่เป็นชู้กัน”

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

** “น้ำพริก”ยกให้เป็นจักรวาลของอาหาร

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

ผู้ผลิตรายการ “ภัตตาคารบ้านทุ่ง” บอกอีกว่า ได้เรียนรู้เรื่องราวของน้ำพริกทั่วไทยทำให้เห็นภูมิปัญญาที่น่าสนใจ และขอยกให้ “น้ำพริก” เป็นจักรวาลของอาหาร ตัวเองในฐานะคนใต้ เรียกน้ำพริกว่า “น้ำชุป” ต้องกินกับผัก ทำให้เราได้รู้จักพืชผักหลากหลาย และจากการทำรายการภัตตาคารบ้านทุ่งมา 10 กว่าปี ทำรายการไปแล้ว 590 ตอน พอไปสรุปรวม พบว่าตัวเองได้ชิมน้ำพริกกว่า 100 ชนิด และน้ำพริกบ่งบอกพันธุกรรมพื้นถิ่น ซึ่งมีหนังสือพริกวิทยา ที่รวบรวมพริกสายพันธุ์พริกไว้ 80 ชนิด แต่ไม่มี “พริกนา”  ซึ่งพริกนาอยู่ในพื้น อ.เขาสมิง จ.ตราด ลักษณะคล้ายพริกขี้หนูผสมกับพริกจินดา “พริกนา” มีลักษณะคล้ายพริกหยวก ภายนอกจะหงิกหงอ รสชาติเผ็ดกว่าพริกหนุ่ม 30 % นำมายำ ตำน้ำพริกใส่เห็ดใส่ปลาดุกย่าง เมื่อนำมาเป็นพริกแห้งจะได้พริกป่นสีสวย ซึ่งชาวบ้านแต่ละพื้นที่จะมีความรู้ทางพันธุกรรมของพริก จะรู้ว่าเผ็ดขนาดไหนเหมาะกับการทำเมนูอะไร

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

“วัตถุดิบในการปรุงน้ำพริก ชาวบ้านจะใช้ความสดของวัตถุดิบในท้องถิ่นและออกตามฤดูกาลทำให้น้ำพริกอร่อย  เช่นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล หรือที่เรียกว่า “ช่วงหัวลม” ช่วงนี้อุณหภูมิในร่างกายจะเปลี่ยนแปลง บางคนจะโหยหารสเผ็ดเพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้กับร่างกาย เพราะสารแคปไคซินในพริก จะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความร้อน และมีผลโดยตรงต่อต่อมใต้สมองเพื่อผลิต เอนโดรฟิน เวลาที่เรากินน้ำพริก เราจะรู้สึกว่ามีชีวิตชีวา และในต่างจังหวัดมีพืชผักสารพัดกินคู่กับน้ำพริก” คุณจรงค์ศักดิ์ กล่าว

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

**พริกมาสู่อุษาอาคเนย์ในศตวรรษที่ 22

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

คุณกฤช เหลือลมัย นักโบราณคดี นักเขียน คอลัมนิสต์และผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์อาหาร ย้อนเรื่องราวของพริกให้ฟังว่า ราวพุทธศวตวรรษที่ 12  ผู้คนสมัยพ่อขุนรามคำแหง สมัยนั้นไม่เคยกินพริกเผ็ดแบบในสมัยนี้ เพราะจากการศึกษาของนักโบราณคดี พบว่าพริกมีพื้นเพมาจากอเมริกาใต้ อเมริกากลาง กว่าจะมีการค้นพบพริกแล้วกระจายไปสู่ทั่วโลก จนมาสู่อุษาอาคเนย์ล่วงมาสู่ศตวรรษที่ 22 แล้ว ก่อนหน้านั้นผู้คนกินเครื่องเทศที่รสร้อนอย่าง มะแขว่น พริกไทย ดีปลี กำจัด จะค้าน (เถาวัลย์ชนิดหนึ่งสับใส่แกงจะมีรสเผ็ด )รวมทั้งผักต่างๆที่ให้ความเผ็ดร้อน ซึ่งคนแต่ละภาคมีเครื่องเทศที่เผ็ดร้อนต่างๆกัน โดยนำเครื่องเทศเหล่านี้มาคลุกเคล้ากับหอมกระเทียมทำให้รสชาติตามสภาวการณ์ จากหลักฐานทางโบราณดคีก่อนศตวรรษที่ 21ที่ขุดได้ เจอพริกไทย มะแขว่น ลูกกำจัด พริกพราน ในหลุมศพ  แต่ไม่เคยเจอพริก

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

** “น้ำพริก”เป็นโครงสร้างสำรับไทย

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

คุณอนุสรณ์ ติปยานนท์ นักเขียนและ Food activistกล่าวว่า น้ำพริกมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และมีรสพิเศษที่ซ่อนอยู่คือรสเผ็ด จะมีความแตกต่างของภูมิภาคมากพอสมควร ตรงนี้ทำให้น้ำพริกกระจัดกระจาย ในกลุ่มที่ไม่กินรสเผ็ดมากๆจะไปเล่นเรื่องสีของน้ำพริก  ในกลุ่มที่ไม่สามารถหาพริกได้จะหาบางสิ่งมาปนเช่นพริกไทย และเป็นครั้งแรก และปีแรกที่เราได้เห็นว่าน้ำพริกมีพื้นที่ ที่ผ่านมาเราเคยเห็นการจัดงานเรื่อง “ข้าว”และเคยได้ยินว่ากินข้าวกับน้ำพริก แต่ไม่เคยได้ยินว่าเป็นน้ำพริกชนิดไหน ซึ่งในตะวันตกที่ไม่สามารถกินพริกได้ แต่สิ่งที่น่าทำมากคือ “ไอศกรีมพริก” เอาพริกแต่ละชนิดมาทำให้ส่วนผสมจนกระทั่งคนกินพริกได้

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

น้ำพริกนอกจากเล่าเรื่องการกินกับของคู่กันแล้วอร่อยยังมีสิ่งที่ห้ามทำ หรือ “ขึด”ตัวอย่าง “น้ำพริกทำมัง” ห้ามใส่กระเทียมเด็ดขาด เพราะจะไปกลบกลิ่นทำมัง ซึ่งมีกลิ่นคล้ายแมงดา น้ำพริกของอีสานเช่นกัน น้ำพริกแมงแคง (แมลงตัวเล็กที่มีกลิ่นแรง) ห้ามใส่กระเทียม ในแวดวงเกิด “จารีตของน้ำพริก” แสดงว่าคนกินน้ำพริกมาอย่างยาวนานเช่น “น้ำพริกน้ำปู๋” ต้องกินกับ “หน่อไม้” ตัวน้ำพริกคือการสังเคราะห์รสชาติความเผ็ดของแต่ละพื้นที่ และรสเผ็ดทำให้คนมีความอยากอาหาร และทำให้ข้าวที่มีรสจืดสามารถเดินทางไปต่อ น้ำพริกทำให้การกินข้าวมีรส ถือเป็นโครงสร้างของสำหรับไทยเป็น “มรดกรส”จริงๆ ถ้าคนไทยไม่กินน้ำพริกข้าวจะไม่มีวันเติบโตได้ขนาดนี้

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

**“ในรอยรสพริก”มากกว่าน้ำพริกคือความมั่นคงทางอาหาร

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

คุณพรรณี รุ่งสว่าง ผู้อำนวยการศูนย์สื่อศิลปวัฒนธรรม ไทยพีบีเอส ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การสัญจรเรื่องราวของน้ำพริกทุกภูมิภาคว่า จุดเริ่มต้นของน้ำพริกแตกมาจากโจทย์เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ และมาลงตัวที่อาหารและ น้ำพริก เป็นอาหารที่ชาวบ้านต้องกินและกินแทบทุกมื้อ และจากการปรึกษาอ.ต้น (คุณอนุสรณ์ ติปยานนท์) ได้ให้ข้อคิดว่า ต่อให้คนทำรายการตายไปแล้ว ยังเล่าเรื่องราวของน้ำพริกไม่หมด จึงลงไปทำข้อมูลได้พบน้ำพริกจำนวนมาก และเมื่อทำรายการทีวี มาคิดว่าโจทย์สำคัญ ไม่ควรมาจากคนทำรายการ ควรมาจากโจทย์ของชาวบ้าน  จึงใช้โจทย์ของน้ำพริกเพื่อให้เห็นคน เห็นทุกอย่างที่สืบค้นมาจากถ้วยน้ำพริกมีเรื่องราวต่าง ๆ  มีเรื่องทรัพยากร มีวิถีท้องถิ่น จากคิดว่าน้ำพริกปรุงง่าย ๆ แค่จิ้มผักแล้วจบ ปรากฏว่าไม่จบ เราไปเจอวัตถุดิบที่หายไปในแต่ละที่ เจอวัตถุดิบที่เราไม่รู้ ยกตัวอย่าง ใบทำมัง ให้กลิ่นที่พิเศษมาก สามารถใช้แทนแมงดาได้และอร่อยมาก ซึ่งในการทำรายงานเป็นสารคดี “ในรอยรสพริก” มีจำนวน 20 ตอน ออนแอร์วันแรกวันที่ 14 ธ.ค.67 ทุกวันเสาร์อาทิตย์เวลา 20.30 น. ทำให้เรารู้จักน้ำพริกของภาคต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

**เรียลลิติ้ “ยกพลคนน้ำพริก” ประชันสูตรน้ำพริกแต่ละบ้าน

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

คุณพรรณี กล่าวว่าได้ทำสัญจรน้ำพริกใน 4 ภาคทำให้ได้ข้อมูลจำนวนมาก จนเป็นแนวคิดที่จะทำรายการในปีหน้า โดยทำให้เป็นรายการเรียลลิติ้ยกพลคนน้ำพริกเพื่อให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นโจทย์ที่มาจากชาวบ้าน หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่แค่ถ้วยน้ำพริก แต่ให้ความสำคัญกับคน ดังนั้นผู้ชมที่ชมรายการจะเห็นไปมากกว่าน้ำพริกแต่ละถ้วย ได้เห็นทรัพยากรในท้องถิ่น จะได้ทางออกของสิ่งแวดล้อม หรือปัญหาท้องถิ่นคืออะไร แต่สามารถมองผ่านไปยังถ้วยน้ำพริกได้

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

“รายการรูปแบบนี้ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เพราะมีการใช้องคาพยพและใช้เครือข่ายของไทยพีบีเอสจำนวนมาก ไม่ใช่รายการแค่ออกอากาศ แต่จะเป็นการขับเคลื่อนให้เห็นว่าทรัพยากรในท้องถิ่นจะอยู่กินอย่างยั่งยืนอย่างไร โดยหลักการคือ “การประชัน” ไม่ใช่การแข่งขัน เปิดโอกาสให้แต่ละครอบครัวที่มีสูตรเด็ด เคล็ดลับมาถ่อยทอด กำหนดทีมละไม่เกิน 3 คนพร้อมตั้งชื่อทีม โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องสัมพันธ์กับวัตถุดิบในท้องถิ่นอย่างไร  โดยให้ถ่ายเป็นคลิปมาความยาวไม่เกิน 3 นาที จากนั้นแอดไลน์ @ThaiPBS แล้วพิมพ์ในช่องแชทว่า ยกพลคนน้ำพริก ก็สามารถ อัปโหลดคลิปและกรอกใบสมัครได้เลย จะสิ้นสุดการส่งคลิปวันที่ 10 ม.ค.68 โดยคณะกรรมการที่เป็นผู้คัดเลือกผลงานจะมีคนในท้องถิ่นมาร่วมด้วย ทั้งนี้ สิ่งที่มองไปท้ายที่สุดจะเป็นผลิตภัณฑ์น้ำพริกที่เกิดขึ้น เป็นแบรนด์ของท้องถิ่นนั้นร่วมกับไทยพีบีเอส   ”

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

จะเห็นว่าเป็นรายการที่มีส่วนร่วมทั้งผู้ผลิตและชาวบ้าน เพื่อเล่าเรื่องราวน้ำพริกให้น่าสนใจตอกย้ำทุนทางสังคมที่มีคุณค่า ทำหน้าที่ตามหาสูตรน้ำพริกที่เก็บซ่อนไว้ในที่ใดที่หนึ่ง เติมเต็มประวัติศาสตร์ของน้ำพริกไทยให้ครบเครื่อง

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์

มาร่วมกันส่งเสริมและผลักดันให้ “น้ำพริก” เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทยที่รู้จักในระดับสากล และสร้างความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม อาหารที่ทรงคุณค่าของไทยให้ยั่งยืนต่อไป สามารถติดตามรายการ “ยกพลคนน้ำพริก” เริ่มกุมภาพันธ์ 2568 ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3

ยกพลคนน้ำพริกเรียลลิตี้ประชันสูตรเด็ดน้ำพริกทั่วไทยเดลินิวส์