【หุ้นดาวโจนส์ หวย】‘เหยื่อทางเพศ’ยุคนี้ ‘หญิงจะสู้กลับ’ จะเอาผิด‘ยังสู้ยาก?’ | เดลินิวส์

ทั้งนี้ ยิ่งผู้ชายมีสถานะทางสังคม บางคนมีข่าวฉาวกับเรื่องแบบนี้อยู่ซ้ำ ๆ ก็ทำให้ยิ่งน่าคิด??

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

เรื่องนี้ก็น่า “พลิกแฟ้มดูมุมวิเคราะห์”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

เมื่อ “ถูกล่วงละเมิด แล้วดำเนินคดี”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

ที่ผ่านมา “เหยื่อหญิงมีอุปสรรคมาก!!”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

เกี่ยวกับบทวิเคราะห์เรื่องนี้ ที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะพลิกแฟ้มสะท้อนต่อข้อมูลวันนี้ เป็นข้อมูลจากบทความที่เผยแพร่ไว้ใน เว็บไซต์ทีดีอาร์ไอ ที่น่าสนใจ บทความชื่อ “สู้ให้ชนะ : บนความไม่เป็นธรรมกับผู้เสียหายในคดีการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ” โดย ดร.บุญวรา สุมะโน และ ชาตบุษย์ ฮายุกต์ ซึ่งได้ระบุถึงเรื่องนี้ไว้สรุปได้ว่า การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนดัง คนมีชื่อเสียง หรือมีตำแหน่งสำคัญกรณีลักษณะนี้มักนำสู่การตั้ง “คำถาม” ว่า เหตุใดไม่สามารถเอาผิดตั้งแต่เมื่อกระทำผิดครั้งแรก??จนทำให้ “มีเหยื่อเกิดขึ้นซ้ำ ๆ”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

ทั้งนี้ จากประเด็นคำถามประเด็นนี้ ในบทความที่มีการเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ของทีดีอาร์ไอก็ได้มีการระบุไว้ว่า มิอาจปฏิเสธว่า ประเทศไทยยังมี “ช่องว่างในกระบวนการยุติธรรม” และยังมี “ปัญหาจากค่านิยมทางสังคม” ที่ทำให้ “ผู้เสียหายจากการถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศนั้นต้องเผชิญกับความเสียเปรียบหลายประการ” จนมีคำกล่าวว่า “ถึงสู้ไปก็ไม่ชนะ??” โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดคำกล่าวดังกล่าว กรณีนี้ก็อาจสามารถแบ่งตามขั้นตอนการดำเนินคดี ที่

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

ฉายภาพ “ความเสียเปรียบของเหยื่อ”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

สำหรับ “ช่องว่าง ปัญหา” ที่ทำให้ “เหยื่อหญิงเสียเปรียบเมื่อเข้าสู่กระบวนการต่อสู้ทางคดี” นั้น ในบทความเดิมได้ระบุไว้ว่า เริ่มต้นจาก ขั้นแรกคือ “การแจ้งเหตุ” โดยจาก ค่านิยมชายเป็นใหญ่ และมักด้อยค่าผู้หญิง ที่ยังฝังรากลึก จึงทำให้ที่ผ่านมาเมื่อเกิดกรณีความผิดเรื่องเพศ ไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ค่านิยมนี้ยังเป็นอุปสรรค ที่ทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งเหตุ หรือแม้ตัดสินใจแจ้งความ เหยื่อมักจะถูกถามหาถึงพยานหลักฐานที่เห็นชัดเจนและเป็นรูปธรรม ที่จะพิสูจน์ว่าผู้เสียหายโดนคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ เจ้าหน้าที่ถึงจะรับแจ้งความ จนทำให้“เหยื่อเหมือนถูกคุกคามซ้ำ!!”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

นอกจากนี้ “ข้อจำกัดทางด้านบุคลากร” ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ นี่ก็นับว่าเป็นอีกสาเหตุ “ช่องว่าง ปัญหา” ที่ทำให้การแจ้งเหตุคดีความผิดในลักษณะนี้มีน้อยมากกว่าความเป็นจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ จำนวนของพนักงานสอบสวนหญิง ที่ยังมีจำนวนน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนของพนักงานสอบสวนทั้งหมดจนทำให้สถานีตำรวจบางแห่งไม่มีพนักงานสอบสวนหญิงประจำอยู่ ซึ่งกับปัจจัยเรื่องนี้ก็มีผลไปถึงการที่ เหยื่อไม่กล้าที่จะเล่าเหตุการณ์ให้พนักงานสอบสวนผู้ชายฟัง

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

และอีกกรณีคือปัญหาที่เกิดกับ กลุ่มแรงงานข้ามชาติหญิง ซึ่งก็พบ “ข้อจำกัดในการแจ้งความ” เนื่องจากมักจะ ขาดล่ามแปลภาษาประจำสถานีตำรวจ นี่ก็เป็นอีก “ช่องว่าง ปัญหา” ซึ่งในไทยก็มีเหยื่อทางเพศกลุ่มนี้อยู่เรื่อย ๆ

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

ถัดมา ขั้นที่สองคือ “การสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน” ซึ่งหลายกรณี ผู้เสียหายต้องกลับไปสถานที่เกิดเหตุเพื่อแสดงให้ตำรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้น ที่เป็นขั้นตอนที่สร้างความอับอาย และ “ซ้ำเติมจิตใจผู้เสียหาย!!” รวมถึงการที่ฝ่ายผู้กระทำพยายามใช้หลักฐานอื่นโจมตีผู้เสียหาย เช่น ข้อความเชิงชู้สาว รูปถ่ายในชุดวาบหวิว หรือแม้แต่การที่ผู้เสียหายไม่ปฏิเสธพฤติกรรมคุกคามอย่างชัดแจ้ง เนื่องจากกฎหมายมองว่าหากมีความ “ยินยอม” เกิดขึ้น การกระทำผิดที่กล่าวอ้างย่อมไม่ถือว่าผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องร้องหรือแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี ซึ่ง การพิสูจน์ความยินยอมมีประเด็นที่ซับซ้อน

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

อาจ “ยิ่งส่งผลเสียต่อเหยื่อผู้เสียหาย”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

ขั้นที่สามคือ “การดำเนินคดีในศาล” การพิจารณาคดีในคดีอาญานั้นจะใช้ระบบกล่าวหา ผู้เสียหายต้องพิสูจน์ว่าถูกกระทำจริง ซึ่งหากไม่สามารถพิสูจน์ได้ จะทำให้ผู้กระทำพ้นข้อกล่าวหา ซึ่ง การเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดในศาลอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายของเหยื่อ โดยเฉพาะเมื่อถูกตั้งคำถามถึงความยินยอมที่อาจสื่อในทางกล่าวโทษผู้เสียหาย เช่น แต่งกายยังไง ดึกดื่นออกมาทำไม อีกทั้งยังมีประเด็น บทลงโทษที่ไม่จูงใจให้เอาผิด อาทิ กรณีไม่เข้าข่ายอนาจารหรือข่มขืน จะเป็นเพียงความผิดลหุโทษ มีโทษสูงสุดเพียงจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับเท่านั้น

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

และ ขั้นสุดท้ายคือ “การชดเชยและช่วยเหลือเหยื่อ” ที่แม้ผู้เสียหายจะเรียกค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูทางร่างกายและจิตใจ หรืออื่น ๆ ได้ตามกฎหมาย แต่ก็ยังจำกัดความผิดที่กระทำต่อผู้เสียหายไว้ โดยต้องเป็นความผิดเกี่ยวกับเพศที่เป็นการข่มขืนกระทำชำเราหรืออนาจาร โดยที่ ไม่ครอบคลุมไปถึงการทำให้เหยื่อขายหน้า หรือรังแกข่มเหงคุกคาม จนทำให้เหยื่อได้รับการเยียวยาน้อยกว่าความผิดอื่น ๆ ทั้งนี้ ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นโดยสังเขปกรณี “ช่องว่างต่าง ๆ” ที่บทความเรื่องนี้ที่เผยแพร่อยู่ใน เว็บไซต์ทีดีอาร์ไอ สะท้อนไว้นานแล้ว ซึ่งมาถึงวันนี้ “น่าคิดว่าช่องว่างปัญหานี้แคบลงแค่ไหน??”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

“หญิงเหยื่อทางเพศชาย” นี่ “ยังมีมาก”

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

“เหยื่อหญิงสู้กลับชายที่ทำผิด” วันนี้

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

สู้เพื่อจะเอาผิด “ยังสู้ยากหรือไม่??”.

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์

เหยื่อทางเพศยุคนี้หญิงจะสู้กลับจะเอาผิดยังสู้ยากเดลินิวส์