【ผลบอลสด วีไอพี】อันตรายแก่ทั้งทารก-มารดา..ถ้าถุงน้ำคร่ำรั่ว!! ‘รพ.สุขุมวิท’ รับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จ | เดลินิวส์
มีประวัติเคยแท้ง เมื่อคราวตั้งครรภ์ครั้งก่อน
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์ต้อนรับปีงูเล็ก 2568 ด้วยสาระน่ารู้น่าสนใจและได้ประโยชน์จาก “อุ่นใจ ใกล้หมอ” โดยมี “โรงพยาบาลสุขุมวิท”ให้ข้อมูลสนับสนุนเป็นประจำเรื่อยมา เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ความรู้ตลอดทั้งเทคโนโลยีก้าวหน้าทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องจัดเตรียมไว้เป็นศักยภาพและความพร้อมสำหรับโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์สามารถรับมือในการบำบัดรักษาตลอดทั้งดูแลแก้ไขสถานการณ์ของผู้ป่วยที่อาจรุนแรงถึงขั้นวิกฤติ จากสารพัดโรคภัยไข้เจ็บที่มาเล่นงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำเอาวุ่นวายยิ่งกว่าขายปลาช่อนทั้งตัวผู้ป่วยเองไปจนถึงผู้ดูแลที่ต้องอยู่ในภาวะที่อาจคิดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อมีปัญหาที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น ดังเช่นกรณีของสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งหลังจากแต่งงานก็หวังจะได้ทายาทมาสืบสกุลแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เชยชมสมาชิกใหม่เสียที แม้ว่าคุณภรรยาจะได้ตั้งครรภ์มา 2 ครั้งก็มีอันต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไปเสียก่อน ซึ่งก็มิได้ส่งผลให้สามีภรรยาคู่นี้ลดละความตั้งใจในการมีบุตรแต่อย่างใด โดยไปพึ่งพากรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ช่วยให้มีโอกาสตั้งครรภ์มาเป็น “ความหวังใหม่” สมความตั้งใจอีกครั้ง ยิ่งกว่านั้นยังทราบด้วยว่าเป็น “ครรภ์แฝด” เพิ่มความยินดีปรีดาให้อีกต่างหาก แต่เมื่ออายุครรภ์นับได้ 16 สัปดาห์ก็กลับเจอภาวะไม่คาดฝันขึ้นมาสร้างปัญหาใหม่ทำให้ต้องพึ่งพาหาหมอ โดยไปเข้ารับการดูแลรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งโดยไม่รอช้า แต่เมื่อผ่านไปอีกหลายสัปดาห์แล้วสถานการณ์ยังไม่น่าวางใจจึงได้รับการส่งต่อไปรับการดูแลรักษาที่ “โรงพยาบาลสุขุมวิท” ซึ่งมี “หน่วยดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติ” โดยตรง ส่วนที่ว่ามีการดูแลแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ช่วงนั้นแบบไหนอย่างไรนั้น ขอเชิญติดตามได้จาก “อุ่นใจ ใกล้หมอ” โดยท่านที่มีส่วนร่วมให้ข้อมูลท่านแรกคือ “คุณแม่ผู้ตั้งครรภ์” รายนี้ ซึ่งเผยให้ทราบว่า
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์ภาวะน้ำคร่ำรั่ว“ ตอนแรกก็อยากมีน้องค่ะ ก็คือลองปล่อยแบบธรรมชาติแล้วยังไม่สำเร็จ ก็เลยไปปรึกษาหมอทำกิฟต์และเกิดผลสำเร็จในที่สุด จึงได้ไปฝากครรภ์และติดตามตรวจเรื่อยมาโดยไม่เคยมีสัญญาณอะไรเลยค่ะ แต่อยู่ ๆ มันก็มีแบบว่าน้ำในถุงตั้งครรภ์มันรั่วออกมาเฉยเลย แล้วพอไหลปุ๊บก็เลยไปโรงพยาบาลเลย ซึ่งก็มีน้ำรั่วออกมาต่อเนื่องแม้จะได้รับคำแนะนำจากคุณหมอว่าให้นอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงโดยไม่เคลื่อนไหวเพื่อมิให้กระทบกระเทือน ตอนแรกได้ยินเขาบอกว่า 50-50 อาจจะแท้ง ผ่านไปหลายอาทิตย์แล้วเขาก็เลยแนะนำให้ไปรักษากับคุณหมอปราโมทย์ที่โรงพยาบาลอีกแห่ง และทราบว่าคุณหมอเจ้าของไข้มีการปรึกษากับคุณหมอปราโมทย์แล้ว จากนั้นเขาก็ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสุขุมวิทค่ะ ตอนนั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่าน้ำคร่ำรั่วออกจนจะไม่มีเหลือแล้ว คุณหมอก็เลยบอกว่าต้องเอาออกแล้วอะไรประมาณนี้ค่ะ เหมือนกับว่าร่างกายตัวแม่เองอาจจะไม่ไหว หมอจึงบอกว่าต้องเอาออกมา เอาออกมาเลี้ยงข้างนอกน่าจะดีกว่าค่ะ ”
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์ตู้อบและเครื่องให้สารน้ำสำหรับทารกแรกเกิดวิกฤตินี่ก็เป็นข้อมูลที่ “หมอจอแก้ว” เรียบเรียงมาจากการเปิดเผยของคุณแม่ตั้งครรภ์ท่านนี้โดยตรงโดยปรับแต่งให้มีความต่อเนื่องเข้าใจง่าย ก่อนจะพาไปติดตามเนื้อหาน่าสนใจในลำดับต่อไปครับ
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์
ส่อเค้าอย่างชัดเจนว่าจะมีการ ‘คลอดก่อนกำหนด!!’
ประเด็นแรกที่ขอกล่าวไว้ตรงนี้ก่อนคือ “อายุครรภ์” วันที่คุณแม่รายนี้ได้รับการส่งต่อไปรักษาที่ “หน่วยทารกแรกเกิดวิกฤติ โรงพยาบาลสุขุมวิท” อยู่ที่ 23 สัปดาห์กับ 4 วัน ซึ่ง “พญ.ศรัณย์ธร ศรีพิไลพงศ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์” ทราบจากการซักประวัติประกอบการตรวจวินิจฉัย โดยคุณหมอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์พญ.ศรัณย์ธร ศรีพิไลพงศ์ รพ.สุขุมวิท“ คุณแม่รายนี้มีประวัติแท้งมาแล้ว 2 ครั้งค่ะ โดยครรภ์นี้เป็นครรภ์แฝดที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งมารดาและทารกในครรภ์เนื่องจากเป็นครรภ์แฝดที่มีภาวะน้ำเดินก่อนกำหนดค่ะ ซึ่งตามปกติแล้วครรภ์แฝดจะมี 2 ถุงการตั้งครรภ์ และคุณแม่รายนี้ได้ เกิดภาวะน้ำคร่ำรั่ว ถุงหนึ่ง มีโอกาสส่งผลให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดตามมาในไม่กี่สัปดาห์ ถือว่าเป็นเคสที่มีความเสี่ยงสูงค่ะ และนั่นคือสาเหตุหลักที่ต้องย้ายมาเข้ารับการดูแลรักษาที่โรงพยาบาลสุขุมวิท ซึ่งได้เตรียมความพร้อมในการรับมือโดยอาศัยการประสานงานระหว่างทีมคุณหมอเด็ก กับคุณหมอสูติแพทย์ ที่มีศักยภาพความพร้อมในการดูแลเคสความเสี่ยงสูงค่ะ ทั้งนี้ทีมสูติแพทย์จะประกอบด้วยสูติแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ส่วนทีมคุณหมอเด็กก็จะเป็นกุมารแพทย์ทารกแรกเกิด ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้บริการด้านการดูแลทารกแรกเกิดหลังคลอดที่ หน่วย NICUในโรงพยาบาลสุขุมวิท และหลังจากที่การผ่าตัดทำคลอดเป็นไปอย่างราบรื่น อาการของคุณแม่หลังผ่าตัดคลอดคือตื่นดี มีอาการปวดแผลเล็กน้อย ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดค่ะ โดยในส่วนของทารกแรกเกิดนั้นคุณหมอเด็ก กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด ก็รับตัวทารกที่เป็นแฝด 2 คนไปดูแลต่อใน NICUค่ะ ”
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์
หลายสิ่งอย่างที่แพทย์ต้องคิดคำนึงสำหรับ ‘เคสเสี่ยงสูง!!’
ประเด็นสำคัญที่หลาย ๆ ท่านอาจยังไม่ทราบมาก่อนสำหรับกรณีที่เป็น “เคสเสี่ยงสูง” ที่นำมาเป็นตัวอย่างนี้ ได้แก่ “การวางแผนรักษา” ครอบคลุมถึงการพยากรณ์โรค และโอกาสที่คนเป็นพ่อแม่ควรได้รับรู้ในเบื้องต้นเพื่อจะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้าหากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ “ผศ.นพ.ปราโมทย์ ไพรสุวรรณา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกุมารเวชศาสตร์ ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด” ในฐานะเป็น “หัวหน้าหน่วยทารกแรกเกิดวิกฤติ” หรือ “หัวหน้าหน่วย NICU โรงพยาบาลสุขุมวิท” ซึ่งได้เชิญสูติแพทย์ รวมทั้งทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่เกี่ยวข้อง มาหารือถึงประเด็นที่ “อาจารย์ปราโมทย์” คำนึงถึงนั่นเอง
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์ผศ.นพ.ปราโมทย์ ไพรสุวรรณา รพ.สุขุมวิท“ ที่คาดเดาว่ามีโอกาสเกิดได้สูงคือปัญหาทางปอด เพราะเมื่อน้ำคร่ำมันรั่วไปเรื่อย ๆ จะส่งผลให้มีเหลือน้อยกว่าปกติ ขณะที่การเจริญเติบโตของปอดหรือพัฒนาการของเนื้อปอดต้องอาศัยปริมาณน้ำคร่ำที่มีน้อยลงตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 18 สัปดาห์ จึงมีโอกาสที่ปอดจะเล็กมากกว่าปกติและมีโอกาสเกิดการติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในท้องซึ่งเป็น 2 ประเด็นใหญ่ที่จะทำให้เด็กเสียชีวิตถ้าคลอดก่อนกำหนดครับ และที่จริงแล้วทารกแฝดที่ออกมาก็ไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ด้วยตัวเขาเอง คือไม่หายใจ ตัวเขียว แน่นิ่ง ไม่มีสัญญาณชีพ สิ่งที่เราต้องทำทันทีคือรีบใส่ท่อช่วยหายใจและทำการกู้ชีพให้เร็วที่สุด และพยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่ก็เป็นไปตามที่คาดไว้คือเราไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้โดยทารกคนแรกเสียชีวิตเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ดีที่ว่าเราได้ให้ข้อมูลความรู้กับพ่อแม่เด็กและตัดสินใจวางแผนร่วมกันไว้ก่อนแล้ว ส่วนทารกอีกรายที่เกิดปัญหาหายใจเองไม่ได้เช่นกันก็ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและต้องให้ยาไปกระตุ้นการทำงานของปอด แล้วก็ต้องวางแผนการรักษาด้วยว่าทำอย่างไรจึงจะเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด ซึ่งเมื่อปอดดีขึ้นก็ไปเจอปัญหาเส้นเลือดที่มีความจำเป็นตอนที่อยู่ในท้องมารดา แต่เมื่อคลอดก่อนกำหนดมันจึงติดออกมาด้วย และกลายเป็นส่วนเกินที่ให้โทษในตอนที่ปอดดีขึ้นเพราะมันทำให้มีเลือดเข้าปอดมากจนเด็กเกิดภาวะหัวใจวาย จำเป็นต้องผ่าตัดเข้าไปตัดเส้นเลือดนี้ออก พอแก้ปัญหานี้จบก็ไปเจอภาวะกระเพาะลำไส้ของทารกบางจนมีโอกาสทะลุหากเราให้นมแบบปกติ ซึ่งเราก็ต้องระวังไปพร้อมกับป้องกันไม่ให้เด็กเกิดภาวะขาดอาหาร คือต้องให้เขาเจริญเติบโตใกล้เคียงกับตอนที่อยู่ในท้องแม่ให้ได้มากที่สุด โดยให้อาหารเข้มข้น ซึ่งมีสารอาหารทุกอย่างทั้งโปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ โดยผ่านทางเส้นเลือดร่วมกับค่อย ๆ เพิ่มอาหารทางลำไส้ คือเราให้ตั้งแต่วันแรกที่คลอดออกมาพร้อมกับให้นมผ่านสายลงไปในลำไส้ และค่อย ๆ ให้นมแม่เพิ่มอย่างช้า ๆ เลี้ยงดูอย่างพิถีพิถันเรื่อยไปจนเขามีความสมบูรณ์แข็งแรงเทียบเท่าเด็กที่ครบกำหนดคือ 36 สัปดาห์ และจริง ๆ แล้วเด็กคนนี้สามารถกลับบ้านได้ตอนที่ครบ 37 สัปดาห์ เพียงแต่พ่อแม่มือใหม่ยังมีความกังวลจึงขออยู่ต่อเพื่อฝึกเลี้ยงให้มั่นใจก่อนครับ ”
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์“หมอจอแก้ว” นำกรณีนี้มาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นตัวอย่างที่สะท้อนว่าเหตุใด “โรงพยาบาลสุขุมวิท” จึงได้ จัดเตรียมศักยภาพความพร้อมในการดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์และการให้กำเนิดสมาชิกใหม่ โดยมีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติแพทย์เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ คุณหมอกุมารแพทย์ทารกแรกเกิด มาร่วมกันดูแลใส่ใจอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นที่พึ่งที่มั่นใจและอุ่นใจได้ สำหรับ “คุณแม่ตั้งครรภ์และครอบครัว” ทั้งในแง่การให้กำเนิดทารกคลอดตามปกติ ไปจนถึงกรณีของผู้ตั้งครรภ์ที่อาจเจอ “ความเสี่ยง” ไม่ว่าจะระดับใดก็พร้อมรับมือเสมอ.
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์หมอจอแก้ว
อันตรายแก่ทั้งทารกมารดาถ้าถุงน้ำคร่ำรั่วรพสุขุมวิทรับมือด้วยศักยภาพนำสู่ผลสำเร็จเดลินิวส์