【ตรวจลอตเตอรี่ 1 ตุลาคม 61】วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทย | เดลินิวส์
การที่ “นายกฯเสี่ยนิด” ทำตัวเป็นนายกฯ เซลส์แมนไปเสนอเรื่องการค้าการลงทุนกับต่างประเทศหลายเจ้า และเป็นนายกฯที่ขยันมากชนิดกำหนดการทั้งวันแม้แต่เสาร์อาทิตย์ บทจะลงพื้นที่ก็ลงแบบไม่แจ้งล่วงหน้าก็ยังมี ซึ่งว่าไปก็น่าเสียดายที่ต้นรัฐบาลเพื่อไทย หรือรัฐบาลเศรษฐานั้น มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่คึกคัก และมีการกระตุ้นให้เห็นความหวังอยู่เรื่อยๆ
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์แต่พอมารัฐบาล “อิ๊งค์1” รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ตั้งแต่แรกเข้ามายังไม่ปรากฏภาพบุคลิกของผู้นำที่โดดเด่น หรือนโยบายอะไรที่เริ่มในสมัยนายกฯ คนนี้ บอกแค่ยึดตามนโยบายของรัฐบาลนายกฯนิดเนื่องจากเป็นนายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน และตัวนายกฯอิ๊งค์เอง ก็ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์บ่อยเหมือนนายกฯเสี่ยนิด ..ตรงนี้ พวกทันสมัยนายกฯปูก็จะบอกว่า “ทรงเดียวกัน” คือ มักจะบอกว่า เรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ไปถามคนโน้นคนนั้น เพราะเขารับผิดชอบ มอบหมายงานไปแล้ว หรือไม่ก็บอกว่า “ก็ต้องคุยกัน” ซึ่งนายกฯอิ๊งก็พูดคำว่า “ก็ต้องคุยกัน” อยู่หลายครั้งแล้ว ในเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำ ในเรื่องของเงินบาทแข็ง ที่จะให้ รมว.คลังไปคุยกับ “ผู้ว่าฯนก” เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) และยังมีเรื่องอื่นๆ เช่น แก้รัฐธรรมนูญ
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์ซึ่งเชื่อว่า หลายๆ คนก็คงจะพอ“เดาๆ ทาง”นายกฯอิ๊งค์ออก ทำนองว่า “ขึ้นมาทั้งที่ยังไม่พร้อมนัก” เพราะเงื่อนไขรัฐธรรมนูญล็อคไว้ว่าต้องใช้ชื่อตามแคนดิเดตที่เสนอตอนเลือกตั้งเท่านั้น อีกทั้งเจ้าตัวเองก็อ่อนพรรษาทางการเมือง สมัยนายกฯเสี่ยนิดคงจะลองฝึกงานเรื่องการส่งเสริมเศรษฐกิจซอฟต์พาวเวอร์ก่อน แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายกฯเสี่ยนิด ก็ต้องตกกระไดพลอยโจนมาเพราะ “ภาพลักษณ์เหมาะนำรัฐบาลที่สุดในแคนดิเดตเพื่อไทยที่เหลือ” ..นายกฯอิ๊งค์ก็พูดในวันรับตำแหน่งแล้วว่า ตัวเองไม่ใช่คนเก่งที่สุด แต่พร้อมจะรับฟังทุกคน
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์สิ่งที่เป็นภาพจำแรกของรัฐบาลอิ๊งค์ 1 คือ “การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า” เพราะสาละวันเตี้ยลงๆ อยู่กับการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี จนใช้เวลาเกือบเดือนนับจากวันที่นายกฯเสี่ยนิดพ้นจากเก้าอี้ ที่ตั้งล่าช้าเพราะกลัวดันไปตั้งใคร “ท่าทางไม่เข้าท่า” แล้วนายกฯ ในฐานะผู้รับสนองพระบรมราชโองการฯ ต้องรับผิดชอบกับการแต่งตั้งนั้นแบบที่นายกฯเสี่ยนิดโดน .. ก็เลยมีคนถูกจับตาเป็นพิเศษสองคน คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.) และนายชาดา ไทยเศรษฐ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย จนในที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาโดนร้อง ทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจไม่รับตำแหน่ง ป้องกันนายกฯอิ๊งค์โดนร้องเร่องจริยธรรม
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์รัฐบาลทำอะไรล่าช้า ส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องกลัวถูกสังหารด้วยจริยธรรม ทำให้มีกระแสเรื่องจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับจริยธรรม ไปจนถึงแก้ไขกฎหมายลูก พ.ร.ป.พรรคการเมือง ( ที่สงสัยกันอีก “เอื้อทักษิณหรือไม่” ) ..สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนยื่นร่างไปแล้ว.. เรื่องหนึ่งคือแก้ใน ม.160 คุณสมบัติของรัฐมนตรี เรื่อง “ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”.. คือต้องเข้าใจว่า“เขาไม่ได้ยกเลิกประมวลจริยธรรม” เพียงแต่ดูเรื่องการบังคับใช้ด้านจริยธรรมให้มันไม่ถูกนำไปใช้ตีความแบบครอบจักรวาล กำหนดโทษแบบประหารชีวิตทางการเมือง
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์อ่ะ..ถ้าใครเห็นว่า การตีความจริยธรรมไม่มีปัญหา ขอให้ดูคดีชัดๆ คดีหนึ่งคือ คดีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ถ้าเอาอคติความรักชอบทางการเมืองออกไป คิดว่า “เป็นเรื่องยุติธรรมหรือไม่” ที่รูปๆ เดียว ถ่ายด้วยความไม่เดียงสา เพราะความคิดทางการเมืองในขณะนั้น อีกสิบปีต่อมารูปย้อนกลับมาทำลายได้ ถึงขนาดตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ..แล้วใครที่เผลอโพสต์รูปอะไรประหลาดๆ ชวนให้คิดลึกไป หรือเผลอทำอะไรโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปในอดีต เจอนักขุด ขุดเรื่องมาทำลายทางการเมือง แล้วเสียอนาคต..เช่นนี้แล้ว คงจะพอคิดกันได้ว่า เรื่อง “การบังคับใช้” จริยธรรม มีปัญหา ซึ่งเผลอๆ อาจไม่ต้องแก้ตัว“ประมวลจริยธรรม” แต่ให้การบังคับใช้มันรัดกุม ไม่ตีความครอบจักรวาล และไม่ใช้เป็นเครื่องมือประหารกันทางการเมือง
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์ถ้าใช้จริยธรรมกันครอบจักรวาล ระวังต่อไปจะเกิดกรณี..ไม่มีใครสะอาดเลยแผ่นดินนี้.. เพราะขนาดกรณี น.ส.พรรณิการ์ เอาผิดอาญาอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ยังโดน ..อย่าพูดเลยว่าไม่ได้ทำผิดไม่ต้องไปกลัว มันขึ้นอยู่กับ “บทคนจะเล่นงานคุณ” และ “คุณใกล้ชิดกับขั้วอำนาจ ณ ขณะนั้นแค่ไหน” จริยธรรมกลายเป็นเครื่องห้ำหั่นทางการเมืองราวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งแม้กระทั่งพวกฝ่ายการเมือง “คนดีย์” ที่ชอบชี้หน้าด่าคนอื่นบกพร่องจริยธรรม ก็มีสิทธิ์โดนถ้าคนร้องเขียนสำนวนให้โดนได้ ..
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์เมื่อมองประกอบกับหัวเรื่อง “วังวน” ของประเทศไทยคืออะไร ? จะตอบว่า “คือการแก้กฎหมายให้ถูกใจนักการเมือง” ก็ได้ ..เรื่องจริยธรรมมันสองคนยลตามช่อง ฝั่งหนึ่งว่า ต้องคงไว้เพื่อความเป็นคนดีไม่โกงบ้านเมืองก็ว่า อีกฝั่งก็ว่าเห็นปัญหาการบังคับใช้ ซึ่งโดนกันทั้งขั้วซ้าย ( พรรคประชาชน : ปชน.) และขั้วขวา ( พรรคเพื่อไทย ) นั่นแหละ แต่คำว่าจริยธรรมเป็นคำที่ละเอียดอ่อน ( หรือบางคนเห็นการบังคับใช้ และปฏิกิริยาบางอย่างในสังคมแล้ว อาจเรียกว่า ดัดจริต เอาซะเลย ) ทำให้เสียงก็แตก และอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์กล่าวคือ ประเด็นจริยธรรมเป็นจริตแบบชนชั้นกลาง ที่เคยปลุกกระแสไล่ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้ว กรณีนายทักษิณนั้นเกิดจากการขายหุ้นเอไอเอสแบบไม่เสียภาษี ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น เกิดจากความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ตอนนี้เลยมีกระแส “ปลุกความหวาด” ให้กับนายกฯอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ว่า หากมีการแก้ไขเรื่องจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะถูกม็อบไล่อีกหรือไม่ ?
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.พรรคประชาชน ( ปชน.) เองก็สนับสนุนว่าต้องแก้ เพราะ “ปัญหาจริยธรรมที่ถูกตีความขยายไปเกินกว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หรือสิ่งที่ประชาชนคาดหวังอยากให้เป็น เปิดช่องให้องค์กรอิสระพิจารณาตีความขยายเกินกว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอันตรายต่อการพัฒนาระบอบสถาบันการเมือง และการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย”
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์แนวทางของพรรค ปชน.ที่นายณัฐวุฒิเสนอขึ้นมา ก็คือให้ประชาชนตัดสิน ( ซึ่งไม่รู้ว่าในลักษณะรูปธรรมจะออกมาอย่างไร ) และการดำเนินการของกรรมการวินัยพรรค ( อย่างที่พรรคก้าวไกลได้เคยขับ สส.มีปัญหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศออกจากพรรค ) ..ส่วนนายกฯ อิ๊งค์บอกว่า “มีอะไรให้คุยกันก่อน” ด้านภูมิใจไทยคงเริ่มเชคเสียงสังคม และเห็นว่า “วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1-2 เพราะ 1.อย่างไรก็จะยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่อยู่แล้ว 2.ไม่อยากให้ใครเอาไปขยายเป็นข้อครหาว่า นักการเมืองแก้เพื่อตัวเอง”
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์แล้วรัฐบาลก็ต้องมาวนเวียนกับคำถามประเภท “มีเสียงวิจารณ์ว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง” อยู่บ่อยๆ จนนายกฯอิ๊งค์ ดูเหมือนจะออกอาการลมไม่ค่อยดีเมื่อถูกถามในวันที่ 24 ก.ย เมื่อนักข่าวไปถามว่า เหมือนภูมิใจไทยกับไทยรักษาชาติ ( รทสช.) คิดจะกลับลำ โดนนายกฯ ต่อว่ามาว่า “ต้องคุยกันก่อน เราเข้าใจกัน เราเห็นกันว่า ตอนนี้สิ่งที่รัฐบาลควรเน้นย้ำคือเรื่องของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็อยากจะบอกว่าถ้ารัฐบาลมั่นคง เสถียรภาพการเมืองมั่นคง ประเทศชาติก็มั่นคงไปด้วย อันนี้นักข่าวก็ต้องช่วยกันเรื่องนี้ จำไว้ว่าเราก็อยากให้รัฐบาลเข้มแข็งต่อไป ขอให้นักข่าวไม่ถามอะไรที่เป็นการยุแยง สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือน้ำท่วม”
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์ซึ่งดูคำว่า “ขอนักข่าวไม่ถามอะไรยุแยง” ก็ดูออกจะหัวเสียพอสมควร แต่พรรคภูมิใจไทยก็ประชุมกันแล้วว่า จะเอายกร่างใหม่ทั้งฉบับ ส่วนเพื่อไทย หลังภูมิใจไทยประชุม ก็เห็นว่า “เรื่องแก้รัฐธรรมนูญนี่มีพรรคอื่นเสนอมา ไม่ใช่เรื่องของเราแต่แรก เลยกลับลำ ไม่เอาแก้รายมาตราแล้ว ( ร่างที่ส่งไปแล้วจะเอาอย่างไรอีกเรื่อง ) .. ซึ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายจะเอาอย่างไรขอให้ชัด ตอนนี้คือ ข่าวสำคัญๆ เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดูจะค่อยๆ เลือนหายไปจากกระแส อะไรที่รัฐบาลสัญญาไว้ก็หายๆ ไป ..อย่างเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ก็เล่นอะไรกันอยู่ที่บอร์ดค่าจ้างผลัดกันขาด จนไม่น่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้ทันเดือน ต.ค. เรื่องปริญญาตรีเงินเดือนแรกเข้า 25,000 บาทก็เงียบ
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์เรื่องการลงทุนเมกะโปรเจคส์อะไรก็เงียบ โครงการแลนด์บริดจ์ที่พูด – วิจารณ์กันจนปากแฉะสมัยรัฐบาลเสี่ยนิดหายไปกับสายลม เงินดิจิทัลก็ไม่มีคำตอบกลับมาจากสายลมว่า กลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบางจะได้ใช้เมื่อไร .. ตกลงเรื่องค่าเงินแข็งจะไปคุยกับผู้ว่าฯนก เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าแบงค์ชาติเรื่องปรับดอกเบี้ยเมื่อไร เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ที่ตีตูมๆ กันในช่วงรัฐบาลเสี่ยนิด เงียบฉึ่งอีกแล้ว ทั้งที่สร้างความหวังเรื่องกระตุ้นการจ้างงาน การสร้างตัวตนให้คนไทยไว้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเพื่อไทยได้ ถ้าทำแล้วสร้าง “ซุปตาร์” ด้านต่างๆ เช่น นักร้อง นางแบบ นักกีฬา นักศิลปะ ดีไซเนอร์ ..แต่ตอนนี้เหมือนทุกอย่างถูก freeze ไว้หมด จะเอาฮิปโปเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทยก็ประหลาดไป เพราะนั่นมันสัตว์ป่าแอฟริกา ..แต่ตอนนี้รัฐบาลยังมีข้ออ้างเรื่องไปช่วยน้ำท่วมอยู่
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์เมื่อเสียงภูมิใจไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ( รทสช.) แตกกับพรรคเพื่อไทยอีก ก็ต้องมาจับเข่าคุยกัน..จะเอาอย่างไร ? ขอรายมาตราก่อนได้ไหม ไม่ให้ใช้จริยธรรมมาทำลายกันทางการเมือง ส่วนยกร่างใหม่คิดว่าอย่างน้อย 2 ปี ทำประชาพิจารณ์ก็สามรอบไปแล้ว 1.ต้องการให้มีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ 2.เลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 3.ประชาพิจารณ์รับรองรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ก็สุดแล้วแต่ “เขาจะคุยกันอย่างไร” แล้วกัน มันกลับไปกลับมากันได้ จะแก้เรื่องจริยธรรมก็ต้องระวังทุกย่างก้าวเดี๋ยวจะโดนร้องเรียนจริยธรรมเข้าอีก กลายเป็นตลกร้าย
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์อย่างว่า ก็ต้องให้กติกาถูกใจนักการเมืองเนาะ ไม่งั้นเขาว่าเขาทำงานไม่ได้ เหมือนเวลาฉีกรัฐธรรมนูญโดยคณะรัฐประหาร พอจะแก้ทีต้องแก้ระบบเลือกตั้งก่อน เพราะนักการเมืองอยากให้แก้ วันนี้เรื่องจริยธรรมมีปัญหาการบังคับใช้ ก็รอดูเหตุผลที่แต่ละฝ่ายจะแสดงผ่านสื่อหรือถกเถียงกันในสภา ว่าไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง.
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์………………………………………………………
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง”
คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่
วังวนแห่งการพายเรือในอ่างของการเมืองไทยเดลินิวส์