【เหมยหลิน】‘แรงคือร้าย’แม้หวังดี ‘ดราม่าลงโทษ’ พอที‘รุนแรงต่อเด็ก!’ | เดลินิวส์
ทั้งนี้ ในไทยยุคนี้มีการผลักดันเรื่องการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับ “การลงโทษเด็ก” ซึ่งหากลุล่วงโดยเป็นไปตามที่มีการผลักดัน ก็จะนำสู่การมี “ข้อกฎหมาย” ที่กำหนด “ห้ามไม่ให้ทำโทษเด็กโดยการทำร้ายร่างกายหรือจิตใจเด็ก” แม้แต่โดยพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็ก
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์เรื่องนี้ก็อีกเรื่องที่เกิดถกเถียงกันมาก
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์แต่ตอนนี้ข้อกฎหมายดังว่านั้นยังไม่มี
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ที่มีเรื่อย ๆ ก็คือ “ดราม่าลงโทษเด็ก”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์กับกรณี “ดราม่าลงโทษเด็ก”นั้น ที่มักจะอื้ออึงครึกโครมคือเหตุเกิดในโรงเรียน ครูลงโทษนักเรียน แล้วเด็กนักเรียนเกิดการบาดเจ็บ โดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ยอม ดำเนินการเอาเรื่องครู อย่างไรก็ตาม ก็ดังที่ทราบ ๆ กัน การลงโทษเด็กก็มิใช่ว่าจะมีเพียงในโรงเรียนเท่านั้น ในบ้านเรือนที่พักอาศัยของเด็ก โดยผู้ที่ลงโทษเด็กคือพ่อแม่ผู้ปกครอง นี่ก็มี “ดราม่าลงโทษเด็ก” เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองที่มองว่าการลงโทษเด็ก ลงโทษบุตรหลาน เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ก็มีไม่น้อย
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ทั้งนี้ เมื่อในเมืองไทยยังไม่มีข้อกฎหมายที่ห้ามไม่ให้ทำโทษเด็ก แบบที่เป็นการทำร้ายร่างกายหรือจิตใจเด็ก ขณะที่ มีพ่อแม่ผู้ปกครองที่มองว่าการลงโทษบุตรหลานยังเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำ ด้วยความหวังดีต่อบุตรหลาน เพื่อให้บุตรหลานเติบโตขึ้นเป็นคนดี หากตั้งธงหวังดีต่อบุตรหลานจึงต้องลงโทษวันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” พลิกแฟ้มเน้นย้ำเกี่ยวกับ“การลงโทษเด็กโดยผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็ก” ที่โฟกัสยึดโยงในเชิงจิตวิทยา ที่พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงครู “ต้องตระหนักไว้”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ต่อให้คิดว่าลงโทษเด็กก็เพื่อให้เป็นคนดี
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์จะยังไงก็“ต้องไม่เป็นการทำร้ายเด็ก”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์
และเกี่ยวกับเรื่องนี้กรณีนี้ ที่วันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” พลิกแฟ้มชวนดูกันอีก เป็นข้อมูลคำแนะนำต่อผู้ใหญ่-พ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก ที่น่าพินิจพิจารณาและตระหนักกัน ซึ่งเป็นข้อมูลโดยสังเขปจากที่ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เคยแนะนำไว้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต จากการที่ตอนนั้นสังคมไทยก็ให้ความสนใจเรื่อง “การลงโทษเด็ก” จากการมีกรณี “ลงโทษเด็กด้วยความรุนแรง” ที่เป็น “ดราม่าอื้ออึง”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์เพื่อที่จะไม่ให้เกิด “ดราม่าลงโทษเด็ก” คุณหมอท่านดังกล่าวได้เคยให้ข้อมูลต่อสังคมไทยเอาไว้ หลักใหญ่ใจความมีว่า ควรเริ่มต้นจากการที่ผู้คนในสังคมไทยในปัจจุบัน “เปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนสุภาษิต” ที่ว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์เปลี่ยนเป็น “รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์และหากจะย้อนโฟกัสที่ประเด็น “การลงโทษเด็กด้วยการตี” ที่ผู้คนในสังคมไทยก็ยังคง “เสียงแตก” โดยมีทั้งฝั่งที่เห็นว่า “ตีได้” และฝั่งที่เห็นว่า “ตีไม่ได้” ขณะเดียวกันก็มีผู้คนไม่น้อยที่ยังครุ่นคิดอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ฝั่ง ว่าในปัจจุบัน “การตีเด็กยังมีความจำเป็นหรือไม่??” กับประเด็นดังกล่าวนี้ พญ.อัมพร ก็ได้สะท้อนแง่มุมไว้น่าพิจารณา กล่าวคือ
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์กรณีที่เด็กทำความผิดรุนแรง และผู้ใหญ่ต้องการควบคุมหรือใช้การกำกับดูแลที่หนักแน่นชัดเจน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการลงโทษเด็กโดยใช้การ “ตี” เพื่อ “เป็นทางเลือกหนึ่ง” ซึ่งประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่ตี?-ไม่ตี? แต่อยู่ที่“จะตี อย่างไรจึงจะถูกต้อง?”ซึ่งถ้าจะตี ผู้ใหญ่-พ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องระลึกไว้ว่า ทำไปเพื่อให้เด็กรู้ว่าคือการลงโทษขั้นสูงสุด ฉะนั้นจึงควรใช้เฉพาะพฤติกรรมที่เป็นปัญหาสูงสุดและ สิ่งสำคัญคือต้องไม่ตีด้วยอารมณ์โกรธ ฉุนเฉียว แต่เป็นการทำเพื่อให้เด็กจดจำเรื่องที่ทำผิดในฐานะที่เป็นเรื่องต้องห้าม-ไม่ควรทำ นอกจากนี้ ต้องไม่เป็นการลงโทษโดยใช้สิ่งของ เช่น เข็มขัด ไม้แขวนผ้า ฯลฯ
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ต้องไม่ตีเด็กด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ทางผู้สันทัดกรณีท่านเดิมยังระบุไว้อีกว่า สำหรับเด็กเล็ก ๆ การจะตีก็ควร ใช้มือตีมือ ของเด็ก ซึ่งจะกะน้ำหนักได้ โดยตีด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง-ท่าทีหนักแน่น แต่ ต้องไม่ใช่เกรี้ยวกราด ด่าทอ รวมไปถึง ต้องบอกเด็กถึงเหตุผลในการต้องตีเพื่อให้เด็กได้เข้าใจด้วย ซึ่งถ้าทำพฤติกรรมที่ผิดรุนแรงอีก ก็จะต้องโดนตีอีก ในฐานะเป็นกฎศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกันนี้พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ ก็ควรกำกับกฎนี้ให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม แม้ใช้มือลงโทษเด็ก ก็มีสิ่งต้องตระหนักว่าเป็นความรุนแรง
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ต้องไม่ลงโทษเด็กด้วยวิธีตบหน้า!!
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ทั้งนี้ จากข้อมูลที่พลิกแฟ้มสะท้อนมาข้างต้นนั้นก็มิใช่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการตีเด็ก ซึ่ง พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ก็แนะนำไว้ด้วยว่า สำหรับความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ การจะลงโทษก็ควรใช้วิธีกำชับด้วยท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง ไม่ใช่มุ่งแต่จะลงโทษด้วยวิธีตี อีกทั้งควรใช้วินัยทางบวกด้วยเช่น เด็กทำดี มีพฤติกรรมดีขึ้น ทางพ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ ก็ต้องชื่นชม ให้กำลังใจเด็กด้วย และไม่ว่าจะลงโทษอย่างไร ที่สำคัญต้องทำให้เด็กรับรู้ให้ได้ว่า การถูกลงโทษเกิดจากการทำผิดที่ต้องแก้ไข และสิ่งที่แฝงอยู่ในการลงโทษคือความรัก ไม่ใช่ความเกลียด ความโกรธหรือระบายอารมณ์
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์สรุป “ไม่มีกฎหมายก็ต้องตระหนัก”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์มิใช่เพียง “ไม่ให้เกิดดราม่าลงโทษ”
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ที่สำคัญคือ “ไม่เป็นการทำร้ายเด็ก”.
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์ทีมสกู๊ปเดลินิวส์
แรงคือร้ายแม้หวังดีดราม่าลงโทษพอทีรุนแรงต่อเด็กเดลินิวส์