โดยสาวคนนี้เริ่มต้น “ชีวิตชาวสวน” ด้วยการใช้พื้นที่เล็ก ๆ หลังบ้านเป็นแปลงทดลองให้กับชีวิตของตัวเอง และค่อย ๆ ก่อร่างสร้างฝันทีละเล็กทีละน้อย จนกลายเป็นเจ้าของ“วลัยฟาร์ม” สวนสวยกินได้ พร้อมกับเป็น “ครีเอเตอร์” แชร์เทคนิคทำสวนผักปลอดสารพิษให้คนที่สนใจ ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตใหม่ของอดีตสาวแบงก์คนนี้ก็มีเรื่องราวน่าสนใจ และวันนี้ “ทีมวิถีชีวิต” จะพาไปทำความรู้จักชีวิตของเธอคนนี้

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

“ครอบครัวเราก็เป็นเกษตรกร พ่อแม่ทำนา ทำสวนปลูกผัก ส่วนเราก็ช่วยพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กเช่นกัน อย่างวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เราก็จะไปหาบน้ำมารดแปลงผักที่สวน เพราะสมัยก่อนเป็นน้ำบาดาล ไฟฟ้าก็เข้าไม่ถึง จึงต้องหาบน้ำมาใช้รดแปลงผัก ซึ่งช่วงพักทำนาที่บ้านก็จะปลูกหอม กระเทียม ผักต่าง ๆ เพื่อขายหารายได้ เราก็ต้องช่วยพ่อแม่ทำมาตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนที่เรียนจบ ม.6 หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้ช่วยพ่อแม่แล้ว เพราะต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยที่จังหวัดอื่น แต่ก็ได้ซึมซับความชอบการปลูกผักมาตั้งแต่เด็ก”เสียงจาก แพท-วลัยลักษณ์ เจ้าของสวนผักวลัยฟาร์ม เล่าถึงช่วงวัยเด็กของตัวเอง ที่ต่อมาได้กลายมาเป็นอีกทางเลือกในชีวิตของเธอ ทั้งนี้ เธอยังเล่าย้อนเส้นทางวัยเด็กให้ฟังว่า เธอเกิดและโตที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยเธอเป็นน้องสาวคนสุดท้องในจำนวนลูก ๆ 4 คนของพ่อแม่

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

“จริง ๆ อยากเลือกเรียนสถาปัตย์ แต่พ่อแม่ไม่อยากให้เรียน เขาอยากให้เราเรียนอะไรที่จบออกมาแล้วหางานได้ง่าย โดยพ่อแม่อยากให้เรียนบัญชีหรือไม่ก็พยาบาลมากกว่า สุดท้ายก็เลยเลือกเรียนการบัญชีและการจัดการ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม” แพทบอก

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

พร้อมกับเล่าให้ฟังต่อไปว่า จริง ๆ ด้วยความที่ที่บ้านเป็นเกษตรกร ก็เคยคิดที่จะเรียนด้านเกษตร และก็ลงทะเบียนเอาไว้เช่นกัน ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แต่ด้วยความที่อยู่ไกลไป พ่อกับแม่เลยไม่อยากให้ไป อีกอย่างพ่อกับแม่อยากให้มีหน้าที่การงานอย่างอื่น ไม่อยากให้มาเป็นเกษตรกรแบบพ่อกับแม่ เธอพูดถึงเรื่องนี้ และก็ยังเล่าอีกว่า หลังเรียนจบปริญญาตรี ก็เริ่มทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ทำอยู่ได้ 2 ปี มีวันหนึ่งเธอไปเดินเล่นห้างสรรพสินค้า และได้เห็นพนักงานธนาคารผู้หญิงใส่ชุดสวย ๆ เธอก็เลยฝันว่าอยากเป็นพนักงานธนาคารขึ้นมาบ้าง ก็เลยตัดสินลองไปสอบเป็นพนักงานธนาคารกสิกรดู ปรากฏสอบได้ ทำให้มีโอกาสได้เป็นพนักงานธนาคารอย่างที่หวัง โดยต้องย้ายเข้าทำงานที่กรุงเทพฯ

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

“จริง ๆ เป็นคนไม่ชอบชีวิตในกรุงเทพฯ แต่ด้วยเรื่องงาน ก็จำต้องไป จริง ๆ ตอนแรกเลือกจะไปทำงานที่สาขา จ.อุดรธานี แต่เขาบอกว่าถ้าลงพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีโอกาสได้บรรจุเป็นพนักงานเร็วขึ้น เราก็เลยต้องเลือกลงที่กรุงเทพฯ ก่อน จนหลังได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ เราก็ขอทำเรื่องย้ายไปที่อุดรธานี แต่ไม่มีตำแหน่งว่าง ก็เลยได้ที่กาญจนบุรีแทน เพราะมีตำแหน่งว่างอยู่”

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

หลังจากย้ายสู่กาญจนบุรีได้ระยะหนึ่ง เธอก็ตัดสินใจกู้เงินซื้อบ้าน โดยเธอบอกเหตุผลที่ซื้อบ้านว่า แค่อยากมีพื้นที่ทำสวนปลูกผัก เพราะชอบการปลูกผักอยู่แล้ว และช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย จนจบออกมาทำงาน ก็จะปลูกผักสวนครัวเล็ก ๆ ใส่กระถางไว้กินตรงหลังห้องพัก และพอทำงานมีรายได้ก็เลยฝันอยากที่จะมีบ้านเพื่อจะมีพื้นที่ปลูกผักอย่างที่ชอบ เธอพูดถึงปัจจัยที่ทำให้ยอมเป็นหนี้โดยกู้เงินซื้อบ้าน และเธอก็บอกว่า บ้านที่กาญจนบุรีของเธอใช้ชื่อ “วลัยฟาร์ม” เป็นที่แรก

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

แพท วลัยลักษณ์ เล่าอีกว่า ทำงานได้ 2-3 ปี ก็ได้เจอกับแฟน ซึ่งเก่งออนไลน์ ทางแฟนก็ได้นำต้นไม้ที่เธอปลูกลงขายออนไลน์ จนอยู่มาได้สักระยะแฟนได้โควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และเนื่องจากห้ามมีการรับแทนกัน ทำให้เขาต้องกลับไปรับด้วยตัวเองที่บ้านเกิดที่ อ.ปง จ.พะเยา ทำให้ต้องแยกกันอยู่ และด้วยความที่เธอเองมีความคิดอยากจะออกจากงานมานานแล้ว พอช่วงที่แฟนกลับไปอยู่บ้าน ประกอบกับแฟนต้องเข้ารับการผ่าตัดด้วย เธอก็เลยตัดสินใจออกจากงานและไปอยู่ที่บ้านแฟน ซึ่งแม่ของเธอก็อยากให้ลาออกจากงานอยู่แล้วด้วย โดยแม่บอกว่าจะไปอยู่กับแฟน หรือจะมาอยู่กับแม่ก็ได้ แต่ห้ามไม่ให้เธออยู่คนเดียว ซึ่งเรื่องนี้เองที่ผลักดันทำให้เธอกลายมาเป็น “เกษตรกรเต็มตัว” ในที่สุด เป็นจุดเริ่มต้นทำสวนผักจริงจังขึ้น

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

ชีวิตแบบชาวสวนที่ใฝ่ฝัน

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

เธอเล่าว่า ช่วงแรกก็ยังไม่ได้มีที่ดินทำสวนผัก เพราะที่ดินของแม่แฟนทำสวนยาสูบ ข้าวโพด และปลูกผักกาด ก็ไปขอแบ่งพื้นที่เล็ก ๆ หลังบ้านของแฟนปลูกผักสวนครัวในกระถาง และทำโรงเห็ดไว้หลังบ้าน 2 โรง พร้อมกับเปิดร้านส้มตำขายยำหน้าบ้านด้วย เรียกว่าทำทุกอย่างที่มีรายได้ จนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง พอดีกับที่ดินซึ่งอยู่ด้านหลังบ้านของแฟนของเธอ ประมาณ 1 ไร่ 75 ตารางวา ของญาติ ๆ แฟน จะขาย เธอก็เลยตัดสินใจซื้อไว้เพื่อเป็นแปลงเกษตรปลูกผักของตัวเอง

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

“เงินเก็บหมดไปกับการซื้อที่ดิน เราก็ค่อย ๆ ทำทีละเล็กละน้อยตามกำลังและทุนที่มี ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่า ค่อย ๆ ถมที่ เพื่อทำแปลงปลูกผักมาเรื่อย ๆ จนเป็นฟาร์มในที่สุด” อดีตสาวแบงก์ที่ผันตัวเป็นเกษตรกรกล่าว

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

ทั้งนี้ เธอ ทำแปลงผักจากวัสดุเศษไม้ ซึ่งไอเดียนี้เธอบอกว่า เพราะต้องการลดต้นทุน แปลงผักส่วนใหญ่จะใช้วัสดุไม้ ซึ่งไม้ที่นำมาทำก็เป็นไม้จากเล้าข้าวเก่าของแม่แฟนที่รื้อทิ้ง ไม่ได้ใช้ทำอะไร ปล่อยทิ้งไว้ก็โดนปลวกกิน เธอเลยใช้ทำแปลงผัก ถือเป็นการใช้ของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ และที่สำคัญช่วยลดต้นทุนได้เยอะมาก ๆ ด้วย ส่วนจุดเริ่มต้นการเป็น ครีเอเตอร์ ติ๊กต๊อกเกอร์ นั้น แพทเล่าว่า เริ่มมาพร้อม ๆ กับการทำสวนผัก เพราะตอนที่ลงมือปลูกผัก เธอจะถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ เพราะอยากนำไลฟ์สไตล์ถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ได้เห็น โดยหลังลงโซเชียลไปสักพักหนึ่งก็เริ่มมีคนเข้ามาติดตามดูเธอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

นอกจากทำสวนผัก เธอยังเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ในสวนผักเพื่อรองรับคนที่มาเที่ยวชมสวนผักของเธอ รวมถึงใช้เป็นห้องมีทติ้งรูมสำหรับคนที่เข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องการปลูกผักสวนครัวกับเธอด้วย และยังมีโรงเรียนต่าง ๆ พาเด็กมาทัศนศึกษาเพื่อเรียนรู้เรื่องการปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา อยู่เป็นประจำ ทำให้สวนและฟาร์มของเธอนั้นไม่เคยมีวันไหนที่เหงาเลย

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

พาเด็ก ๆ ทัศนศึกษาภายในฟาร์ม

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

อย่างไรก็ดี แต่กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ เส้นทางระหว่างการเดินทางก็ไม่ง่าย โดยเธอยอมรับว่า ผ่านการโดนดูถูกมาทุกรูปแบบ หรือไม่ก็ถูกคนเอาไปนินทาว่า “วัน ๆ อยู่แต่สวน ไม่ทำอะไรเลย เป็นบ้าหรือเปล่า” อะไรประมาณนี้

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

“ถามว่าคำดูถูกต่าง ๆ ที่เจอ เราผ่านมาได้ยังไง? แพทใช้หลักปล่อยวางแล้วลงมือทำ โดยใช้ความสุขเป็นตัวนำ ถ้าเหนื่อยถ้าท้อก็พัก หายเหนื่อยหายท้อก็ลุกขึ้นไปทำใหม่ ไปสู้ใหม่” แพทบอก ทั้งนี้ เธอย้ำว่า แม้รายได้จากการขายผักจะไม่มากมาย แต่สิ่งที่ได้คือความสุข ซึ่งเรื่องง่าย ๆ แค่นี้แหละ ที่เป็นเหมือน “ขุมพลังทำให้เธอสู้ได้”

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

ก่อนจบการสนทนากัน “ทีมวิถีชีวิต” ถามเธอว่า มองว่าได้ทำตามความฝันแล้วหรือยัง? “แพท-วลัยลักษณ์” ตอบว่า เป้าที่วางไว้คือ ขอแค่หาเงินปลดหนี้ให้หมดก็พอแล้ว ที่เหลือคือการได้อยู่กับแปลงผัก ได้เห็นผักที่ปลูกเติบโต เท่านี้ก็สุขแล้ว

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

“ถ้าหากถามว่า คิดว่าประสบความสำเร็จหรือยัง? ก็ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่คิดว่ายังทำให้ดีขึ้นได้ ที่ผ่านมาก็พยายามศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา เพราะมองว่าเรื่องนี้มันไม่มีคำว่าเก่ง มีแค่เราจะเรียนรู้หรือไม่เท่านั้นเอง”.

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

มุมสวย ๆ ภายใน “วลัยฟาร์ม”

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

‘ใจพร้อม+ใจรัก’ พลัง ‘ลุย!!’

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

“แพท-วลัยลักษณ์ คำคูณ” บอกด้วยว่า คำถามที่เธอถูกถามบ่อยมากที่สุดคือ ถ้าอยากลาออกจากงานมาเป็นเกษตรกรแบบเธอ มีคำแนะนำเช่นไร? ซึ่งเธอก็มักตอบคนที่ถามกลับไปว่า สิ่งแรกคือ ต้องถามใจตัวเองว่าพร้อมไหม? เพราะการทำการเกษตรนั้น ระหว่างที่เดินไม่ง่ายเลย ถ้าพร้อมจะทำจริง ๆ ก็ทำได้ ไม่ใช่แค่ครึ่งทางก็เลิกทำแล้ว และสิ่งที่สองคือ ต้องขยันอดทน หรือ “ใจต้องรัก” เพราะถ้าใจไม่รัก ปลูกผักไม่ได้แน่ ๆ เพราะอาชีพนี้เหนื่อยมาก (หัวเราะ) ถ้าทนกับความเหนื่อยไม่ได้ ก็ทำอาชีพนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน “อย่างการผสมดินนี่เป็นสิ่งที่เหนื่อยที่สุด ดังนั้นถ้าอยากลองใจตัวเองว่าชอบจริงมั้ย ก็เริ่มง่าย ๆ ไม่ต้องลงทุนเยอะ ด้วยการหาวัสดุเหลือใช้ในบ้านมาประยุกต์ใช้ปลูกผักก่อนก็ได้ แล้วระหว่างนั้นก็ถามใจตัวเองบ่อย ๆ ว่า รู้สึกยังไง เหนื่อยไหม ทนได้ไหม ถ้าคำตอบคือใช่ ถ้าคำตอบคือได้ ก็ลุยต่อ”.

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน

บ๊ายบายงานจับเงินมาปลูกผักแพทวลัยลักษณ์คำคูณอดีตสาวแบงก์แจ้งเกิดวิถีเกษตรเดลินิวส์