【betflix828】‘บางจาก’เปิดเวทีใหญ่ ร่วมถอดรหัส AI สร้างสมดุลอนาคตยั่งยืน | เดลินิวส์

บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น จึงได้เปิดเวทีร่วมหาคำตอบในงาน Greenovative Forum ครั้งที่ 14 “Crafting Tomorrow’s Future with Sustainable Energy and AI” ในวาระครบรอบ 40 ปีบางจาก ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

สำหรับเวทียิ่งใหญ่นี้ กลุ่มบริษัทบางจาก ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการทั้งในและต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและความรู้เกี่ยวกับบทบาทสำคัญของ AI ในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรกับการจัดการด้านพลังงาน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

“ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “AI, Energy and Environment” ถึงการนำประโยชน์ของ AI มาใช้ ภายใต้ความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัย พลังงาน และสิ่งแวดล้อมว่า แม้ AI จะสร้างประโยชน์เป็นอย่างมากในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและร่นระยะเวลาในการปฏิบัติงานต่าง ๆ แต่กระบวนการพัฒนา และใช้งาน AI ต้องการพลังงานมหาศาลเช่นกัน ส่งผลต่อทรัพยากรโลก เช่น น้ำและพลังงาน ทำให้โลกต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงโรงไฟฟ้า ซึ่งใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก Small Modular Reactors หรือ SMR อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาการก้าวสู่ยุค AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วยแก้ไขปัญหาซับซ้อนและประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ทำให้การทำงานและการใช้ชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ทรัพยากรที่เพิ่มมากขึ้น โดย AI ต้องการใช้ไฟฟ้ามากเฉลี่ย 300-1,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ Data Center (Cloud) มีการใช้ไฟฟ้า 30-100 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันก็ต้องการใช้น้ำเพื่อการหล่อเย็นให้อุปกรณ์ด้วย ดังนั้นยิ่งโลกมีการใช้ AI เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ทำได้ยากขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานที่มากขึ้น กลายเป็นการใช้พลังงานเพิ่มเติม หรือ Energy Additional แทน

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

นอกจากนี้ “ชัยวัฒน์” ยังเสนอแนวคิดเรื่อง DNA Data Storage เป็นการปฏิวัติระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เพียงแต่มีความกะทัดรัดและทนทานสูง แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิมอีกด้วย

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

ส่วนการใช้ AI ของกลุ่มบริษัทบางจาก “ชัยวัฒน์” เล่าว่า ขณะนี้เริ่มทดลองนำ AI มาใช้แล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อยอดการทำงานให้มากขึ้น ทำให้การทำงานได้ง่ายขึ้น โดย AI ได้สร้างประโยชน์เป็นอย่างมากในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และร่นระยะเวลาในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ช่วยวางแผนเข้าสู่เน็ต ซีโร่ได้ง่ายขึ้น แต่กระบวนการพัฒนา และใช้งาน AI ยังต้องการพลังงานมหาศาลเช่นกัน ส่งผลต่อการใช้น้ำและพลังงาน ทำให้ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติมากขึ้นรวมถึงพลังงานนิวเคลียร์ที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

“จุดไหนที่มีดีมานด์การใช้พลังงานสะอาดมากๆ และเปิดกว้างกลุ่มบริษัทบางจาก ก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับโอกาส ซึ่งตอนนี้ได้ศึกษาอยู่ ความเป็นไปได้ทั้งร่วมทุนกับพันธมิตรและเข้ามาลงทุนเอง จึงต้องดูปริมาณความต้องการใช้งานว่า อยู่ระดับไหน ซึ่งบางจากฯ อยู่ระหว่างศึกษาการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาสลงทุนได้หลายรูปแบบทั้งการร่วมกับพันธมิตร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการขยายตัวของ AI”

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ คือ 1 ดาต้าเซ็นเตอร์จะใช้ไฟ 5 กิกะวัตต์ เท่ากับไฟที่ใช้ในโรงกลั่นบางจาก 100 โรงกลั่น จาก 1 โรงกลั่น ใช้ไฟเพียง 50 เมกะวัตต์กลั่นน้ำมันได้วันละ 16-17 ล้านลิตร และ 1 ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พื้นที่ 2 ล้านตร.ม.ซึ่งมหึมามาก และ ณ วันนี้ไฟที่ใช้สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ของทั่วโลกประมาณ 70 เทระวัตต์ชั่วโมง หรือ 130% ของกรุงเทพฯ และถ้าทุกคนทั่วโลกใช้ 85,000 เทระวัตต์ชั่วโมง เท่ากับใช้ในกรุงเทพฯ 1,600 นั่นคือไฟที่จะถูกนำมาใช้ ที่สำคัญที่สุดคือน้ำในหลาย ๆ ที่เริ่มขาด หากนำไปใช้ทั้งหมดแล้วจะเท่ากับคน 4,000 ล้านคนที่บริโภคน้ำในแต่ละปี

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

“เราต้องพิจารณาว่า ในช่วง 10 ปี หลังจากนี้จะบริหารพลังงานอย่างไร เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงของระบบ เช่น พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์เมื่อมีหมอกควันโซลาร์ทำงานได้แต่ 30-40% รวมถึงการคำนวณพลังงานลมก็เช่นกัน จึงต้องใช้ AI เข้าช่วย รวมถึงระบบการขนส่งที่ลดต้นทุน เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้จะเป็นคนละแหล่งกัน เหมือนน้ำมันที่ผลิตก็ไม่อยู่ในมหานคร แต่การใช้กลับเป็นในมหานครนิวยอร์กเยอะ จึงมี 2 ทางเลือก คือ หาแหล่งผลิตเพิ่มเติมที่รับกับระบบสายส่ง”

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

ขณะที่ “ชญานิศ โควาวิสารัช” Senior Consultant, Net Zero, ERM (สหราชอาณาจักร) ได้แบ่งปันประสบการณ์จากการทำงานด้านการให้คำปรึกษาด้านความยั่งยืน โดยระบุว่า AI มีศักยภาพอย่างยิ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ และสามารถช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ตั้งแต่ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นการกำกับดูแลที่เป็นระบบและการวางแผนกลยุทธ์อย่างเร่งด่วนจึงมีความสำคัญ เพื่อให้การพัฒนาเอไอเป็นไปอย่างยั่งยืนและเหมาะสม

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์

ด้าน Mr. Carlos Aggio Senior Enterprise AI Value Strategy Executive จาก Accenture (สิงคโปร์) ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนานวัตกรรมAI สู่การพลิกโฉมโลกพลังงาน กับเป้าหมายการลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน ในหัวข้อ “Tomorrow’s Innovations Today” ว่า เอไอเปรียบเสมือนกับน้ำที่ยังสร้างชีวิตได้ หล่อเลี้ยงชีวิตเรา แต่ขณะเดียวกันก็กระตุ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราจะใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด มิฉะนั้นน้ำที่มากเกินไปก็สามารถที่จะท่วมท้นได้ นอกจากนี้ยังต้องสร้างความสมดุลทั้งจากประโยชน์ของเอไอไปพร้อม ๆ กับการใช้พลังงาน เพื่อพลิกโฉมของโลกพลังงานใหม่ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างเอไอใหม่ เทคโนโลยีเอไอแบบยั่งยืน และถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมมือและลงมือปฏิบัติ.

บางจากเปิดเวทีใหญ่ร่วมถอดรหัสAIสร้างสมดุลอนาคตยั่งยืนเดลินิวส์