【mgm เครดิตฟรี 88】หลงเสน่ห์ “แม่น้ำเงา” | เดลินิวส์
สภาพสองฝั่งที่ยังคงมีธรรมชาติสวยงาม มีหมู่บ้านหลายแห่งตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำ การนั่งเรือหางยาวเข้าไปเที่ยวชมสัมผัสวิถีชีวิตของคนพื้นถิ่นในละแวกนั้นจึงเป็นการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่ง โดยเริ่มจากท่าเรือริมฝั่งน้ำเชิงสะพานข้ามแม่น้ำเงาถึงบ้านสบโขง แต่เรือหางยาวเป็นเรือที่ใช้ขนผลิตผลการเกษตรไปจำหน่าย ไม่มีเวลาออกและกลับจากแต่ละหมู่บ้านที่แน่นอน ระยะทางในการเดินทางไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในแม่น้ำ
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์
การเช่าเหมาเรือเพื่อขึ้นไปยังบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำเงาเพื่อชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่มีวิถีชีวิตดั้งเดิมนั้น จึงควรมาในช่วงเวลาระหว่างเดือนมิถุนายน-มกราคมของทุกปี ขณะที่การล่องแพไม้ไผ่เที่ยวไปตามลำน้ำแม่น้ำเงาจึงเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยม เพราะนี่คือเส้นทางล่องแพไม้ไผ่ที่สวยงามที่สุดเส้นทางหนึ่ง
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์แต่สำหรับวันนี้หากอยากสัมผัสความงามของแม่น้ำเงาอย่างใกล้ชิดทริป “Canoe Camping” ของกลุ่มเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงาคือคำตอบ โดยเริ่มพายเรือแคนูจากบ้านสบโขงไปจบที่บ้านแม่เงา รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใครไม่เคยพายมาก่อนเลย หรือเคยพายมาบ้างแต่ไม่มั่นใจว่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่งไม่ต้องกังวลเพราะเรือแคนูแต่ละลำจะมีผู้นำทางชาวบ้านเป็นผู้คัดท้าย และสามารถพาผู้โดยสาร ซึ่งจะต้องช่วยพายด้วยไปได้อีก 1 หรือ 2 คน พร้อมบรรทุกอาหารและของใช้ที่จำเป็น ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน กำลังเหมาะไม่เร่งรีบ โดยจะตั้งแคมป์พักแรมริมน้ำ ในจุดที่สงบ เป็นธรรมชาติ และห่างจากหมู่บ้าน
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางคือช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ระดับน้ำกำลังพอเหมาะ น้ำใส และอากาศเย็นสบาย แต่มีสิ่งที่ผู้ร่วมเดินทางจะต้องเตรียมเองด้วยอย่างอุปกรณ์แคมปิ้งและอาหาร ซึ่งอุปกรณ์ไม่ควรมีขนาดใหญ่และหนักจนเกินไป เพื่อให้สามารถใส่ในเรือได้ และควรมีถุงกันน้ำสำหรับใส่ของที่ไม่ต้องการให้เปียกด้วย
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์หากเดินทางด้วยรถสาธารณะสามารถนัดให้ไปรับที่อำเภอแม่สะเรียง หรือหากขับรถส่วนตัวมาสามารถจอดไว้ที่บ้านแม่เงา จากนั้นเช้าวันแรกของการเดินทางจะมีรถกระบะของชาวบ้านที่จะขนเรือและคนจากบ้านแม่เงาไปยังสบโขง เพื่อเริ่มต้นล่องเรือลงมาและมาจบทริปที่บ้านแม่เงาในตอนบ่ายของวันที่ 3 ของการเดินทาง สำหรับรายได้จากการให้เช่าเรือแคนูทั้งหมดจะมอบให้มูลนิธิธรรมชาติไม่จำกัด ส่วนรายได้อื่น ๆ ทั้งหมดจะเป็นของชุมชนของแม่น้ำเงา
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์
นอกจากการล่องเรือแคนูอย่างเดียวแล้วยังมีเส้นทางเดินป่าแบบเบา ๆ ผสมผสานกับการล่องเรือแคนู 3 วัน 2 คืน โดยเริ่มต้นจากอุทยานแห่งชาติแม่เงา แล้วเดินเท้าประมาณ 2 กิโลเมตร ไปยังหน่วยย่อยของอุทยานแห่งชาติแม่เงา ก่อนจะเดินลัดเลาะน้ำตกอุมแฮดประมาณ 7.5 กิโลเมตร ไปยังจุดตั้งแคมป์ บริเวณริมห้วยแม่อุมแฮด-แม่อมกิ วันต่อมาจะเดินป่าลัดเลาะลำห้วย-ลุยน้ำ ไปยังแม่น้ำเงาและล่องเรือแคนู ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจึงหยุดตั้งแคมป์บนชายหาดริมแม่น้ำเงา ก่อนจะจบด้วยการพายเรือแคนู ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อไปสิ้นสุดที่อุทยานแห่งชาติแม่เงา
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์สำหรับคนเวลาน้อยยังมีโปรแกรมแบบ 2 วัน 1 คืนด้วย โดยเดินเข้าไปตั้งแคมป์ที่จุดเดียวกัน แต่แทนที่จะพายเรือแคนูกลับจะเปลี่ยนเป็นการเดินป่า ข้ามน้ำ และมีรถมารับกลับมายังอุทยานแห่งชาติแม่เงา
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์บอกเลยว่าทั้ง 3 โปรแกรมจะพาคุณตัดขาดจากโลกการสื่อสารใด ๆ เพื่อให้มีเวลาสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะไม่มีไฟฟ้ากับห้องน้ำแล้ว ยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ให้แชะแล้วแชร์ด้วยอีกต่างหาก เหมาะสำหรับผู้ที่อยากฮีลใจจากคอมเมนต์หรือเรื่องราวแย่ ๆ ในโลกออนไลน์
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์
นอกจากเส้นทางล่องเรือแคนูและเดินป่าสั้น ๆ แล้ว ที่นี่ยังมี “เส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา” เส้นทางเดินป่าระยะทาง 50 กิโลเมตรที่พัฒนามาจากเส้นทางเก่าที่ชาวกะเหรี่ยงเคยใช้สัญจรระหว่างหมู่บ้านมานับร้อยปี แต่เมื่อมีการตัดถนนรอบเทือกเขา เส้นทางเดินนี้ก็ถูกทิ้งร้างไป โดยช่วงแรกจะพาเดินขึ้นสู่สันเขาสูงกว่า 1,000 เมตร มีป่าใหญ่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำแม่ตื่นและแม่น้ำเงาอยู่คนละฟากเขา แคมป์คืนแรกจะต้อนรับด้วยความเงียบสงบ ท่ามกลางความมืดที่ไร้แสงไฟรบกวน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาวหรือแสงจันทร์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เลือกเดินทาง วันถัดไปจะขึ้นสู่ระดับความสูง 1,700 เมตร เหนือทะเลหมอก โดยแคมป์คืนที่สองจะอยู่ที่จุดสูงสุดของเส้นทาง จากตรงนั้นจะมองเห็นเส้นทางที่ผ่านมาสองวันและเส้นทางที่จะเดินต่อไปในอีกสองวัน ได้หลับภายใต้แสงดาวและตื่นขึ้นท่ามกลางสายหมอก
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์
วันที่สามจะเป็นการเดินป่าผ่านป่าดงทึบ ข้ามสันเขาและหุบเขา ไปจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงกลางป่าก่อนพระอาทิตย์ตก หากสังเกตให้ดีจะพบว่าหมู่บ้านนี้ถูกรายล้อมด้วยป่าใหญ่ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน วันที่สี่จะได้เดินในป่าชุมชนเพื่อเห็นกับตาว่าต้นน้ำที่แท้จริงเป็นอย่างไร น้ำสายเล็ก ๆ หลายสายจะรวมกันเป็นลำห้วย และไหลลงสู่แม่น้ำเงาที่งดงามเมื่อถึงปลายทาง สัมผัสกับความสวยงามของแม่น้ำเงา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่สวยที่สุด จากจุดนี้จะเลือกเดินทางต่อด้วยแพไม้ไผ่หรือเรือแคนูได้ด้วย
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์หากยังมีเวลาแนะนำให้แวะไปเที่ยว “ดอยพุยโค” หรือ “ดอยพุย” ตามภาษาท้องถิ่นของชาวกะเหรี่ยงจุดชมวิวแบบ 360 องศาที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในดอยเดียวกัน ระยะทางเดินเท้าขึ้นเขา ประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ซึ่งมีความสูงชันเป็นบางช่วง ห้ามพลาดมุมถ่ายรูปยอดฮิต “ต้นเดียวดาย” ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่ตรงกลาง หากจะพักค้างแรมที่นี่ไม่มีร้านค้าและร้านอาหาร แต่มีห้องน้ำสาธารณะให้บริการ ต้องเตรียมเต็นท์ อาหารและน้ำดื่มไปเองและสามารถจ้างลูกหาบได้.
หลงเสน่ห์แม่น้ำเงาเดลินิวส์