【dewabet.com】'เป็กกี้ ศรีธัญญา'กลัวความลำบากจนขนหัวลุก เล่าอดีตกว่าจะผ่านมาได้ ฝันร้ายแทบทุกคืน! | เดลินิวส์

จัดเป็นอีกหนึ่งนักแสดงอารมณ์ดีที่หลายคนหลงรักหนักมาก สำหรับ “เป็กกี้ ศรีธัญญา” ซึ่งกว่าชีวิตมาถึงจุดนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคนมันไม่ใช่เรื่องง่าย เรียกได้ว่าชีวิตมีความยากลำบากตรากตรำมามากมาย โดยล่าสุด เป็กกี้ ได้เปิดใจกับรายการ 3แซ่บ ถึงเรื่องกลัวความลำบากจนขนหัวลุก เล่าประสบการณ์ว่ากว่าจะมีวันนี้ต้องเจออะไรบ้าง โดยเธอได้เล่าว่า

เป็กกี้ศรีธัญญากลัวความลำบากจนขนหัวลุกเล่าอดีตกว่าจะผ่านมาได้ฝันร้ายแทบทุกคืนเดลินิวส์

“ในเรื่องที่ถอยซูเปอร์คาร์ ซื้อพอร์ช เงินสด สิบกว่าล้าน คือ แค่ได้ยินเสียงสตาร์ตรถก็มีความสุข เป็นแรงบันดาลใจว่าเราทำงานหนักเพื่ออะไร ซึ่งรถแบบนี้พี่หนุ่ม (กรรชัย) ก็มี เซลล์บอกเมืองไทยมีอยู่ไม่กี่คัน คนมีคันนี้ รสนิยมดีมาก คนแรกคือ พี่หนุ่ม กรรชัย คนที่สองคือ คุณโอ๊ต ปราโมทย์ คนที่สามคือ คุณ นาย ณภัทร ฉันจะไม่คว้าโอกาสไว้ได้ไง แต่ฉันผ่อนไม่ผ่านฉันติดบูโร(หัวเราะ) เลยต้องจ่ายเงินสด ถามว่าปีหน้าจะซื้อคันใหม่อีก 25 ล้าน ก็ดูไว้แล้ว แต่ไม่รู้จะทำได้ไหม ปักหมุดไว้ แมคลาเรน”

เป็กกี้ศรีธัญญากลัวความลำบากจนขนหัวลุกเล่าอดีตกว่าจะผ่านมาได้ฝันร้ายแทบทุกคืนเดลินิวส์

เรื่องการเก็บเงิน เราก็ทำงานอย่างเดียวเลยค่ะ ร้องเพลง ไปงานอีเว้นต์ ถามว่ารับกี่งาน ก็รับเท่าที่จะรับได้ค่ะ คือเราไปหมดเท่าที่ไหว ไม่เที่ยว ไม่กิน เก็บเป็นเงินสดเลยค่ะ สิ้นเดือนก็เอาไปแบงก์ เวลาขี้เกียจ เหนื่อย ไม่อยากทำงาน ก็จะเปิดสมุดธนาคารดู แล้วก็จะขยัน แล้วก็ไป ทำงานเก็บเงิน พอเริ่มได้สักพักก็เอาไปปิดคอนโด แล้วขยายไปดูบ้าน ขยันทำงานปีหนึ่งก็ปิดบ้าน 8 ล้านได้ ก็เริ่มซื้อรถ เห็นอีกซอยตรงบ้านเรา เห็นมีบ้านใหญ่ เจ้าของบ้านไม่เคยมาอยู่เลย มันใหญ่จังเลย ถ้าเราได้หลังนี้ก็คงจะดี สักพักเห็นแบงก์มาแขวนป้ายเป็นทรัพย์ยึด ก็เลยเข้าไปคุยกับแบงก์ ขอซื้อได้ไหม แบงก์ตีราคามาให้ 14 ล้าน ก็เลยซื้อเป็นเงินสด ก็วิ่งงานตลอด ใครให้ไปทำอะไร ทำหมดเลย ทุกงาน เราทำงานแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เราเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงช้า เราอยากเก็บตังค์ กว่าจะมาได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราไม่เกเรเลย เราขยันมาก

เป็กกี้ศรีธัญญากลัวความลำบากจนขนหัวลุกเล่าอดีตกว่าจะผ่านมาได้ฝันร้ายแทบทุกคืนเดลินิวส์


หนูกลัวความลำบากจนขนหัวลุก ความจนมันน่ากลัวมาก มันฝังอยู่ในจิตวิญญาณ ไม่มีตังค์เลย ต้องไปตามคูคลอง ไปตกปลาหมอกิน ซึ่งคุณแม่เสียชีวิตตอนหนูอายุ 17-18 คือชีวิตไม่เหลืออะไรเลย ไม่รู้จะพึ่งใคร ว้าเหว่ ไร้ที่พึ่ง ไร้ที่อยู่อาศัย กว่าจะผ่านตรงนั้นมาได้ หนักมาก ปีนึงคือแบบว่านั่งดูพระอาทิตย์ตกก็ร้องไห้ กลางคืนก็ร้องไห้ ฝันร้ายฝันเห็นภาพเดิมๆไม่รู้กี่ปี คือมันต่อเนื่องหลายปีมากๆ ฝันซ้ำถึงแม่อยู่นานมาก คือเราไม่มีใครเลย ซึ่งเอาจริงๆถ้าเป็นภาษาในยุคนี้ก็คือโรคซึมเศร้า แต่ว่าณ ตอนนั้นเราก็เศร้าไม่ได้ คือชีวิตมันต้องไปต่อ ถามว่ากลับมาตั้งหลักได้อย่างไร คือเป็กไปอยู่กับเพื่อน เพื่อนที่เรียนประถมมาด้วยกัน คือบ้านเขาเป็นลิเก แล้วเราคือไม่มีที่อยู่ เราก็เลยคุยกับเพื่อนว่า พ่อแม่เธอไม่ค่อยอยู่เลยเนาะ เราไม่มีที่อยู่เลยขอไปอยู่ด้วยได้ไหม เพื่อนก็เลยบอกว่ามาอยู่กับเราได้เลยพ่อแม่เราไม่ค่อยอยู่ เราก็ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนแบบนี้มาปีนึง ก็มารู้ว่าแม่หนูเสีย แล้วก็มีคุณลุงเขามารับไปอยู่ด้วย ซึ่งบ้านคุณลุงก็ทำอาชีพเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเสียง แล้วเราก็ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว เลยได้มีโอกาสไปทำงานตรงนั้น ก็คือไปเป็นคนขับรถ ตั้งเวที เป็นคอนวอย เสร็จงานก็กลับบ้านมาแล้วอาบน้ำ ไปร้องเพลง รับค่าจ้างเริ่มต้นที่150 บาท ก็เลยเริ่มเก็บเงินตั้งแต่ตอนนั้น อยากสนุกกว่านี้ก็เลยอยากไปเป็นนักร้องบาร์เบียร์ มีหลอกดริ้งก์ฝรั่งด้วย ให้เธอ 20 แก้ว ถ้าเธอกินๆๆ แล้วนั่ง 10 นาทีได้โดยที่ไม่อ้วก เอาไปเลย 30,000 บาท เราก็สามารถเอาเงิน 30,000 มาได้ เป็นความตรากตรำ ความสู้ชีวิต รปภ.ก็เคยเป็นมาแล้ว ในช่วงปิดเทอมรู้สึกว่าจะต้องฝึกอาชีพ เราจะได้รู้ว่า อยากเป็นอะไรกันแน่ เริ่มจากเป็นเด็กเสิร์ฟ เป็นครัว เป็นทุกอย่างเลย รวมถึง รปภ.ด้วยมันเป็นป้อมเวลาพนักงานจะออก เมื่อถึงเวลารอค้นตัวพนักงานที่จะออกเวรเท่านั้น แล้วก็ให้ผ่านทุกคนโดยที่ไม่ค้น (หัวเราะ)

เคยมีเสี่ยมาขอเลี้ยง เดิมทีไปร้องเพลงก่อน แล้วเขาก็เห็น เขาก็ชวนไปทานข้าว แล้วก็บอกว่าถ้าทานข้าวต้องจ้างหนูค่ะ ก็คือจ้างร้องเพลงนั่นแหละ คือจ้างทั้งวง แต่หนูกินข้าวด้วย พอไปแล้วเขาให้ทิปเป็นแหวนเพชรเม็ดใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็โทรมาว่าเขาจะรับไปทานข้าว หนูไม่ไป แล้วเขาก็เลยให้ลูกน้องมาทวงแหวนเพชรคืน เราก็คืน แล้วในวันที่ไปร้องเพลง เขาก็บอก ผมชอบคุณมากเลยนะ งานอดิเรกของผมคือ ผมชอบล่าสัตว์ แล้วขัดปืนไปด้วย กล้าไหมล่ะ ความแข็งแกร่งและความโชคดีของเรา คือเรารับมือกับเรื่องร้ายได้ดีแค่ไหน ยิ่งเรารับมือกับเรื่องร้ายได้ดี นั่นคือความโชคดีของเรา”

เป็กกี้ศรีธัญญากลัวความลำบากจนขนหัวลุกเล่าอดีตกว่าจะผ่านมาได้ฝันร้ายแทบทุกคืนเดลินิวส์

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pexky_sretunya

เป็กกี้ศรีธัญญากลัวความลำบากจนขนหัวลุกเล่าอดีตกว่าจะผ่านมาได้ฝันร้ายแทบทุกคืนเดลินิวส์