【purble place】7 โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปี68 ส่องทั้งอุตฯไหนได้-กระทบเต็ม ๆ | เดลินิวส์

เริ่มจาก นโยบายต่างประเทศ

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

1. มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (EU CBAM) ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่ผู้นำเข้าสินค้าเป้าหมายตามมาตรการ CBAM จะต้องเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 80 ยูโร (ประมาณ 2,800 บาท) ต่อปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ 1 ตัน ที่เกิดจากการผลิตสินค้าดังกล่าว ซึ่งปี 68 จะเป็นปีสุดท้ายของการดำเนินการเฟสแรก ของมาตรการ CBAM ที่ผ่อนผันให้แค่รายงานผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่านั้น และจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียม CBAM Certi ficate ตั้งแต่ 1 ม.ค. 69 เป็นต้นไป โดยสหภาพยุโรปจะทยอยประกาศระเบียบ ข้อบังคับ และแนวปฏิบัติ เช่น การเข้าไปรายงานข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวในระบบ เพื่อส่งข้อมูลไปยัง EU ได้โดยตรง รวมถึงแนวปฏิบัติอื่น ๆ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบภายในปีนี้

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

2.ความร่วมมือระดับโลก : COP30 ในเดือน พ.ย. 68 จะมีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 หรือ COP 30 จะกำหนดให้ทุกประเทศส่งแผนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใหม่ โดยเพิ่มความพยายามในการลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศอื่น ๆ เช่น สนธิสัญญาพลาสติกโลก ภาระผูกพันจากการประชุม COP ครั้งก่อน ๆ การเข้าร่วม Climate Market Club ของธนาคารโลก ที่จะส่งผลให้เป้าหมาย และแผนการดำเนินการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกของไทยให้มีรูปธรรมมากขึ้น

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

3.ผลกระทบจากสงครามการค้า และการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ไทยมีความเสี่ยงอาจเป็นหนึ่งในประเทศที่อาจถูกสหรัฐ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงขึ้น และอาจได้รับผลกระทบจากการไหลทะลักของสินค้าจีน เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐ ในระดับสูง และแนวโน้มการกีดกันทางการค้ากับประเทศจีนจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

สินค้าส่งออกที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจได้รับอานิสงส์ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ เป็นต้น ถึงแม้อาจโดนกำแพงภาษี แต่น่าจะมีอัตราตํ่ากว่าสินค้าที่ผลิตจากหรือเป็นสินค้าของบริษัทสัญชาติจีน กอปรกับอานิสงส์จากการประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีส และการไม่สานต่อมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ ดังเช่น การหยุดสนับสนุนนโยบาย Inflation Reduction Act (IRA) จะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในสหรัฐ ขาดการประหยัดต่อขนาดและไม่ขยายตัว
อย่างที่เคยเป็น

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

ผลกระทบต่อประเทศไทย : อุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง จะได้รับผลกระทบทางตรง เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ซีเมนต์ พลาสติก โดยจะมีความยุ่งยากในการดำเนินการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของการผลิตสินค้าของตนเองให้ได้มาตรฐาน รวมถึงอาจมีต้นทุนค่าธรรมเนียมแก่ประเทศนำเข้าสินค้าและค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบ

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

ผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ ธุรกิจที่ไม่ได้เป็นธุรกิจส่งออกหรือเป็นเป้าหมายของมาตรการ แต่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทที่เกี่ยวข้อง โดยอาจเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับบริษัทที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ดีกว่า

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

อย่างไรก็ตามผู้บริโภค และผู้ส่งออกไทยอาจได้รับผลดีในระยะสั้น จากอานิสงส์ของการเปลี่ยนตลาดการส่งออกของจีนและการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐ ทดแทนสินค้าจีน โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เป็นต้น

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

นโยบายในประเทศ

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

1. ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และคาดว่า จะออกกฎหมายรองเพื่อกำหนดมาตรการบังคับใช้ได้ภายในปี 69 ดังนี้ กำหนดให้ต้องรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, กลไกการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคบังคับ ได้แก่ ภาษีคาร์บอน และระบบการให้สิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

กลุ่มธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์ เช่น ธุรกิจบริการประเมิน ตรวจวัด และให้การรับรองคาร์บอนฟุตพรินต์ ธุรกิจพลังงานสะอาด เป็นต้น กลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เช่น อุตสาหกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เหล็ก อะลูมิเนียม ซีเมนต์ พลาสติก กลุ่มธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงและเป็นเป้าหมายของนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของต่างประเทศ

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

2.ไฟฟ้าสีเขียว Utility Green Tarriff (UGT) หรือไฟฟ้าพลังงานสะอาด สามารถใช้เพื่อลด Carbon Footprint ใน Scope ที่ 2 สามารถซื้อได้โดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มในอัตรา 0.0527-0.0594 บาท/หน่วย ซึ่งได้รวมค่าใบรับรองการผลิตไฟฟ้าสีเขียว (REC) ในรูปแบบไม่เจาะจงแหล่งที่มา (UGT1) นอกจากนี้ในระยะถัดไป จะมีไฟฟ้าสีเขียวแบบเจาะจงแหล่งที่มา (UGT2) ที่สามารถระบุแหล่งที่มาของไฟฟ้าได้ โดยจะอยู่ในรูปแบบสัญญาระยะยาว

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

3.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ฉบับใหม่ เน้นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในสัดส่วนมากขึ้นเป็น 51% (พลังงานแสงอาทิตย์ 16% พลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ 16% และพลังงานนํ้าจากต่างประเทศ 15%) ที่จะนำเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ไปเป็นปัจจัยกำหนดนโยบายการผลิตไฟฟ้าของประเทศ สำหรับช่วงปี 67-80 โดย กลุ่มธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ธุรกิจที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจพัฒนาและวิจัยแบตเตอรี่เพื่อกักเก็บพลังงาน

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์

4.กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เช่น พระราชบัญญัติอากาศสะอาด กฎหมายควบคุมมลพิษทางอากาศ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและจัดการขยะพลาสติก ที่จะคอยควบคุมการดำเนินการของโรงงานและธุรกิจเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะเข้มงวดมากขึ้น และต้องติดตามการกำหนดนโยบาย และมาตรการอื่นของไทยที่จะมีเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางและบริบทการดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของโลก.

โจทย์ใหญ่ยั่งยืนปีส่องทั้งอุตฯไหนได้กระทบเต็มๆเดลินิวส์