【winbox ทางเข้า】5 พิกัดชมวิวหิมะด้วย JR-EAST | เดลินิวส์

เริ่มกันที่ชินคันเซ็นสายโฮคุริคุจากสถานีโตเกียวมุ่งหน้าสู่เมืองคารุอิซาวะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยลงที่สถานีคารุอิซาวะ ช่วง “เทศกาลฤดูหนาวคารุอิซาวะ” ทั่วทั้งเมืองจะมีการประดับไฟ ตลาดนัด พร้อมกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2024 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2025

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

มีจุดไฮไลต์อยู่ที่ “น้ำตกชิราอิโตะ” ที่มีการประดับไฟสวยงามเป็นฉากฟุ้ง ๆ ราวกับภาพฝัน โดยจัดขึ้นเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2025 นอกจากนี้เรายังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมอาคารรวมถึงการตกแต่งเมืองในสไตล์ตะวันตกได้ทั่วเมือง การเดินทางไปน้ำตกชิราอิโตะ จากป้ายรถบัสสถานีคารุอิซาวะตรงประตูทางออกทิศเหนือ ให้ขึ้นบัสสาย 01 Kyuko Kusakaru แล้วลงที่ป้ายน้ำตกชิราอิโตะ

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

หรือจะนั่งชินคันเซ็นสายโฮคุริคุ สายเดียวกันแต่เลยไปไกลกว่าด้วยการลงที่สถานีอียามะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 38 นาที แล้วนั่งรถโดยสารประจำทางมาอีก 20 นาทีไปที่เมืองอียามะ เที่ยวงาน “เทศกาลคามาคุระโนะซะโตะ” ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์จะมีการสร้างกระท่อมหิมะทั้งขนาดใหญ่เล็กราว 20 หลังท่ามกลางวิวหิมะอันขาวโพลน

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

ไฮไลต์ของที่นี่คือการเข้าไปอยู่ในกระท่อมหิมะแล้วทานหม้อไฟโนะโระชินาเบะซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ นอกจากนี้ยังมี “ศาลเจ้าคามาคุระ” ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษในส่วนลึกของหมู่บ้านคามาคุระ ในยามค่ำคืน ตามทางเดินจะมีดวงไฟส่องสว่างทอดยาวจากหมู่บ้านไปยังประตูโทริอิ บรรยากาศงดงามราวกับอยู่ในความฝัน

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

แต่หากนั่งชินคันเซ็นสายโฮคุริคุไปลงที่สถานีนางาโนะ จะเป็นเส้นทางไปเยี่ยมเยือนเหล่าน้องลิงที่ลงแช่ออนเซ็นที่ “สวนลิงจิโกะคุดานิ” โดยจะต้องต่อรถบัส Kyuko Shiga Kogen ที่ป้ายรถบัสของสถานีนางาโนะฝั่งประตูทางออกทิศตะวันออก เพื่อไปลงที่ป้าย “สวนลิงจิโกะกุดานิ” ใช้เวลาประมาณ 42 นาที จากทางเข้าสวนลิงถึงจุดชมลิง เดินประมาณ 25 นาที อาจจะไปยากสักนิดแต่รับรองว่าจะได้ส่องลิงหิมะญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิดชนิดที่ว่ามองได้เพลิน ๆ เป็นวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

หรือจะลองเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโจเอ็ตสึ ไปฝั่งจังหวัดนีงาตะ จากสถานีโตเกียวไปลงที่สถานีเอจิโกะยูซาวะ จากนั้นให้นั่งรถไฟสายโฮคุโฮคุมาลงที่สถานีมัตสึดะอิ โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นนั่งแท็กซี่มาอีก 15 นาที จะถึง “ป่าบิจิน บายาชิ” สัมผัสโลกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ในวันอากาศแจ่มใส หิมะจะสะท้อนกับแสงแดดเปล่งประกายระยิบระยับ

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

ส่วน “อุโมงค์ในหุบเขาคิโยสึ” จะต้องนั่งชินคันเซ็นสายโจเอ็ตสึจากสถานีโตเกียว มาลงที่สถานีเอจิโกะยูซาวะโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 13 นาที จากนั้นให้นั่งบัสด่วน Kyuko คันที่ไปทาง Morimiyanohara ลงที่ป้ายทางเข้าหุบเขาคิโยสึ ใช้เวลาประมาณ 25 นาที จากประตูทางเข้า เดินมาอีก 30 นาทีจะถึงอุโมงค์

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

MAD Architects ได้ปรับปรุงอุโมงค์ในหุบเขาคิโยสึขึ้นใหม่ในปี 2018 ให้ออกมาเป็นผลงานศิลปะ “Tunnel of Light” ภายใต้การนำของ หม่า เยี่ยนซง หนึ่งในศิลปินชั้นนำของวงการสถาปัตยกรรมประเทศจีน โดยอุโมงค์นี้เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ใช้แรงบันดาลใจจาก 5 ธาตุในธรรมชาติ ได้แก่ ไม้ ดิน ทอง ไฟ น้ำ และยังมองเห็นวิวธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของหุบเขาคิโยสึได้อย่างใกล้ชิดด้วย

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์

JR EAST PASS (พื้นที่นางาโนะ-นีงาตะ) สามารถใช้บริการชินคันเซ็นและรถไฟด่วนทั่วไปภายในพื้นที่ที่กำหนดได้ไม่จำกัดตลอดระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน รวมทั้งยังสามารถนั่งรถไฟ “Joyful Trains” ได้อีกด้วย ดูเพิ่มเติมที่ www.jreast.co.jp/multi/th/pass/eastpass_t.html

พิกัดชมวิวหิมะด้วยJREASTเดลินิวส์