【18+game】SeoulStation : 'ไอยู-พัคโบกอม' สะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลใน 'ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน' | เดลินิวส์
เซย์ฮัลโหลวันสุขแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักทุกท่าน วนมาพบกับคอลัมน์บันเทิงสุดฮอตอย่าง “SeoulStation” อีกแล้ว พื้นที่ที่พร้อมอัปเดตเรื่องราวของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์มาอัปเดตแบบพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟกันทุกสัปดาห์ กับเหยี่ยวข่าวสาวพราวเสน่ห์ “นูน่าเมี้ยน” โดยสัปดาห์นี้นูน่าจะพามาพูดถึงซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่าที่หลายคนให้ความสนใจกันอยู่ในขณะนี้ กับซีรีส์เรื่อง “When Life Gives You Tangerines” หรือชื่อภาษาไทยว่า “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน” ของทาง Netflix ซีรีส์ดราม่าสุดอบอุ่นหัวใจที่จะทำให้คุณยิ้มทั้งน้ำตา พร้อมพาคุณเดินทางไปสัมผัสเรื่องราวความรักและชีวิตที่บอกเล่าผ่านฤดูกาลทั้ง 4 ฤดูบนเกาะเชจู ของ “แอซุน” สาวน้อยหัวขบถ และ “กวานชิก” ชายหนุ่มผู้ได้รับฉายา นายเหล็กผู้แน่วแน่
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
ซีรีส์เรื่อง “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน” (When Life Gives You Tangerines) การันตีคุณภาพโดยผู้กำกับ “คิมวอนซอก” ร่วมกับนักเขียนบทมากฝีมือ “อิมซังชุน” กับการถ่ายทอดเรื่องราวความรักของ “แอซุน” (รับบทโดย ไอยู) และ “กวานชิก” (รับบทโดย พัคโบกอม) ทั้งคู่เดินทางผ่านเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยสุขและทุกข์ บนเกาะเชจู เรื่องราวความสัมพันธ์ของพวกเขาผ่าน 4 ฤดู สะท้อนให้เห็นความผูกพันที่ยาวนานและความรักที่อยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชมจะได้เห็นการเติบโตของทั้งคู่ ตั้งแต่วัยเยาว์บนเกาะเชจูในปี 1960 จนถึงกรุงโซลในปี 2025 ผ่านเรื่องราวดราม่าที่สะท้อนชีวิตและความสัมพันธ์ที่เติบโตแข็งแกร่งขึ้นตามกาลเวลา นอกจากนี้ ซีรีส์ยังได้นักแสดงฝีมือเยี่ยมอย่าง “มุนโซรี” และ “พัคแฮจุน” มารับบทแอซุนและกวานชิกในวัยผู้ใหญ่ รวมถึงนักแสดงสมทบมากมายที่จะมาร่วมสร้างความอบอุ่นและสีสันในเรื่องราวการเดินทางชีวิตของทั้งคู่ โดยซีรีส์จะมีจำนวนทั้งหมด 16 ตอน โดยจะแบ่งตอนตาม 4 ฤดู ในเกาะเชจูของเกาหลี
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์งานนี้ “นูน่าเมี้ยน” ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวซีรีส์เรื่องนี้ด้วย และก็ไม่พลาดที่จะเก็บบทสัมภาษณ์พิเศษของ ไอยู, พัคโบกอม, มุนโซรี, พัคแฮจุน และผู้กำกับคิมวอนซอก เกี่ยวกับเหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจรับบทแสดงนำในเรื่องนี้ และการที่ผู้กำกับเลือกนักแสดงในการดำเนินเรื่อง เบื้องหลังการเล่าเรื่องราวบนเกาะเชจูตั้งแต่ยุคปี 1960 จนถึงยุคปัจจุบัน รวมถึงการถ่ายทอดเรื่องราวของนักแสดงที่ต้องแชร์ตัวละครเดียวกันในวัยที่แตกต่างกันอีกด้วย
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
เล่าถึงที่มาของชื่อซีรีส์ ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน และถึงสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์ผู้กำกับคิมวอนซอก : “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตตลอด 4 ฤดูกาลบนเกาะเชจูของ “แอซุน” สาวจอมรั้น และ “กวานชิก” ฉายาหนุ่มใจแกร่ง เราสร้างซีรีส์เรื่องนี้ด้วยความหวังว่าจะเป็นการยกย่องบรรพบุรุษรุ่นพ่อรุ่นแม่ รวมถึงเป็นเสมือนบทเพลงให้กำลังใจสำหรับลูกสาวและลูกชายที่จะก้าวเดินต่อไปในโลกอนาคต ผมหวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะช่วยทำลายกำแพงล่องหนระหว่างวัย เพศ และผู้คนทั่วไปได้ไม่มากก็น้อยครับ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับและผู้เขียนบทในผลงานเรื่องนี้?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์ไอยู : “นี่เป็นผลงานเรื่องที่สองที่ฉันได้ร่วมงานกับผู้กำกับคิมวอนซอก และฉันก็เป็นแฟนตัวยงของผู้เขียนบทอิมซังชุนด้วยค่ะ ทันทีที่ได้รับขอเสนอ ฉันก็คิดว่าอยากรับเล่นเรื่องนี้ให้ได้ก่อนที่จะได้เห็นบทเสียอีก และยิ่งพอได้อ่านบทก็ยิ่งอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ พออ่านบทปุ๊บฉันก็ตกลงทันทีเลยค่ะ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์พัคโบกอม : “ผมเองก็เป็นแฟนตัวยงของผู้เขียนบทมาโดยตลอด พวกเราถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ทันทีหลังจากที่ผมปลดประจำการทหาร ผมทราบดีว่าผู้กำกับและผู้เขียนบทใส่ใจรายละเอียดมากแค่ไหนในผลงานของพวกเขา ผมตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ ตอนที่ได้อ่านบท ผมสัมผัสได้ถึงเคมีที่ชัดเจนระหว่างแอซุนและกวานชิกในตลอดช่วง 4 ฤดูกาลที่พวกเขาร่วมกันสร้างให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา และผมมั่นใจว่า นี่จะเป็นซีรีส์ที่วันหนึ่งผมสามารถนั่งชมพร้อมกับสมาชิกในครอบครัว และพูดได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่ได้มีส่วนร่วมในผลงานเรื่องนี้ และผมก็อยากแบ่งปันเรื่องราวที่แสนซาบซึ้งและชวนอบอุ่นใจมากๆ เรื่องนี้ให้กับแฟนๆ ของผมเช่นกันครับ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
มุนโซรี : “ฉันประทับใจในผลงานก่อนหน้านี้ของผู้กำกับ และก็เป็นแฟนตัวยงของผู้เขียนบทด้วย ฉันตื่นเต้นที่จะได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้ รวมถึงมีความสุขและเป็นเกียรติมากที่ได้รับข้อเสนอ ดีใจมากจนเหมือนตัวจะลอยเลยค่ะ พอได้อ่านบทฉันรู้สึกว่ามันสะเทือนอารมณ์และซาบซึ้งจนฉันร้องไห้ไม่หยุด และก็ทำให้ฉันนึกถึงพ่อแม่ของฉันด้วยค่ะ นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันร้องไห้มากที่สุดในชีวิตตั้งแต่เคยอ่านบทละครมา”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์พัคแฮจุน : “แม้ว่าผมกับผู้กำกับจะสนิทกันมาก แต่เราไม่ได้คุยกันบ่อยนัก เขาโทรมาหาผมและถามว่ามีคิวงานอะไรหรือเปล่า ตอนแรกทั้งประหม่าและประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้รับสายเขา แม้ว่าใจจริงผมรอให้เขาโทรมาเสมอ เพราะอาจหมายความว่าเขาต้องมีข้อเสนอใหม่แน่ๆ และเขาก็ให้บทผมมา ตลอดหลายวันที่อ่านบทผมตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้รับข้อเสนอให้รับบทนี้ และผมก็ชอบผลงานของผู้เขียนบทอิมซังชุนมากด้วยครับ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์ช่วยเล่าถึงตัวละครแอซุนให้ฟังหน่อย?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์ไอยู : “แอซุนเป็นเด็กสาวที่มีอารมณ์ลึกซึ้ง เธอร้องไห้บ่อย หัวเราะบ่อย เป็นเด็กหัวรั้นและมีอารมณ์หลากหลาย เธออาจจะไม่มีอะไรมากมาย แต่เธอก็มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่กว่าใครอื่น และเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยความฝันและมีพรสวรรค์มากมายค่ะ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์มุนโซรี : “ฉันรับบทเป็นแอซุนในวัยกลางคน ซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แม้จะแตกต่างจากตอนวัยเด็ก แต่เธอยังคงมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ และเป็นคุณแม่ที่เข้มแข็งและดื้อรั้นซึ่งขายของอยู่ในตลาด เธอยังคงร้องไห้เมื่อเศร้า พยายามหัวเราะแม้จะเจอความทุกข์ยาก และยังคงยึดมั่นในความฝันอันล้ำค่าของเธอซึ่งอยากจะเป็นกวีมาโดยตลอดค่ะ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
พวกคุณแสดงเป็นตัวละครแอซุนแต่ในช่วงวัยที่ต่างกัน การที่ต้องแชร์ตัวละครเดียวกันมีผลกระทบต่อการแสดงของพวกคุณทั้งสองคนอย่างไรบ้าง?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์มุนโซรี : “ไอยูเริ่มถ่ายทำก่อน ฉันก็กังวลเหมือนกันว่าเราทั้งสองคนจะทำให้ออกมาดูสมจริงได้อย่างไร เราจึงคุยเรื่องนี้กันเยอะมาก ในแง่มุมหนึ่งฉันคิดว่า ถ้าคุณดูรูปถ่ายของแม่ โดยเฉพาะตอนที่แม่ยังเด็ก คุณจะรู้สึกห่างเหิน ไม่เหมือนแม่ในมุมที่คุณรู้จัก รู้สึกเหมือนเป็นคนละคน ฉันจึงคิดว่าคงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชมจะรู้สึกว่าไอยูและฉันเป็นคนคนละคน เราจึงตกลงกันว่าเราอยากให้มีความคล้ายคลึงกันบางมุม แต่บางมุมเราก็อยากให้เป็นคนละคนกัน เรารู้สึกว่าวิธีที่เราพูดก็ต้องคล้ายกัน ดังนั้นบางครั้งเราจึงอ่านบทพูดของกันและกันด้วยค่ะ ฉันสังเกตเห็นว่าไอยูมีจุดเหมือนไฝเสน่ห์บนใบหน้า ทีมเมคอัพก็จะเติมไฝ่เสน่ห์น่ารักๆ ให้ฉันด้วย แล้วฉันก็จะกลายเป็นแอซุนทันทีค่ะ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์ไอยู : “อันที่จริงไฝหรือกระบนใบหน้าของฉันสามารถปกปิดได้ด้วยการแต่งหน้า แต่รุ่นพี่มุนโซรีเสนอให้ปล่อยไว้อย่างนั้น เธอยังเชิญฉันไปที่บ้านและสตูดิโอของเธอเพื่อพูดคุยกันด้วยค่ะ เราคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องซีรีส์และชีวิตโดยทั่วไป ทำให้เราสนิทกันมากขึ้นโดยปริยาย และทำให้เราสามารถแชร์ตัวละครแอซุนได้อย่างดีค่ะ
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
ช่วยเล่าถึงตัวละคร “กวานชิก” ให้ฟังหน่อย?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์พัคโบกอม : “กวานชิกเป็นคนที่รู้คุณค่าของทุกคนในชีวิตของเขา เขามีหัวใจที่แข็งแกร่ง หัวใจของเขาเคลื่อนไหวไปตามเข็มทิศของแอซุนและทุกๆ ที่ที่สายตาของแอซุนจ้องมองไป เขาเปรียบเสมือนกับชาวสวนแสนโรแมนติกที่พร้อมจะปลูกดอกไม้อันงดงามเพื่อเธอครับ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์พัคแฮจุน : “เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีความรับผิดชอบสูงมากและขยันขันแข็งมาก ซึ่งแตกต่างกับผมในชึวิตจริงมาก เขาทุ่มเท ซื่อสัตย์ ยอมสละชีวิตทั้งหมดเพื่อครอบครัว และไม่ลังเลก่อนลงมือทำ ถ้าคุณโบกอมบอกว่ากวานชิกในเวอร์ชั่นเขาเหมือนชาวสวนโรแมนติก ในเวอร์ชั่นผมคงเหมือนชาวประมงที่โรแมนติกมั้งครับ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์พวกคุณทั้งสองแสดงเป็นตัวละครกวานชิกในช่วงวัยที่แตกต่างกัน ช่วยเล่าถึงกวานชิกในเวอร์ชั่นของพวกคุณแต่ละคนได้ไหม?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์พัคแฮจุน : “พวกเราไม่ได้ไปบ้านของอีกฝ่ายหรือพูดคุยกันเยอะเหมือนนักแสดงหญิงทั้งสองคนครับ แต่เรามีความสุขมากที่ได้เจอกันในกองถ่าย เราจะให้กำลังใจกันอยู่เสมอ เขาได้ถ่ายทำก่อนหลายฉาก ทำให้ผมสามารถอ้างอิงและสังเกตท่าทีของเขาจากฉากที่เขาแสดงเป็นกวานชิกในวัยหนุ่ม จะมีบางฉากที่คุณจะเห็นการกระทำหรือวิธีการพูดของพวกเราที่คล้ายคลึงกันครับ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์พัคโบกอม : “หลังจากดู Final Cut ของซีรีส์แล้ว ผมรู้สึกทึ่งมากที่รุ่นพี่แฮจุนถ่ายทอดตัวละครกวานชิกในวัยผู้ใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม กวานชิกเป็นคนที่การกระทำย่อมมาก่อนคำพูด และผมรู้สึกว่ารุ่นพี่แฮจุน ถ่ายทอดตัวละครออกมาได้อย่างละเอียดอ่อน และอย่างที่ทราบกันดีว่าผู้กำกับคิมวอนซอกเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก เขามักจะโชว์ให้เราดูว่าเราควรแสดงในฉากนั้นๆ อย่างไรด้วยครับ”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
อะไรคือเหตุผลที่คุณตัดสินใจเลือกนักแสดงเหล่านี้มาเล่นบทเดียวกัน?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์ผู้กำกับคิมวอนซอก : “อย่างแรกเลย บทของผู้เขียนบทอิมซังชุนจำเป็นต้องได้นักแสดงที่เปี่ยมด้วยความสามารถ ตัวละครแต่ละตัวมีขอบเขตที่กว้างมาก และต้องสามารถทำให้ผู้ชมร้องไห้ หัวเราะ และแสดงอารมณ์ที่หลากหลายได้ บทละครก็เขียนไว้อย่างละเอียดมาก ผมไม่คิดว่าจะมีใครอื่นอีกที่จะเหมาะกับตัวละครเหล่านี้นอกจากนักแสดงเหล่านี้ หลังจากที่เราเลือกไอยูมารับบทแอซุน เราจึงอยากเสนอบทแอซุนเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ให้กับมุนโซรี เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าเธอมีศักยภาพด้านการแสดงสูงและแสดงได้หลายบทบาท สำหรับตัวละครกวานชิกก็ต้องการนักแสดงมากความสามารถเช่นเดียวกัน แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ผมคิดว่าบุคคลได้รับคัดเลือกให้รับบทนี้ต้องเป็นคนดีในชีวิตจริง พวกเขาต้องมีจิตใจดี แอซุนในสองเวอร์ชั่นจะมีความคล้ายคลึงกันด้วยวิธีการพูด แต่สำหรับกวานชิก สิ่งที่พวกเขาเชื่อมโยงกันคือลักษณะของคนที่มีนิสัยดี ซึ่งต้องถ่ายทอดผ่านจอได้อย่างเป็นธรรมชาติ แฮจุนเป็นนักแสดงที่นิสัยดีที่สุดที่ผมรู้จักในชีวิตจริง เขาชอบเล่นมุกแป้กแต่ผมก็รับได้เพราะเขาเป็นคนดีจริงๆ (หัวเราะ) ส่วนโบกอม ทุกคนในวงการรู้ว่าเขาเป็นคนดีแค่ไหน ผมคิดว่าถ้าเราสามารถแสดงด้านที่แตกต่างของโบกอมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนได้ นี่จะเป็นตัวละครที่มีความภักดี ทุ่มเท และมีหัวใจที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่มีความมุ่งมั่นและเข้มแข็งเท่านั้น แต่ภาพลักษณ์ที่เขามีก็มีความละเอียดอ่อนมากเช่นกัน”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวบนเกาะเชจูตั้งแต่ยุคปี 1960 จนถึงยุคปัจจุบันซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่กว้างมากทีเดียว ช่วยเล่าถึงเบื้องหลังและกระบวนการผลิตสักหน่อย?
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์ผู้กำกับคิมวอนซอก : “การถ่ายทอดเรื่องราวหลายชั่วอายุคนออกมาในซีรีส์เรื่องเดียวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ผมว่าหาเรื่องแบบนี้ได้ยาก เพราะมันท้าทายมาก ตัวละครเองก็ได้รับอิทธิพลจากยุคสมัย เพราะบางครั้งมันก็ท้าทายพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องมีรายละเอียดทางประวัติศาสตร์แน่ชัด ประกอบกับความสมจริง เราได้ผู้ออกแบบงานสร้างที่ดีที่สุดในโลกและผู้กำกับภาพที่ดีที่สุดมาร่วมงานกับเรา มีทีมงานองค์ประกอบศิลป์ที่มากความสามารถ และใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะออกมาสมจริง”
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์
ซีรีส์ “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน” (When Life Gives You Tangerines) จะนำความอบอุ่นมาสู่หัวใจด้วยเรื่องราวชีวิตจริงที่ทุกคนเข้าถึงได้ สะท้อนให้เห็นถึงช่วงชีวิตต่างๆ ในแต่ละฤดูกาล อย่าพลาดเส้นทางความรักที่จะทำให้คุณอบอุ่นจนลืมไม่ลง รับชมพร้อมกันได้แล้ววันนี้ทั้งพากษ์ไทย และซับไทยที่ Netflix เท่านั้น!.
ไอยูพัคโบกอมสะท้อนชีวิตรักอบอุ่นผ่านฤดูกาลในยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวานเดลินิวส์คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”