【ดูหนังออนไลน์ imovie-hd】“ยโสธร”นำร่องพืชหลังนา“ถั่วเขียว ลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็ม2.5 | เดลินิวส์

วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาที่ บ้านกุดเสถียร ตำบลสร้างมิ่ง อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ได้จัดงานวันเก็บเกี่ยว ถั่วเขียวพันธุ์ KUML พร้อมเปิดตัว เปิดตัวศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตถั่วเขียว KUML ระดับชุมชน โดยนายสันชัย พัฒนะวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มาเป็นประธานเปิดงาน   

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

 ถั่วเขียวพันธุ์ KUML เกษตรกรปลูกหลังฤดูทำนา ความพิเศษของถั่วเขียวพันธุ์ KUML สายพันธุ์ได้รับการสนับสนุนการวิจัยโดย  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. ) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  วิจัยสายพันธุ์ โดย ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จุดเด่น ‘เมล็ดโต-น้ำหนักดี’ แถมต้นถั่วเขียวยังช่วยบำรุงดินเป็นปุ๋ยพืชสดให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น ช่วยทั้งลดต้นทุน-สร้างรายได้เพิ่ม และไม่สร้างฝุ่น PM2.5 จากการไม่เผาตอซังในนาข้าว  ใช้เวลาปลูกระยะสั้นเพียง 2 เดือนเศษ เก็บเกี่ยวผลผลิต-สร้างรายได้ 22,000บาท/ครัวเรือน ปลูกบนพื้นที่ปลูก 350 ไร่ สวทช.สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว KUML จำนวน 1,750 กก. มีเกษตรกรเข้าร่วม14 กลุ่มจาก 8 อำเภอ ทั้งนี้ตลาดรับซื้ออยู่ที่กก.ละ40 บาท ต่างจากถั่วเขียวทั่วไปที่รับซื้ออยู่ในกก.ละ30กว่าบาท

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

            **เร่งขยายพื้นที่ปลูกถั่วเขียวเป็น1,000ไร่ในปี69

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

   น.ส.วิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และผู้อำนวยการ สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) กล่าวว่า สวทช.มุ่งนำงานวิจัยสู่แปลงผลิตด้วยความรู้และเทคโนโลยี ให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์จริง สร้างกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวพันธุ์ KUML ที่มีองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตถั่วเขียว KUML อินทรีย์ ให้ได้มาตรฐานและคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ สามารถขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ และสามารถเก็บและรักษาเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง รวมถึงสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเขียว KUML ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ด้วยกลไกตลาดนำการผลิต ร่วมกับ หน่วยงานในพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดการเผา บำรุงดิน และเกิดการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยปัจจุบันมีจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกทั้งสิ้น 3 จังหวัดพื้นที่ทุ่งกุลาฯ (ยโสธร  ศรีสะเกษ สุรินทร์ ) โดยในปี 2569 จังหวัดยโสธร จะเพิ่มจาก 350 ไร่ เป็น 1,000 ไร่ และตอบโจทย์ มิติลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ในโครงการทุ่งกุลาม่วนซื่น ตามกลยุทธ์ การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน (S T Implementation for Sustainable Thailand) ของ สวทช.

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

    “ ปัญหาอุปสรรคของการปลูกถั่วเขียวคือเป็นพืชที่ไม่ทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็น ทำให้ต้นแคระแกรนทันทีเมื่อเจออากาศหนาว  จึงเป็นโจทย์ที่นักวิจัยต้องไปปรับปรุงพัฒนาพันธุ์ให้ดีขึ้น ให้ทนต่อสภาพอากาศแปรปรวน หรือพัฒนาพันธุ์ให้มีโปรตีนที่สูงขึ้น เพราะถั่วเขียวเป็นแพลนเบสท์โปรตีนที่น่าสนใจ สามารถแปรรูปอาหารที่มีมูลค่าต่อไป”

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

                **ความหวังถั่วเขียวแก้จนให้คนยโสธร

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

   นายสันชัย กล่าวว่า ภาพรวมของจังหวัดยโสธรมีประชากรทั้งหมด 5.2 แสนคนเป็นผู้สูงอายุจำนวน 1.2 แสนคน เป็นเด็กที่อยู่ในวัยเรียนประมาณ 1.2 แสนคน มีตัวเลขคนวัยทำงาน 3 แสนคน แต่ที่น่าตกใจมีคนอยู่ในวัยแรงงานทำงานในจังหวัดประมาณ 8 หมื่นคน ตัวเลขประชากรเกือบ 2 แสนคนต้องไปทำงานต่างถิ่น เพราะสภาพพื้นที่ของจังหวัด ทำนาได้ปีละครั้ง ปัญหาเหล่านี้สะท้อนไปถึงคุณภาพของเด็กในจังหวัด มีการวัดไอคิว เด็กจังหวัดยโสธรมีไอคิวในลำดับท้ายของประเทศ เนื่องจากพ่อแม่ต้องไปทำงานต่างถิ่นทิ้งลูกไว้กับผู้สูงอายุ ส่งผลให้พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กช้า ยิ่งเมื้อมีโทรศัพท์มือถือเข้ามา ผู้สูงอายุเข้าใจว่าเด็กอยู่กับมือถือแล้วไม่ซน โทรศัพท์มือถือส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก  เด็กมีปัญหาสมาธิสั้น ศึกษาธิการจังหวัดกำลังแก้ไขเรื่องนี้  ซึ่งการปลูกถั่วเขียวที่มีตลาดรับซื้อจะทำให้คนยโสธรมีรายได้หลังฤดูทำนาไม่ต้องออกนอกพื้นที่ไปทำงานต่างถิ่น อีกทั้งถั่วเขียวยังเป็นพื้นที่มีไนโตรเจนเป็นปุ๋ยที่ดีสำหรับฤดูทำนาต่อไปได้

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

            **ยโสธรเมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองแห่งวิถีอีสาน

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

   นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า นโยบายการส่งเสริมพืชหลังนาของกรมส่งเสริมการเกษตร และความร่วมมือกับ สวทช. ในการขยายผลการผลิตถั่วเขียว KUML แบบครบวงจรนั้น สวทช. ได้ดำเนินงานร่วมกับกลุ่มส่งเสริมพืชน้ำมันและพืชตระกูลถั่ว สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร ที่ดำเนินงานส่งเสริมการปลูกถั่วเขียวเป็นพืชหลังนา และมีกลไกการทำงานเชื่อมโยงกับสำนักงานเกษตรจังหวัด ทั้งสิ้น 32 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชัยนาท ลพบุรี อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น  นครราชสีมา บุรีรัมย์ เลย ศรีสะเกษ สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ และจังหวัดมหาสารคาม ภายใต้ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชตระกูลถั่ว ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น ด้านการเกษตร แผนแม่บทย่อย: เกษตรปลอดภัย

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

“โครงการนี้มีการพัฒนาต้นแบบเกษตรกร แปลงเรียนรู้ และพื้นที่ต้นแบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวในระดับชุมชน มุ่งหวังการสร้างกลุ่มผู้ผลิตถั่วเขียวเข้าโรงงานอุตสาหกรรมที่มีผลผลิตสูง (grain) ตรงกับความต้องการของตลาด และสร้างกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวระดับชุมชน (seed) ลดการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพ โดยในโครงการจะดำเนินงานใน 1 จังหวัดนำร่อง คือ จังหวัดยโสธร เนื่องจากเป็นนโยบายการขับเคลื่อนของจังหวัดที่จะส่งเสริมให้ “ยโสธรเมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองแห่งวิถีอีสาน” โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพการบริหารทรัพยากรการเกษตรเป็นเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นและไม่กระทบสิ่งแวดล้อม และพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร โดยมีการบรรจุถั่วเขียว เป็น 1 ใน 10 ชนิดสินค้าสำคัญที่จะขับเคลื่อนในรูปโครงการ ในปีงบประมาณ 2569”

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

**ถั่วเขียว คลุก”ไรโซเบียม”ได้ผลผลิตดี

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

 รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ว่าถั่วเขียวเป็นพืชที่เหมาะสมกับพืชหลังนา เพราะหลังการเก็บเกี่ยวในพื้นนายังมีปุ๋ยหลงเหลือ ประกอบกับได้เมล็ดพันธุ์ที่ดีทำให้ถั่วเขียวให้ผลผลิตดี เมล็ดใหญ่ จึงเหมาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคอีสานหรือภาคกลางตอนบนประกอบกับมีการจัดตั้งศูนย์ถั่วชุมชน จะช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ดีไปสู่ชุมชนส่งผลให้เกิดการขยายพื้นที่ในการเพาะปลูกต่อไป

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

นายนพดล ผุดผ่อง เกษตรจังหวัดยโสธร กล่าวว่า จังหวัดยโสธร มีพื้นที่เกษตรทั้งหมด 1.7 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 1.35 ล้านไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทำนาอาศัยน้ำฝนและมีพื้นที่ชลประทานเพียง 7%ของทั้งจังหวัด ดังนั้นเกษตรจังหวัด จึงมองว่าเกษตรกรจะมีอาชีพเสริมได้อย่างไร จึงเลือกพืชถั่วเขียว ซึ่งเป็นพืชอายุสั้น สามารถเก็บเกี่ยวได้ช่วง 65-75 วัน และตลาดมีความต้องการจำนวนมากอีกทั้งในประเทศผลผลิตไม่เพียงพอ

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

“เมื่อก่อนเราไม่มีความรู้เรื่องการปลูกถั่วเขียวก็หว่านไปตามธรรมชาติ ผลผลิตไม่ได้ แถมมีพันธุ์ถั่วหินปนบ้างเมล็ดเล็กไม่มีใครรับซื้อ ทีนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว สวทช. มาให้ความรู้ แนะนำวิธีการปลูก คือให้คลุกไรโซเบียมก่อนปลูกแล้วไถกลบ หว่านและปั่น ทำให้ถั่วเขียวต้านทานโรคได้ดี และรากต้นถั่วเขียวก็จะมีปมและหาอาหารในดินได้เก่งขึ้น ต้นถั่วเขียวตั้งตรงแข็งแรง ที่สำคัญเมล็ดพันธุ์ KUML สุกแก่ค่อนข้างพร้อมกันช่วยให้เก็บเกี่ยวง่ายขึ้น เมล็ดใหญ่ ฝักใหญ่ แถมให้น้ำหนักดีมาก”ด้าน นายกฤษณ์ เสาประธาน ประธานสหกรณ์เกษตรอินทรีย์เลิงนกทาและไทยเจริญ จำกัด จ.ยโสธร และเป็นหนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเขียว KUMLบอกเล่า

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์

/-//-/-

ยโสธรนำร่องพืชหลังนาถั่วเขียวลดความเหลื่อมล้ำแก้ฝุ่นพีเอ็มเดลินิวส์