กรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามปฏิบัติการลอกท่อ สุขุมวิท ซอย 5 เขตวัฒนาหลังได้รับแจ้งว่ามีน้ำท่วมขังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงที่ฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมย้ำว่าการลอกท่อนั้นทำเป็นประจำอยู่แล้ว

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ทีมงานที่มาลุยลอกท่อในวันนี้ เป็นทีมเดียวกับที่ตีบวกท่อสุขุมวิท 22 ซึ่งปฏิบัติงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยพบว่าสิ่งที่มาอุดตันท่อระบายน้ำมีไขมันเป็นหลัก คาดว่ามาจากร้านอาหาร ปัญหาหนึ่งอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ทั้งการทิ้งน้ำเสียที่ไม่ดักไขมันตามกฎหมาย ต้องย้ำทุกเขตให้เอาจริงเอาจังกับกิจการและหาบเร่แผงลอยที่ทิ้งน้ำเสีย เพราะจะให้เจ้าหน้าที่มาคอยตักไขมันจากท่ออย่างเดียวคงไม่ไหว หากใช้รถดูดเลนลงหน้างานจะมีผลกระทบเรื่องการจราจร ต้องทำเฉพาะในเวลากลางคืน ตอนนี้จึงต้องใช้คนตักออกก่อน พร้อมระบุว่าสัปดาห์นี้จะลงพื้นที่ตรวจอีกครั้งเพื่อดูว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของไขมันอุดตันท่อนั้นเร็วแค่ไหน หากไขมันที่คั่งค้างอยู่นานแล้วจะจับตัวเป็นก้อนแข็ง แต่จากลักษณะไขมันที่ตักขึ้นได้ในวันนี้มีความยวบเหลวแสดงให้เห็นว่าค่อนข้างสดใหม่ อยากขอความร่วมมือประชาชนไม่ทิ้งขยะลงท่อ กิจการร้านอาหารทำบ่อดักไขมันให้ดี กทม. เองก็จะเข้มงวดมาตรการนี้ยิ่งขึ้น

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์

ด้านดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ในเฟสบุ๊ค Sonthi Kotchawat

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์

การล้างท่อระบายน้ำทิ้งของหน่วยราช การ ความปลอดภัยของพนักงานยังห่างมาตรฐานสากลมาก. ประเทศพัฒนาเขาทำอย่างไร?

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์

1.ในพื้นที่กทม.ย่านการค้า เช่น ย่าน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เยาวราช และย่านถนนตะนาจะมีไขมันและน้ำมันจากร้านอาหารและบ้านเรือนไหลลงท่อระ บายน้ำของกทม.เป็นประจำ ของเสียประ เภทไขมันหากปล่อยทิ้งสะสมประมาณ 1เดือนจะจับตัวเป็นก้อนชั้นหนาหากหนาเกิน10เซนติเมตรจะมีผลทำให้น้ำไหลผ่านยากมากและทำให้ท่อระบายน้ำตันได้ ดังนั้นจึงต้องมีการขุดลอกท่อระ บายน้ำก่อนช่วงที่ฝนจะตกเป็นประ จำ

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์

2.ในท่อระบายน้ำทิ้ง(manhole)มีสิ่งสกปรกและเชื้อโรคจำนวนมากรวมทั้งมีก๊าซมีเทน และก๊าซไข่เน่าซึ่งเกิดจากการหมักหมมของและการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย โดยจุลินทรีย์แบบไร้อากาศจนออกซิเจนในน้ำมีค่าต่ำกว่าร้อยละ19.5ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่อับอา กาศที่ต้องระวังในการทำงานอย่างยิ่ง การส่งพนักงานลงไปลอกท่อระบายน้ำ โดยที่ไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย หรือมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยโดยรอบอาจจะทำให้เกิดการเสียชีวิตหรือเจ็บป่วยของพนักงานได้ค่อนข้างมาก

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์

3.ตามมาตรฐานสากลของต่างประเทศตามกฎหมายอาชีวอนามัยความปลอด ภัยในการทำงานของประเทศไทยกำหนดให้ผู้ปฎิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์ความปลอดภัยก่อนลงไปทำงานและต้องมีอุปกรณ์ดูดหรือเป่าอากาศลงไปเพื่อไล่ก๊าซมีเทน(CH4) และก๊าซไข่เน่า (H2S)ออกไปจากท่อระบายน้ำก่อนและอัดอากาศลงไปจนมีค่าออกซิเจนมาก กว่าร้อยละ19.5แล้ว จึงใช้เครื่องมือดูดเอาไขมันที่สะสมอยู่ในท่อระบายน้ำออกมาไปกำจัด หากยังเป็นก้อนแข็ง ก็ส่งพนักงานลงไปจัดการเคาะออกมาให้พนักงานที่สวมชุดความปลอดภัยลงไปพร้อมผูกเชือกช่วยชีวิตหรือ Safety belt โดยมีทีมงานรอช่วยเหลืออยู่ข้างบน หากสัญญาณเสียงที่ติดอยู่กับตัวพนักงานจะดังขึ้นทุกๆ5นาทีและภายใน 30 วินาทีพนักงานไม่ปิดสัญญาณเสียงแสดงว่าอาจหมดสติ ทีมงานที่รออยู่ข้างบนจะต้องดึงขึ้นมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลต่อไป

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์

4.ในรูปจะเห็นว่าระบบการล้างท่อระ บายน้ำทิ้งของราชการไทยให้ความสำ คัญกับชีวิตพนักงานต่ำมาก หากไม่ตายก็อาจติดโรคจากเชื้อโรคจำนวนมากที่อยู่ในน้ำเสียได้ซึ่งต่างกับระบบสากลมาก

ราชการไทยทำคนลอกท่อเสี่ยงตายติดโรคเดลินิวส์