【m.wink777】‘เบสท์ รักษ์วนีย์’ ย้อนเล่า ‘สมรักษ์‘ ทรุด รับ ช็อกหลังเห็นพ่อป่วย-ร้องไห้ | เดลินิวส์

ทำเอาหลายคนแห่ห่วงไม่น้อย หลัง“เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ลูกสาวคนเก่งของ “สมรักษ์ คำสิงห์” ได้โพสต์อินสตาแกรมขณะอยู่หน้าห้องไอซียู พร้อมระบุข้อความว่า สมรักษ์ร่างกายไม่มีแรงบริเวณซีกซ้าย เมื่อเข้าโรงพยาบาล แพทย์ตรวจพบว่าเส้นเลือดในสมองข้างขวาตีบ เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอส่งผลให้ร่างกายทางซีกซ้ายไม่มีแรง จึงต้องแอดมิตที่อาการที่ไอซียู

เบสท์รักษ์วนีย์ย้อนเล่าสมรักษ์ทรุดรับช็อกหลังเห็นพ่อป่วยร้องไห้เดลินิวส์

ภายหลังสาวเบสท์ได้ออกมาอัปเดตอาการ ซึ่งแพทย์ตรวจพบเพิ่มเติมว่า หัวใจเต้นช้ากว่าปกติและมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

เบสท์รักษ์วนีย์ย้อนเล่าสมรักษ์ทรุดรับช็อกหลังเห็นพ่อป่วยร้องไห้เดลินิวส์

ล่าสุด ในงานเปิดตัว Endolift X เทคโนโลยีแปลงโฉมระดับโลก“ สาวเบสท์ได้ย้อนเล่าวันเกิดเหตุและอัปเดตอาการป่วยของคุณพ่อ โดยเบสท์ เผยว่า

เบสท์รักษ์วนีย์ย้อนเล่าสมรักษ์ทรุดรับช็อกหลังเห็นพ่อป่วยร้องไห้เดลินิวส์

”วันนั้นเขาบอกว่ารู้สึกเหมือนแขนข้างซ้ายชา แต่เขาคิดว่าเป็นเพราะเหน็บนั่งนานหรือว่าเล่นโทรศัพท์นานเลยชา ก็เลยไม่ได้เอะใจว่าจะเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ จนหน้าของพ่อข้างซ้ายเบี้ยวแล้วก็เดินเซเหมือนทรงตัวไม่ค่อยได้ หยิบกาแฟมากินก็ไม่ได้ ถือโทรศัพท์มาเล่นก็ไม่ได้ จนต้องไปโรงพยาบาลได้รู้ว่าเขาเป็นเส้นเลือดในสมองตีบระยะที่สอง เกี่ยวกับที่หยอดแอลกอฮอล์เข้าหูไหม ไม่น่าเกี่ยวเพราะว่าคุณหมอไม่ได้บอกว่าเกี่ยว แต่ว่าที่สมองเหมือนเป็นมาระยะนึงแล้ว คุณหมอถามว่ามีออกอาการอะไรไหมเวลาอยู่บ้าน แต่ว่าปกติ แม้กระทั่งตอนกลางคืนก็ยังเป็นปกติ ซึ่งหมอบอกว่าคนที่เป็นระยะปกติแล้วจะพูดไม่รู้เรื่องหรือว่าเดินเซ แต่ว่าคุณพ่อพูดรู้เรื่องทุกอย่างแล้วก็เดินปกติ ก็จะมีแค่เช้าวันนั้นที่สื่อสารไม่ค่อยปกติและหน้าเบี้ยวค่ะ กรณีของพ่อหนูคือเขาสื่อสารได้หมอก็เลยยังไม่กล้าทำอะไรมาก เลยให้แค่ยาเพราะไม่ถึงขั้นสื่อสารไม่ได้ การทรงตัวก็กลับมาตั้งแต่ครึ่งคืนแรกที่เข้าไอซียู พอเอ็กซ์เอ็กซเรย์สมองคุณหมอให้ยาเขาก็หลับไป ตื่นมาดึกๆหน้าก็กลับมาเป็นปกติแต่ว่ามีการสื่อสารที่ช้านิดนึง“

เบสท์รักษ์วนีย์ย้อนเล่าสมรักษ์ทรุดรับช็อกหลังเห็นพ่อป่วยร้องไห้เดลินิวส์

“ตั้งแต่หนูจำความได้ นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อเขาไอซียู ก่อนหน้านี้ไม่ทราบ อยู่ในไอซียูทั้งหมด 4 วัน ออกมาอยู่ห้องพักธรรมดา4-5 วันรวมประมาณหนึ่งอาทิตย์(ใจหายไหมในฐานะที่เป็นเสาหลักของบ้าน?)(ร้องไห้)ตอนนี้ก็ดูแลตามอาการ คุณหมอให้ไปตรวจทุกๆอาทิตย์และเรื่องหัวใจก็เหมือนต้องทำสลีปเทสด้วย เพราะขณะที่หลับมีอาการหยุดหายใจ ตอนนี้ได้คิวน่าจะสองสามวันนี้ที่จะต้องเข้าไปทำ ตอนนี้คุณพ่อก็ดีขึ้นเขาเป็นคนดื้อไม่อยากอยู่โรงพยาบาลอยู่แล้ว พอกลับมาบ้านเขาก็จะแฮปปี้ขึ้น ทางโรงพยาบาลบอกให้ทำกายภาพ เขาจะเดินทุกเช้าวันละ 10 นาที 20 นาที  เส้นเลือดในสมองตีบคุณหมอไม่เคยพูดว่าจะหายขาดแต่บอกว่าต้องกินยาไปตลอด และช่วงสองเดือนแรกไม่อยากให้ไปไหนหรือทำอะไรเลย หมอบอกว่าหลังปีใหม่ค่อยว่ากันว่าจะสามารถไปไหนได้บ้าง แต่คุณหมอกลัวว่าถ้าทำเลือดมันอาจจะไม่ไปเลี้ยงสมองและอาจจะน็อคไปอีก แล้วทีนี้ถ้าสื่อสารไม่ได้เลย กลับมาไม่ได้ก็จะหนัก  สิ่งที่หมอสั่งห้ามก็น่าจะเป็นเรื่องอาหารเพราะคอเลสเตอรอลสูงถึง 300 เพราะอีกนิดเดียวก็จะเป็นเบาหวานซึ่งคุณพ่อยังไม่ถึง เลยต้องงดอาหาร“

เบสท์รักษ์วนีย์ย้อนเล่าสมรักษ์ทรุดรับช็อกหลังเห็นพ่อป่วยร้องไห้เดลินิวส์

เบสท์เผยต่อว่า“ส่วนเรื่องหูดับเพราะเขาหยอดแอลกอฮอล์สมัยตอนที่เขาเล่นละคร แต่ว่ามันพึ่งมามีผลตอนปัจจุบัน เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ยินเพราะหูมันทะลุเขาก็เลยต้องใช้เครื่องช่วยฟังเครื่องช่วยฟังนี้ก็ต้องใช้ตลอดต่อให้ผ่าตัดการผ่าตัดจะช่วยปิดรูที่ทะลุไม่ให้เวลาศัพท์ผมแล้วนำเข้าจากหูไปที่สมองช่วยได้แค่เท่านั้นเท่ากับว่าตอนนี้ต้องใส่เครื่องช่วยฟังตลอดชีวิตแล้วก็กินยาเส้นเลือดในสมองตีบตลอด พ่อได้ยินไม่เต็มร้อยเวลาคุยต้องตะโกนระดับนึงแต่เขาก็ดื้อใส่บ้างไม่ใส่บ้าง คนที่ดูแลค่าใช้จ่ายตอนนี้คือหนูคนเดียวเพราะเขาดื้อไม่ทำประกัน เพราะเขารู้สึกว่าเขาแข็งแรง หนูไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินแต่ไม่อยากให้ป่วยมากกว่าหนูไม่ได้กังวลเรื่องคุณพ่อแล้ว แต่กังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากกว่า หนูก็ไม่รู้จะเจออะไรอีก อันนี้คือสิ่งที่หนูกังวล ปกติไม่เคยกังวลเรื่องอนาคต แต่ทุกวันนี้กังวล มันน่ากลัวมาก หนูคุยกับพ่อตอน 3 ทุ่ม ตื่นมา 11 โมงคุณพ่อหน้าเบี้ยวเป็นเส้นเลือดในสมองตีบหนูก็เลยรู้สึกมันน่ากลัว“

เบสท์รักษ์วนีย์ย้อนเล่าสมรักษ์ทรุดรับช็อกหลังเห็นพ่อป่วยร้องไห้เดลินิวส์

“เขาก็คงอยากกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมเพราะตอนนี้”ขับรถไม่ได้เดินทางไม่ได้ อากาศร้อนร้อนก็ไม่ได้ คุณหมอสั่งมาหนูก็ต้องห้าม จริงๆที่หนูเศร้าเพราะเขาร้องไห้ พ่อร้องไห้เพราะเขากลัว เราก็กลัวพอเราเห็นพ่อร้องไห้ เราก็จะร้องตาม ตอนนอนไอซียูคืนแรกเขาร้องไห้ เขาคงกลัวเพราะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องมานอนแบบนี้ และเขาขยับข้างซ้ายไม่ได้ด้วยเขากลัวมาก แล้วหนูก็ช็อคไปเลยเพราะเห็นพ่อร้องไห้“

เบสท์รักษ์วนีย์ย้อนเล่าสมรักษ์ทรุดรับช็อกหลังเห็นพ่อป่วยร้องไห้เดลินิวส์