ในสัปดาห์ที่แล้วที่คอลัมน์นี้หยิบยกนำบทวิเคราะห์โดยนักวิจัยของโครงการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม อย่าง ปรียา พลอยระย้า ซึ่งเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์เดอะประชากร.คอม ที่ฉายภาพ “ตลาดที่เปลี่ยนไป” ของ “ธุรกิจน้ำเต้าหู้” รวมถึงนำกรณีศึกษาจากผู้ประกอบการ อย่าง เบนซ์ ผ่องพิศ สิริเวชชะพันธ์ เจ้าของธุรกิจ Start Up คาเฟ่น้ำเต้าหู้ มาบอกเล่า เพื่อสะท้อนให้เห็นถึง “กลยุทธ์การปรับตัว” ไปแล้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ยังมีรายละเอียดอยู่อีก จึงขออนุญาตยกยอดมาต่อกันวันนี้

ใช้เศรษฐศาสตร์สู้กรณีศึกษาพลิกเกมธุรกิจน้ำเต้าหู้เดลินิวส์

ทั้งนี้ เจ้าของกรณีศึกษา อย่าง เบนซ์ ผ่องพิศ สะท้อนว่า ด้วยธุรกิจน้ำเต้าหู้ที่มีการแข่งขันกันดุเดือดมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการจึงต้องพิจารณาถึงการลดต้นทุนการผลิต และการสร้างความได้เปรียบเชิงต้นทุนต่อหน่วย ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอนำหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญมาใช้ นั่นคือ การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ควบคู่กับการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบเชิงเศรษฐศาสตร์ โดยการลงทุนกับวัตถุดิบอย่างเฉาก๊วยเป็น 1 ในตัวชูโรงของร้านที่สามารถผลิตเองได้ทำให้ง่ายต่อการควบคุมต้นทุนกับคุณภาพ ให้สอดรับกับตลาดที่แข่งขันสูง ส่วนอีกกลยุทธ์ที่ใช้คือ การสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ (Value) ที่ช่วย สร้างความแตกต่าง (Differentiation Point) และดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ให้ธุรกิจได้ด้วย เช่น สร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ให้ทันกระแสและความนิยม, สร้างราคาที่ลูกค้าจับต้องได้, นำเสนอรสชาติและเมนูที่หลากหลายให้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย, มีส่วนร่วมในทุกเทศกาล, มีช่องทางขายที่เข้าถึงทุกแพลตฟอร์ม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

ใช้เศรษฐศาสตร์สู้กรณีศึกษาพลิกเกมธุรกิจน้ำเต้าหู้เดลินิวส์

“กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจดึงดูดลูกค้าที่มีกำลังซื้อตามความสนใจ สร้างส่วนต่างกำไร และเพิ่มเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาวได้”เป็นแนวคิดน่าสนใจของเจ้าของธุรกิจ Start Up คาเฟ่น้ำเต้าหู้รายนี้

ใช้เศรษฐศาสตร์สู้กรณีศึกษาพลิกเกมธุรกิจน้ำเต้าหู้เดลินิวส์ปรียา พลอยระย้า

นอกจากนี้ ในช่วงท้ายบทความ ปรียา ผู้เขียนได้ให้แนวทางเพิ่มเติมว่า การปรับตัวทางการตลาดจากตลาดสดสู่การตลาดออนไลน์เป็นหัวใจสำคัญของผู้ประกอบการในธุรกิจน้ำเต้าหู้ยุคนี้ ซึ่งจำเป็นต้องสร้างสตอรี่หรือคอนเทนต์เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ได้ง่าย เพราะการตลาดยุคใหม่สตอรี่และคอนเทนต์ทุกอย่างล้วนขายได้ เนื่องจากผู้บริโภคสมัยใหม่ไม่ได้สนใจแค่สินค้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องราวเบื้องหลังวัตถุดิบและการผลิตด้วย อย่างกรณีศึกษาของ Sip a Soy คาเฟ่น้ำเต้าหู้ ก็มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของทางร้าน และมีการจัดทำเนื้อหาวิธีการทำในแต่ละเมนู หรือบอกเล่าที่มาของวัตถุดิบ ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำเต้าหู้ จนสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยสนใจน้ำเต้าหู้มาก่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวทางน่าสนใจจาก “ธุรกิจน้ำเต้าหู้” ที่ได้นำเอา “กลยุทธ์เศรษฐศาสตร์” มาปรับใช้ได้อย่างน่าสนใจ และสามารถนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาให้กับเอสเอ็มอีสาขาอื่น ๆ ได้ด้วย.

ใช้เศรษฐศาสตร์สู้กรณีศึกษาพลิกเกมธุรกิจน้ำเต้าหู้เดลินิวส์

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]

ใช้เศรษฐศาสตร์สู้กรณีศึกษาพลิกเกมธุรกิจน้ำเต้าหู้เดลินิวส์