ในขณะที่กำลังการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพโลกในปี 68 จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 ล้านตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 600,000 ตันต่อปี เนื่องจากในช่วงการระบาดของโควิด-19 ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพได้ชะลอการลงทุนโรงงานใหม่ แต่อุปสงค์ในตลาดโลกที่กลับมาเร่งเติบโต ทำให้ผู้ผลิตต่างเริ่มหันกลับมาลงทุนอีกครั้ง

อนาคตพลาสติกชีวภาพไทยสารพัดเสี่ยงหรือโอกาสโตเดลินิวส์

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกชีวภาพไทย ส่งออกเม็ดพลาสติกชีวภาพไทยในปี 68 คาดจะขยายตัว 24% ชะลอตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากต้องเผชิญการแข่งขันกับคู่แข่ง โดยเฉพาะผู้ผลิตจากจีน ขณะที่ตลาดในประเทศ คาดว่า จะขยายตัวจำกัดที่ 2% จากราคาที่ยังคงสูงกว่าเม็ดพลาสติกทั่วไปอยู่ราว 2-3 เท่า ราคาเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ยังคงสูง ทำให้ตลาดเป้าหมายจำกัดอยู่แต่เพียงกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่หันมาใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพมากขึ้น เช่น ช้อน/ส้อม หลอด และจาน ชาม เป็นต้น

อนาคตพลาสติกชีวภาพไทยสารพัดเสี่ยงหรือโอกาสโตเดลินิวส์

ในปี 68 อุปสงค์เม็ดพลาสติกชีวภาพโลกคาดจะขยายตัว 28.6% จากกฎระเบียบสิ่งแวดล้อมโลกที่เข้มงวดขึ้น ผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดเม็ดพลาสติกชีวภาพเพิ่มขึ้นแตะ 0.4% ของปริมาณความต้องการเม็ดพลาสติกทุกประเภทในตลาดโลก ส่งออกเม็ดพลาสติกชีวภาพไทยในปี 2568 คาดจะขยายตัว 24% ชะลอตัวจากปีก่อนหน้า โดยต้องเผชิญการแข่งขันกับคู่แข่ง โดยเฉพาะผู้ผลิตจากจีน ขณะที่ตลาดในประเทศคาดว่าจะขยายตัวจำกัดที่ 2% จากราคาที่ยังคงสูงกว่าเม็ดพลาสติกทั่วไปอยู่ราว 2-3 เท่า

อนาคตพลาสติกชีวภาพไทยสารพัดเสี่ยงหรือโอกาสโตเดลินิวส์

ราคาเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ยังคงสูง ทำให้ตลาดเป้าหมายจำกัดอยู่แต่เพียงกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่หันมาใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพมากขึ้น เช่น ช้อน ส้อม หลอด และจาน ชาม

อนาคตพลาสติกชีวภาพไทยสารพัดเสี่ยงหรือโอกาสโตเดลินิวส์

ความเสี่ยงของอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกชีวภาพไทย โดยต้นทุนวัตถุดิบทางเกษตรของไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยเฉพาะวัตถุดิบอย่างอ้อยที่ไทยมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 1,400 บาทต่อตันอ้อย สูงกว่าคู่แข่งอย่างบราซิลที่อยู่เพียง 1,050 บาทต่อตันอ้อย หรือคิดเป็นกว่า 33% ขณะที่ไทยก็มีกลไกอุดหนุนของภาครัฐที่มุ่งพยุงราคาพืชผลเกษตร ทำให้ราคาวัตถุดิบอาจจะมีแนวโน้มลดลงไม่มากนัก และมีความเสี่ยงที่การลงทุนผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพอาจจะมีการกระจายไปยังประเทศคู่แข่งของไทยในอนาคต

อนาคตพลาสติกชีวภาพไทยสารพัดเสี่ยงหรือโอกาสโตเดลินิวส์

การมาของ พ.ร.บ. Climate Change ที่อาจกดดันให้ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพต้องจัดหาวัตถุดิบทางเกษตรจากแหล่งปลูกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจจะทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการปลูกอ้อยของไทยที่ปัจจุบันมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 305 กิโลกรัมต่อไร่ โดยสาเหตุหลักมาจากการเผาไร่อ้อยหลังการเก็บเกี่ยว

อนาคตพลาสติกชีวภาพไทยสารพัดเสี่ยงหรือโอกาสโตเดลินิวส์

ตลาดในประเทศที่อาจจะยังคงเติบโตจำกัด จากมาตรการงดใช้พลาสติกฟอสซิลที่ยังคงเป็นภาคสมัครใจในฝั่งผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญการแข่งขันกับทางเลือกของพลาสติกรักษ์โลกอย่างพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าเม็ดพลาสติกชีวภาพราว 3-4 เท่า.

อนาคตพลาสติกชีวภาพไทยสารพัดเสี่ยงหรือโอกาสโตเดลินิวส์