ทั้งนี้ ศพที่พบดังกล่าวเจ้าหน้าที่ก็มีการตรวจพิสูจน์ว่าเป็นร่างใคร? และจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่? ซึ่งกรณีดังกล่าวก็ว่ากันไป อย่างไรก็ตาม ว่าด้วยการ “ใช้ศพเพื่อฝึกกรรมฐาน” นั้น หากเป็นในยุคพุทธกาลก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กับยุคใหม่ยุคนี้ก็อาจจะพาให้หลาย ๆ คนขนลุกซู่

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

ทำให้เกิด “ปุจฉา” เกี่ยวกับเรื่องนี้

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

ปุจฉา “ฝึกกรรมฐานด้วยวิธีแบบนี้”

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

นี่ “คืออะไร? มีวัตถุประสงค์เช่นไร?”

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

สำหรับ “วิสัชนา” เรื่อง “กรรมฐาน” หรือ “กัมมัฏฐาน” แบบนี้นี่วันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูลจากบทความวิชาการ โดย พระมานะ พุฒจันทร์ และ วิโรจน์ คุ้มครอง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส ในชื่อหัวข้อ “อสุภกัมมัฏฐานอันเป็นบาทฐานในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา”ที่เผยแพร่ไว้ใน วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 (ม.ค.-มี.ค. 2565)ซึ่งมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

เรื่องกรรมฐานหรือกัมมัฏฐาน โฟกัสกันที่ “อสุภกัมมัฏฐาน” ที่ปรากฏในข่าวกรณีที่ระบุในตอนต้น ในแหล่งข้อมูลดังกล่าวระบุไว้ โดยสังเขปมีดังนี้คือ ในพระสุตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปรากฏข้อความที่แสดงการ “เจริญอสุภะเพื่อละราคะ”ว่าหมายถึง การ“เจริญอสุภกัมมัฏฐานเพื่อข่มกามราคะที่เกิดขึ้นเพราะความประมาท ขาดสติสังวรไม่รู้เท่าทัน”เป็นเบื้องต้น จากนั้นจึงเริ่มบำเพ็ญวิปัสสนาต่อไปจึงสรุปได้ว่า “อสุภกัมมัฏฐาน” นั้นเปรียบได้กับ “บาทฐานของการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา” นี่เป็นคำอธิบายโดยสังเขปเกี่ยวกับ “อสุภกัมมัฏฐาน” ที่ระบุไว้ในคัมภีร์ศาสนาพุทธ

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

ในบทความดังกล่าวยังอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายไว้อีกว่า ในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท “อสุภกัมมัฏฐาน”หมายถึง “กัมมัฏฐานที่ยึดเอาซากศพที่ไม่สวยงามเป็นอารมณ์ เพื่อพิจารณาให้เห็นความไม่สวย ไม่งาม ความเป็นของน่าเกลียด และความไม่เที่ยงแท้ของสังขาร” ซึ่งเป็นธรรมดาของร่างกายคนเรา ที่เมื่อตายแล้วย่อมกลายเป็นของที่ไม่สวยไม่งาม นอกจากนั้น ในคัมภีร์ดังกล่าวยังระบุถึงการศึกษา “อสุภกัมมัฏฐาน” ไว้ว่า แบ่งออกได้ 10 ประการ ดังนี้

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

1.อุทธุมาตกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาศพหลังตายวันแรก, 2.วินีลกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพที่มีสีแดงในที่ที่เนื้อหนามีสีขาวในที่ที่บ่มหนอง, 3.วิปุพพกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพที่มีน้ำเหลืองไหลอยู่เป็นปกติ หรือพิจารณาซากศพหลังตายวันที่สาม, 4.วิจฉิททกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพที่ขาดในท่ามกลาง (พิจารณาศพหลังตายวันที่สี่, 5.วิกขายิตกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพที่ถูกสัตว์ยื้อแย่งกัดกิน (พิจารณาศพหลังตายวันที่ห้า)

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

6.วิกขิตตกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพที่กระจุยกระจายไปที่นั้น ๆ หรือศพที่มือไปทาง เท้าไปทาง ศีรษะไปทาง (ซากศพหลังตายวันที่หก), 7.หตวิกขิตตกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพที่สับฟันอวัยวะเป็นท่อนน้อยใหญ่แล้วเหวี่ยงทิ้งกระจายไป, 8.โลหิตกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพอันเปื้อนโลหิตที่ไหลออก (พิจารณาศพหลังตายวันที่แปด), 9.ปุฬุวกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพที่เต็มไปด้วยหนอนและส่งกลิ่นมาก (พิจารณาศพหลังตายวันที่เก้า) และ 10.อัฏฐิกอสุภกัมมัฏฐาน การพิจารณาซากศพมีแต่กระดูกที่ไม่มีหน้าตาเหลืออยู่ (พิจารณาศพหลังตายวันที่สิบ)

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

นี่เป็น“อสุภกัมมัฏฐาน 10 ประการ”

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

ที่ระบุ“ในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท”

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

แล้วทำ “อสุภกัมมัฏฐาน” สำคัญอย่างไร? ก็มีรายงานวิทยานิพนธ์โดย พระนัฐวุฒิ สิริจนฺโท (ศรีจันทร์) บัณฑิตหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2555 คือ “การศึกษาการพิจารณาอสุภกัมมัฏฐานเพื่อการแก้ปัญหากามราคะในพระพุทธศาสนาเถรวาท” อธิบายไว้ว่า “อสุภกัมมัฏฐานเป็นเครื่องกำจัดราคะ” เพื่อให้เบื่อหน่ายคลายรักคลายยึดถือร่างกาย และคลายความหลงรูปหลงสวยหลงงามลงได้

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

นอกจากนั้น หัวข้อธรรมบางหัวข้อก็ได้มีการพูดถึง “ประโยชน์อสุภกัมมัฏฐาน” ไว้ว่า นอกจากช่วยลดกามราคะ ลดความกำหนัดแล้ว ยัง “ช่วยสร้างความเจริญแห่งธรรมบางข้อ” นี่เป็นความสำคัญ “อสุภกัมมัฏฐาน” และในรายงานดังกล่าวข้างต้นก็ยังระบุไว้อีกว่า อสุภกัมมัฏฐานเป็น 1 ในกัมมัฏฐาน 40 ที่เป็นหลักปฏิบัติให้เห็นร่างกายคนเราตามความเป็นจริงให้ครบทั้ง 2 ด้าน คือด้านสวยงาม และด้านที่ไม่สวยงาม เพื่อให้เกิดปัญญา และมองร่างกายเป็นแค่ธาตุ 4 ขันธ์ 5 ที่รวมตัวกัน เพื่อให้คนเราเกิดปัญญาและเห็นสัจธรรมจริง ส่งผลให้ทุกการกระทำมีการใช้ปัญญานำ

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

“การศึกษาพระกัมมัฏฐาน ไม่ว่าจะเป็นกองไหน ถ้าศึกษาแบบถูกต้องก็เป็นของไม่ยาก เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ยาก แต่สอนแบบง่าย ๆ แต่ที่ทำกันไม่ได้นั้นเพราะไม่ได้สนใจจริง ๆ” นี่ก็เป็นอีกส่วนจากข้อมูลคำอธิบายในภาพรวมเกี่ยวกับ “กัมมัฏฐาน”หรือ “กรรมฐาน” ที่ระบุไว้ในแหล่งข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ทั้งนั้น

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

“อสุภกัมมัฏฐาน” ก็ “มีในคัมภีร์พุทธ”

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

นี่ดูกัน “ในทางวิชาการพุทธศาสตร์”

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

ส่วน “ที่อื้ออึงยุคนี้ ก็ไม่รู้สินะ??”.

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์

มีแบบในคัมภีร์อสุภกัมมัฏฐานฝึกจิตพิจารณาศพเดลินิวส์