【mbk1688】IRMA - A DESIGN STORY อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดก ‘ความคูล’ ให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

HIGHLIGHTS4 min read นิทรรศการ IRMA A DESIGN STORY ได้ฉายภาพ IRMA ในฐานะองค์กรธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบอย่างลึกซึ้ง เห็นได้จากการดีไซน์สิ่งเล็กๆ อย่างผ้าเช็ดจาน เรื่อยไปจนถึงสิ่งของใหญ่ๆ อย่างป้ายไฟรูปไก่ออกไข่ที่สุกสว่างยามค่ำคืนสิ่งของที่จัดแสดงในนิทรรศการ IRMA A DESIGN STORY ไม่เพียงแต่หยิบยืมมาจากบริษัทผู้ถือหุ้นและนักสะสมส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังมาจากคอลเล็กชันของ IRMA ในพิพิธภัณฑ์เอง การได้เดินชมนิทรรศการนี้อย่างช้าๆ เปรียบเสมือนการเปิดหีบสมบัติของงานออกแบบที่บรรจุความทรงจำ อารมณ์ และเรื่องราวของผู้คนในเมืองไว้อย่างอัดแน่นIRMA A DESIGN STORY จัดแสดงถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2024 เท่านั้น

ก้าวสู่จักรวาลสีน้ำเงินของ IRMA (อีร์มา) ในนิทรรศการ IRMA A DESIGN STORY นิทรรศการกลางกรุงโคเปนเฮเกน ที่ชวนพวกเราออกสำรวจเรื่องราวการออกแบบอันทรงพลังของแบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติเดนมาร์กที่เพิ่งปิดฉากประวัติศาสตร์ 137 ปีไปเมื่อกลางปี 2024

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกนร้านชำที่นำศิลปะมาสู่ชีวิตของผู้คน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ยากที่จะปฏิเสธว่า IRMA ในฐานะแบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เก่าแก่ที่สุดของเดนมาร์ก ได้ทำหน้าที่เติมเต็มชีวิตประจำวันของผู้คนด้วย ‘ศิลปะ’ ที่มีความหมายมาอย่างยาวนาน พวกเขาส่งผ่าน ‘รสนิยม’ และ ‘วัฒนธรรม’ ที่มีคุณค่าไปสู่มวลชน ผ่านข้าวของที่ขาย บรรจุภัณฑ์ การตกแต่งร้าน และการสื่อสารแบรนด์ที่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

แม้ว่าวันนี้ IRMA สาขาสุดท้ายจะปิดตัวลงอย่างถาวรไปแล้ว ท่ามกลางความใจหายของชาวเมือง แต่นิทรรศการรำลึกความหลังที่พิพิธภัณฑ์ Design Museum Denmark จัดแสดงอยู่ ก็ทำให้เราสัมผัสได้ว่าแบรนด์เก่าแก่คู่เมืองโคเปนเฮเกนนี้จะยังคงสร้างรอยยิ้ม และดำรงอยู่ในความทรงจำของผู้คนไปอีกนานแสนนาน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกนเด็กหญิงกระโปรงน้ำเงิน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

สำหรับผู้ที่เคยไปเยี่ยมเยือนโคเปนเฮเกนในอดีต คุณอาจเคยผ่านตากับหีบห่อลายตารางสีฟ้าสุดเท่ของกาแฟ IRMA (IRMA Kaffe) พร้อมโลโก้รูปเด็กหญิงในชุดสีน้ำเงิน (IRMA Girl) ที่ถือเป็นหนึ่งไอคอนทางวัฒนธรรมและภาพจำของเครือซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

IRMA - A DESIGN STORY

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

ย้อนกลับไป 137 ปีก่อน ในซอกหลืบเล็กๆ แห่งหนึ่งของย่าน Nørrebro ทางตอนเหนือของกรุงโคเปนเฮเกน ร้านชำเล็กๆ ที่ขายไข่และนมของ Karen Marie Schepler ได้ถือกำเนิดขึ้นบนปรัชญาที่จะให้ความสำคัญกับ ‘ลูกค้า’ เป็นหัวใจหลัก นับจากนั้นมาธุรกิจของเธอก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น และขยายสาขาไปพร้อมกับจังหวะการเปลี่ยนแปลงของสังคมเมือง จนกระทั่งในปี 1943 จึงได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น IRMA พร้อมกับกลุ่มเจ้าของใหม่และโลโก้ใหม่ในรูป ‘เด็กหญิงกระโปรงน้ำเงิน’

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

เสน่ห์ของ IRMA ไม่เพียงอยู่ที่การขายสินค้าคุณภาพดีเลิศเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยเอกลักษณ์แห่งรสนิยมที่แทรกซึมสู่ชีวิตประจำวันของชาวเมืองอย่างแนบเนียน เห็นได้จากลวดลายศิลปะบนกระป๋องที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

IRMA - A DESIGN STORY

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

ถุงช้อปปิ้งที่เปรียบเสมือนแกลเลอรีเคลื่อนที่ ของเล่นเด็กที่เสริมสร้างจินตนาการ ไปจนถึงลายตารางสีฟ้าอันเป็นภาพจำอมตะของ IRMA สิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้ถูกร้อยเรียงผ่านกาลเวลาจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์เมืองโคเปนเฮเกนอย่างกลมกลืนแยกไม่ออก

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกนจากงานออกแบบสู่อัตลักษณ์วัฒนธรรม

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

สำหรับเรา นิทรรศการ IRMA A DESIGN STORY ได้ฉายภาพ IRMA ในฐานะองค์กรธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบอย่างลึกซึ้ง เห็นได้จากการดีไซน์สิ่งเล็กๆ อย่างผ้าเช็ดจาน เรื่อยไปจนถึงสิ่งของใหญ่ๆ อย่างป้ายไฟรูปไก่ออกไข่ที่สุกสว่างยามค่ำคืน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

หลายทศวรรษที่ผ่านมา IRMA ได้รังสรรค์งานออกแบบที่กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโคเปนเฮเกนหลายชิ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นแบรนด์ ‘ผู้บุกเบิก’ ในการเชิญเหล่าศิลปินมาร่วมออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ (ถุงและกระป๋อง) ซึ่งไอเดียนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างสีสันในชีวิตประจำวันของลูกค้า แต่ยังทำให้ของหลายชิ้นกลายเป็นวัตถุสะสมที่มีมูลค่าเพิ่มในเวลาต่อมาด้วย (IRMA Tote Bag กลายเป็น Collectibles ที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น)

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

IRMA - A DESIGN STORY

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

นิทรรศการ IRMA A DESIGN STORYนับเป็นครั้งแรกที่เรื่องราวของ IRMA ได้ก้าวเข้าสู่พื้นที่การเล่าเรื่องของพิพิธภัณฑ์ และเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวการออกแบบอันสนุกสนาน และได้มองเห็นพัฒนาการของโลโก้ IRMA Girl อันโด่งดังตลอดหลายทศวรรษ

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

การย้อนดูเรื่องราวของ IRMA จึงถือเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์การออกแบบไปด้วยในตัว เพราะเครือซูเปอร์มาร์เก็ตนี้ได้ใช้ศิลปะและการออกแบบในการก้าวเดินไปกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ในวิถีบริโภค และทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนเต็มไปด้วยสีสันและความหมาย

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกนคลังสมบัติงานออกแบบ

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

สิ่งของที่จัดแสดงในนิทรรศการ IRMA A DESIGN STORYไม่เพียงแต่หยิบยืมมาจากบริษัทผู้ถือหุ้นและนักสะสมส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังมาจากคอลเล็กชันของ IRMA ในพิพิธภัณฑ์เอง การได้เดินชมนิทรรศการนี้อย่างช้าๆ เปรียบเสมือนการเปิดหีบสมบัติของงานออกแบบที่บรรจุความทรงจำ อารมณ์ และเรื่องราวของผู้คนในเมืองไว้อย่างอัดแน่น ชวนให้เราดำดิ่งสู่ห้วงเวลาแห่งอดีต พลางตระหนักถึงอิทธิพลของการออกแบบที่แทรกซึมอยู่ในทุกแง่มุมของชีวิตเมือง

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

IRMA - A DESIGN STORY

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

ต้องขอบคุณ Design Museum Denmark ที่รวบรวมเอาองค์ประกอบกราฟิกอันเป็นที่รักของ IRMA มาพลิกแพลงเล่าเรื่องใหม่ได้อย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป้าย IRMA Girl ขนาดมหึมาตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตคู่กับเมือง ของเล่นวินเทจหลายชิ้นที่ชวนให้นึกถึงเสียงหัวเราะของเด็กๆ กางเกงในกระดาษใช้แล้วทิ้งจากยุค 60s สะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมและความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงของผู้คน สติกเกอร์รูปหัวใจสีแดงที่เคยแจกจ่าย ณ เคาน์เตอร์ชำระเงิน ยังคงส่งต่อความอบอุ่นและรอยยิ้มได้เสมือนวันวาน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมออกแบบ และมีแผนเดินทางไปเยี่ยมเยือนโคเปนเฮเกนในช่วงฤดูร้อนนี้ แนะนำว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง IRMA A DESIGN STORYจัดแสดงถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2024 เท่านั้น

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

Design Museum Denmark

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

 

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกน

ภาพ: Courtesy of Design Museum Denmark, Wikimedia Commons, Visit Copenhagen

อดีตร้านชำที่ทิ้งมรดกความคูลให้ชาวเมืองโคเปนเฮเกนFYIIRMA คือแบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับบนของเดนมาร์ก เคยมีสาขากว่าร้อยแห่งเฉพาะในกรุงโคเปนเฮเกนและเขตโดยรอบ มีชื่อเสียงจากการจำหน่ายสินค้าคุณภาพพรีเมียมและสินค้าออร์แกนิก การประกาศปิดกิจการของแบรนด์สร้างความเสียใจให้แก่ผู้บริโภคจำนวนมาก โดยหลังข่าวปิดกิจการเผยแพร่ออกไปก็มีลูกค้าจำนวนมากเข้ามาซื้อสินค้ากลุ่ม Non-Food ที่มีโลโก้แบรนด์เป็นที่ระลึก จนสินค้าหลายประเภทจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว อาทิ พวงกุญแจ ร่ม ของตกแต่งคริสต์มาส ผ้ากันเปื้อน ถุงผ้า ฯลฯTAGS: ประวัติศาสตร์