นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่ายินดีไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ “วิว วรรณรท” นางเอกสาวชื่อดัง กับหนุ่ม “แม็ค วีรคณิศร์” ที่ตั้งแต่เปิดตัวคบกันมา ทั้งคู่ก็เสิร์ฟโมเมนต์หวานคลั่งรักกันจนหลายๆ คนพากันฟินลุ้นและเชียร์ไปกับความรักของทั้งคู่ หลังจากที่ทั้งคู่คบกันมาประมาณ 10 เดือน หนุ่มแม็คไม่ปล่อยให้สาววิวรอนาน จัดเซอร์ไพร้ส์สุดโรแมนติก คุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงาน ณ ทะเลสาบโมเรน ประเทศแคนาดา ท่ามกลางบรรยายสุดอบอุ่น บรรดาคนบันเทิงและแฟนคลับการแห่แสดงความยินดีกันทั่วหน้า

แม็คเผยอนาคตทำเพื่อวิวย้ำเวลาไม่ได้เป็นตัววัดเดลินิวส์

ล่าสุด สาววิวและหนุ่มแม็ค ได้มาร่วมงาน Dermatige X Quantum Be The best With the best อีกทั้งยังได้เปิดใจกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับความรู้สึกที่สาววิวโดนหนุ่มแม็คขอแต่งงาน พร้อมทั้งหนุ่มแม็คยังเล่าโมเมนต์การวางแผนเซอรไพร้ส์แฟน และสาววิวได้อวดแหวนหมั้นให้กับพี่ๆ สื่อได้ชมอีกด้วย

แม็คเผยอนาคตทำเพื่อวิวย้ำเวลาไม่ได้เป็นตัววัดเดลินิวส์

โดยแม็คเผยว่า “โมเมนต์ที่คุกเข่าขอวิวแต่งงาน คือวันนั้นวิวสวยมาก คือวางแผนไว้สองสามเดือนก็ต้องสวยเถอะ (หัวเราะ) ก็จริงๆ ได้มีการเข้าไปคุยกับครอบครัวของวิว เพื่อเป็นการให้เกียรติพ่อแม่ ก็คือคุยกับพ่อแม่ก่อนเลย ที่จริงมันได้มีการวางแผน แล้วคือมันมีความพอดีที่ตอนนั้นเรากินข้าวกัน ก็มีคุณพ่อคุณแม่ของวิว วิว และแม็ค ตอนนั้นคือวิวเดินไปเข้าห้องน้ำพอดี และห้วงเวลาที่วิวไปเข้าห้องน้ำประมาณ 3-4 นาที แม็คก็คือเปิดประเด็นกับพ่อแม่เลยว่า คุณพ่อคุณแม่ครับ แม็ครู้นะครับว่าวิวคือดวงใจของคุณแม่คุณพ่อ แม็คอยากแสดงความจริงใจ แม็คจะขออนุญาตขอวิวแต่งงานนะครับ คุณพ่อกับคุณแม่ก็นั่งนิ่งอึ้งไปเลย แล้วก็คุยกันต่อว่าไทม์นิ่งจะเป็นเมื่อไหร่อะไรยังไง แล้วคือปกติวิวจะเป็นคนที่เข้าห้องน้ำนานมาก แต่ว่ารอบนี้คือมาเร็ว เราก็เลยคุยกับคุณพ่อคุณแม่แบบรวบรัดมาก เราเลยคาใจ เพราะยังคุยกับคุณแม่ไม่เสร็จ เลยทำให้ผลัดเวลาไปไกล เราก็เลยต้องคุยไลน์กับแม่ต่อ ก็มาระบายความรู้สึกว่าเรานั้นรู้สึกยังไง พอมาถึงวันที่เราขอแต่งงาน คือผมก็จะหันมามองกับทางตากล้องฝรั่ง คนที่คุยไว้ตั้งนานแล้วว่า จะมาขอแฟนแต่งงานที่นี่นะ พี่เขาก็แบบส่งซิกหันมาบอกเราว่าเอาเลย ขอเลย แต่เราก็คิดว่าแบบฟิลมันยังไม่ได้ มันยังไม่ใช่ ไม่อยากรีบต้องรอโมเมนต์อะไรประมาณนี้ พอกำลังจะพูด มันก็เป็นจังหวะที่กำลังลงคุกเข่า วิวก็เหลือบมองมาพอดี เราก็ต้องลุกขึ้นมาอีก เพราะจังหวะมันไม่ได้ ซึ่งตอนแรกมันเหมือนเป็นโมเมนต์ที่ผมไม่เคยทำ เราก็คิดว่าต้องซ้อมคุกเข่าบ้างหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็อย่าซ้อมเลย มันตลก ถ้าเกิดคนเราต้องมาซ้อมจังหวะที่เราลงคุกเข่า สิ่งที่เราตั้งใจอยากจะพูด ทีแรกมันลืมไปหมดเลย เรามองหน้าเขา มองหน้ากัน น้ำตามันก็ซึมขึ้นมาเอง คือมันเหมือนสื่อสารกันรู้เรื่อง ว่ามันถึงเวลาของเราแล้วนะ ในที่สุดก็เป็นเวลาของเรา คือก่อนหน้านี้เราไม่มีซ้อมขอแต่งงานเลย คือเราไม่อยากให้มันตั้งใจ อยากให้มันเป็นธรรมชาติ

แม็คเผยอนาคตทำเพื่อวิวย้ำเวลาไม่ได้เป็นตัววัดเดลินิวส์

ถามว่าอะไรที่ทำให้เราเลือกกันและกัน คือมันมีอยู่โมเมนต์หนึ่งที่เราเคยอยู่ด้วยกัน นั่งกินข้าวที่ร้านอาหาร แล้วตอนนั้นผมรู้สึกสบายใจมาก อุ่นใจที่ได้อยู่กับเขา ก็หันไปบอกเขาว่า ถ้าผ่านสองปีไป เรามาเริ่มคุยเรื่องแต่งงานกันนะ แต่หลายคนอาจจะคิดว่ามันเร็วไป หรือช้าไป หรืออะไรก็แล้วแต่ สำหรับผม ระยะเวลาไม่ได้เป็นตัววัด ความเร็วหรือช้า ผมว่ามันเป็นความพร้อมในจิตใจมากกว่า เมื่อเรารู้สึกพร้อมแล้ว แล้วมีวันหนึ่งผมหันไปบอกพ่อว่า ทริปแคนาดานี้ ผมจะขอวิวแต่งงานนะ อันนี้แหละคือความน่ารักของพ่อแม่ผม คือผมโชคดีมาก แล้วคุณพ่อก็คือตื่นเต้นมาก ท่านไปเปิดยูทูปดูเลย แล้วคุณพ่อก็เป็นคนถ่ายรูปให้ด้วย คือพ่อแม่ผมเป็นหนึ่งในตากล้อง ถ่ายโปรมาก พวกเขาก็ไปไล่เสิร์ซดูสถานที่เลยว่า จุดตรงไหนดี และก็มาจบที่ทะเลสาบโมเรน ประเทศแคนาดา ซึ่ง ณ ตอนนี้สิ้นสุดทางแฟนแล้ว ส่วนแพลนหลังจากนี้ เราก็จะอยู่เป็นคู่หมั้นอย่างนี้ก่อน แล้วก็ในเรื่องของอนาคต ก็คือเป้าหมายมันชัดเจนมากขึ้นแล้ว ก็คือเหมือนเดิมผมไม่อยากให้เขารอนานครับ คือว่าผมว่ามันมีแพลนกันทั้งคู่ อย่างวิวเขาก็มีแพลนเรื่องงาน ส่วนผมก็มีแพลนทางธุรกิจที่จะขยายด้วย ก็เลยขอให้ทุกอย่างมันโอเคลงตัวก่อน และทุกอย่างมันก็รู้แล้วว่าทุกวันนี้เราทำเพื่อใคร เพราะฉะนั้นแล้วอย่างไรก็ตามก็โฟกัสเพื่อเขาแน่นอน ถามว่าจะมีเวลาไหนทำลูก ยังครับ (ยิ้ม) ทุกอย่างมันวางเป็นสเต็ปแล้ว ผมว่าวิวมีมุมมองที่ เขาอยากใช้ชีวิตเพราะเขาทำงานเหนื่อยมาเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่า เราอยู่ด้วยกันแล้วจริงๆ ก็คือ อยากให้เขามีโอกาสแบบว่าได้ใช้ ชีวิตอย่างที่เขาต้องการก่อน แล้วก็มีธุรกิจที่แม็คตั้งใจจะเปิด แล้วให้เราทำด้วยกันด้วย เพราะฉะนั้นเราก็ดูแลกันตรงนี้ก่อน ส่วนฤกษ์แต่งงานก็ยังครับ เดี๋ยวได้รู้เดี๋ยวบอกกันอีกที แล้วแม็คก็ขอบคุณทุกคน และก็ดีใจที่ได้เห็นคอมเมนต์พลังบวกมาตลอด แล้วก็ขอบคุณพี่ๆ ผู้สื่อข่าวด้วย เพราะส่วนใหญ่เราได้อ่านข่าวแล้วเราชื่นใจนะ ที่พี่ๆ เขานำเสนอข่าวให้ ผมว่าเราไม่รู้ว่าเราทำได้ดีมากแค่ไหน แต่ว่าสุดท้ายแล้วผมว่า สังคมเราได้พลังบวกที่ดีกันบ้างก็ขอบคุณมากๆ เลย แล้วก็ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของวิว ที่อุตส่าห์เปิดใจ มีโอกาสให้วิวได้เรียนรู้และได้รู้จักกับแม็ค ส่วนเรื่องแหวน แม็คต้องขอบคุณผู้จัดการของวิว ซึ่งเขาเป็นคนน่ารักมากเค้าเชี่ยวชาญทางด้านจิวเวลรี่ และผมก็ไม่รู้จะปรึกษาใครเลย ก็เลยปรึกษาผู้จัดการของวิวนี่แหละ จนสุดท้ายก็ได้เป็นวงนี้มา ถ้าถามว่ารู้เรื่องขนาดไซด์แหวนได้อย่างไร คือผมหลอกถามครับ คุยกับวิวว่าเรื่องแหวนผู้หญิงนี่มันไซด์ประมาณไหน ไซซ์ผู้หญิงเขาใส่กันยังไงบ้างนะ วิวเขาก็เป็นคนบอกเราเองครับ”

แม็คเผยอนาคตทำเพื่อวิวย้ำเวลาไม่ได้เป็นตัววัดเดลินิวส์

วิวเผยต่อว่า “ในพาร์ตของวิววันที่พี่แม็คเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงาน คือหนูไม่รู้และไม่ตงิดใจอะไรเลยค่ะ เพราะว่าจริงๆ คุยกันไว้ว่า อีกปีสองปีในเรื่องของแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้นึกถึงโมเมนต์ว่า ต้องมีการขอตอนไหน ซึ่งหนูก็ไม่ได้คิดเลย ส่วนชุดที่ใส่ในตอนนั้นคือจริงๆ เราจะทำคอนเทนต์เพื่อลงติ๊กต็อก ยูทูบ ก็เลยนัดใส่ชุดคู่กัน แล้วก็จะมีการถ่ายกล้องตลอดเวลา ซึ่งการถ่ายคลิป มีติดไมค์มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เราก็เลยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ถามว่าในวินาทีนั้นเราคิดว่ามันมีอะไรแปลกๆ ไหม ไม่มีนะคะ หนูแค่รู้สึกว่าก็แค่มีการถ่ายรูปเยอะมาก แต่เราเริ่มรู้สึกว่ามันหนาวมาก แล้วมันก็คือการถ่ายคลิปมาสักระยะหนึ่งแล้ว หนูก็เลยหันไปบอกว่าจะกลับบ้าน ซึ่งแวบแรกที่เขาขอแต่งงาน เราก็อึ้งและก็ตกใจ คือหันไปแล้วเขานั่งคุกเข่าอยู่ ในโมเมนต์ตอนนั้น คือเราเป็นอย่างในคลิปเลย เราคิดตอนแรกว่า พี่แม็คนั่งทำอะไร แล้วคือหินมันไต่ยากเราก็คิดว่าล้มหรอ แต่พอเห็นแหวนเท่านั้นแหละ เราก็เลยห้ะ ใส่เขาไปอีกทีหนึ่ง คือมันเหมือนคอมเมดี้เลยค่ะ แต่ในความรู้สึก ณ ตรงนั้น คือมันเงียบจริงๆ แล้วคือเราก็ถ่ายละครมาเยอะนะ แต่พอมาเจอเป็นโมเมนต์ของตัวเองจริงๆ มันก็ไม่เหมือนในละครเลย คือมันพูดไม่ออก หนูก็เลยตอบกลับไปว่า อืมๆ

แม็คเผยอนาคตทำเพื่อวิวย้ำเวลาไม่ได้เป็นตัววัดเดลินิวส์

ถามว่าอะไรที่ทำให้เราเลือกกันและกัน ส่วนตัวหนู คือหนูก็อายุไม่น้อยแล้วและในความรู้สึกมันเป็นความสบายใจ เรารู้สึกแค่ว่า ช้าเร็วยังไงเรา มันก็ต้องเรียนรู้กันทุกวันอยู่แล้ว มันไม่มีคำว่าถึงเท่านี้แล้วมันจะต้องจบการเรียนรู้ หรือว่าไม่ปรับความเข้าใจอะไรกัน วิวรู้สึกว่าชีวิตคู่ มันก็ต้องปรับความเข้าใจกันไปเรื่อยๆ และสำหรับพี่แม็ค ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ต้องปรับจูนเยอะ ค่อนข้างรับฟังและใจเย็น แล้วก็รู้สึกว่าเราดำเนินพื้นฐาน ไปด้วยความรัก เราอยากเข้าใจกัน และเขาก็เป็นคนที่ใส่ใจมากๆ ก็เลยไม่มีอะไรที่จะต้องรออะไรอีกแล้ว วิวก็อยากจะขอบคุณทุกคนมากๆ ที่คอยให้กำลังใจ มาตั้งแต่แรกเลย ตั้งแต่วันที่เราสองคนคบกัน ก็มีความคิดเห็นมีคอมเมนต์ต่างๆ ที่เป็นพลังบวกมากๆ มีความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยที่มีให้กับวิวและแม็คมาโดยตลอด สุดท้ายทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องขอบคุณพี่แม็คที่ให้เกียรติ และใส่ใจกันมากๆ มาโดยตลอด เพราะเขาทำได้ทุกคำพูดที่เขาพูดไว้ ส่วนเรื่องของไซซ์แหวนหนูก็คือบอกไปเลย เผื่อวันหนึ่งก็ต้องมีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ก็คือเหมือนแผนซ้อนแผน เราก็บอกไปตรงๆ เลยว่าเราไซซ์นี้นะ สรุปก็คือหลวมอยู่ดี (หัวเราะ) เพราะว่าแหวนที่เราวัดมันเป็นไซซ์ของนิ้วอื่น แต่ถือว่าทุกอย่างมันเป็นความตั้งใจดี ถามว่างานแต่งจะเป็นอีกวงหนึ่งไหม อันนี้ต้องรอดูค่ะ”

แม็คเผยอนาคตทำเพื่อวิวย้ำเวลาไม่ได้เป็นตัววัดเดลินิวส์