【sggame】เช็ก 1 ปี ‘ESG Symposium’ ‘เอสซีจี’ เร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำ ดันต่อ 5 เป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาส | เดลินิวส์
‘การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมคาร์บอนต่ำ’ กำลังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น เหตุการณ์สุดขั้วทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และความตระหนักของประชาชนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความพยายามในการแก้ไขวิกฤตดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น ความตกลงปารีส ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศฉบับแรกที่มีเป้าหมายในการควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และพยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส,
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์ความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังร่วมมือกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือต่างๆ อาทิ COP (Conference of the Parties) และการลงนามในข้อตกลงระหว่างประเทศ, การลงทุนในพลังงานสะอาด มีการลงทุนจำนวนมากในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด อาทิพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานจากชีวมวล ทำให้ต้นทุนของพลังงานสะอาดลดลงอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมใหม่ๆ ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์เช่นเดียวกันกับสถานการณ์ในประเทศไทย ที่กำลังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ได้มีการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว เช่น แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ที่มีการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า, มาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า มีการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า, โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม มีการสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านมาตรการต่างๆ ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร่วมมือกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น จะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมมือกัน
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์ดังที่ ‘เอสซีจี’ (SCG) หรือ ‘บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด’ ผนึกกำลังทุกภาคส่วน จัดเวทีขับเคลื่อนความยั่งยืนระดับสากล อย่าง ‘ESG Symposium’ เพื่อร่วมกันเร่งเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ภายใต้แนวคิด ‘ยิ่งเร่งเปลี่ยน ยิ่งเพิ่มโอกาส’ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของประเด็นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่มีต่อธุรกิจและสังคมในปัจจุบัน
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์ต่อเนื่องมาจนครบ 1 ปี ความร่วมมือดังกล่าวเกิดความคืบหน้าชัด ทุกฝ่ายขานรับ ปรับวิธีคิด ‘ทำงานแบบบูรณาการ’ ยึดเป้าหมายเดียวกัน สื่อสารตรงไปตรงมา และลุยหน้างานจริง ช่วยปลดล็อค เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอ จากงาน ESG Symposium 2023 ตั้งแต่ 1. การสร้าง ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ เมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทยให้เกิดขึ้นได้จริง 2. ส่งเสริมการก่อสร้างสีเขียวด้วยปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ 3. เอกชนจับมือจัดการแพคเกจจิ้งใช้แล้วผ่านโครงการรีไซเคิลแบบ Closed-Loop และ 4. สนับสนุน SMEs เพิ่มโอกาสเข้าถึงความรู้เปลี่ยนธุรกิจสู่คาร์บอนต่ำ ผ่านโครงการ Go Together โดยปีนี้ ทุกภาคส่วนกว่า 3,500 คน รวมพลังเร่งเปลี่ยนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำต่อเนื่องกันอีกครั้งกับ ‘ESG Symposium 2024’ ที่กำลังจะจัดขึ้น ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์‘ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา การเร่งเปลี่ยนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เริ่มต้นจากการระดมสมองผู้เกี่ยวข้องกว่า 500 คน ในงาน ESG Symposium 2023 ออกมาเป็นข้อเสนอ 4 แนวทางในการกู้วิกฤติโลกเดือด ซึ่งมีความคืบหน้าที่สำคัญ อาทิ ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศให้เป็นปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ส่งเสริมเกษตรกรมีอาชีพ-รายได้เพิ่มด้วยการปลูกหญ้าเนเปียร์ เพื่อแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน สนับสนุนการทำนาเปียกสลับแห้ง ลดใช้น้ำ ใช้ปุ๋ย และลดคาร์บอน ผลักดันการจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ผ่านการขยายผล ‘ตาลเดี่ยวโมเดล’ รวมถึงขับเคลื่อนโครงการธนาคารขยะ ถังขยะเปียกลดโลกร้อน เสริมแกร่งเครือข่ายป่าชุมชน 38 แห่ง แลกเปลี่ยนความรู้ สร้างเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตชุมชน ต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ติดตั้งSolar Carport ที่ศูนย์ราชการ จ.สระบุรี ซึ่งจะขยายผลสู่หน่วยงานอื่นต่อไป
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมความรู้ให้แก่ SMEs ในการเปลี่ยนธุรกิจสู่คาร์บอนต่ำ ผ่านโครงการ Go Together โดยรุ่นแรกมีผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน จากทั้งหมด 20 รุ่นทั่วประเทศ ตามแผนปี 2567-2568 ตั้งเป้าส่งต่อความรู้สู้โลกเดือดให้ SMEs 1,200 คน ขณะที่ โครงการเครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลก ซึ่งเป็นการจับมือระหว่างโฮมโปรและเอสซีจีซี เป็นตัวอย่างการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่ามารีไซเคิลแบบ Closed-Loop อย่างไรก็ตาม สำหรับบางโครงการแม้ยังมีข้อติดขัด ทว่าก็มุ่งมั่นเดินหน้าต่อให้บรรลุเป้าหมาย อาทิ โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Grid Modernization) รองรับการเปิดเสรี ซื้อ-ขายไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไปจนถึงการสนับสนุน SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน (Green Finance) ทั้งภายในและนอกประเทศ เพื่อเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์“ความคืบหน้าที่เกิดขึ้นได้นั้น มาจากการปรับวิธีคิด เน้นทำงานแบบบูรณาการ (Open Collaboration) มี 3 หัวใจหลัก 1. เป้าหมายร่วมกัน (Same Goal) คือเปลี่ยนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำตาม NDC Roadmap (แผนที่นำทางการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ) 2. แบ่งปันสื่อสาร (Open Communication) พูดคุยอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา เพื่อปลดล็อคข้อจำกัดต่างๆ ที่พบระหว่างการทำงาน และ 3. ลงหน้างานจริง (Hands-on) ให้เข้าใจสถานการณ์ ข้อจำกัด และความต้องการของอีกฝ่าย แล้วนำมาปรับวิธีทำงานให้ตอบโจทย์เป้าหมายร่วมกันได้ดีที่สุด ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น หลังจากนี้ทุกภาคส่วนยังคงเดินหน้าเร่งขับเคลื่อนทุกโครงการ เพื่อให้สังคมคาร์บอนต่ำเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย” ธรรมศักดิ์ กล่าวต่อ
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์สำหรับงาน ESG Symposium 2024 ภายใต้ธีม ‘Driving Inclusive Green Transition ยิ่งเร่งเปลี่ยน ยิ่งเพิ่มโอกาส’ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยการนำข้อเสนอจากการหารือระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วย 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1. Saraburi Sandbox โมเดลต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย, 2. Circular Economy การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนให้คุ้มค่าสูงสุด, 3. Just Transition การสนับสนุนทรัพยากรแก่ภาคส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ในกระบวนการเปลี่ยนผ่าน, 4. Technology for Decarbonization การพัฒนาเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ 5. Sustainable Packaging Value Chain การจัดการแพคเกจจิ้งทั้งระบบอย่างยั่งยืน มานำเสนอต่อรัฐบาล เพื่อร่วม-เร่ง-เปลี่ยนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์“การเปลี่ยนสู่สังคมคาร์บอนต่ำไม่เพียงช่วยบรรเทาความรุนแรงของวิกฤตโลกเดือด แต่ยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจและประเทศ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจขาลง ตลาดแข่งขันสูงจากสินค้านำเข้าจากจีน การบังคับใช้มาตรการ CBAM ที่จะกระทบต่อภาคการผลิต นำเข้า และส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอน เราจึงต้องเร่งเปลี่ยนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ควบคู่ไปกับการสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยวิธีการอื่นๆ ด้วยความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน” ธรรมศักดิ์ กล่าวสรุป
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์ด้าน ‘บัญชา เชาวรินทร์’ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า การเปลี่ยนจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมของประเทศให้เป็นเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมาก ทว่าสำเร็จได้ด้วยโมเดล PPP หรือ Public-Private Partnership ที่ทุกภาคส่วนเล็งเห็นเป้าหมายเดียวกัน และขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ซึ่งเห็นได้ชัดจากการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการจัดการวัสดุเหลือใช้ทั่วทั้งจังหวัด เช่น โครงการธนาคารขยะ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนชุมชนคัดแยกขยะครัวเรือนตั้งแต่ต้นทาง ปัจจุบันดำเนินการครบทั้ง 108 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกิดเป็นกองทุนธนาคารขยะ 123 กองทุน ซึ่งช่วยลดภาระงบประมาณการจัดเก็บและขนย้ายขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน มีคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) จำนวน 3,495 ตัน CO2 เทียบเท่า สร้างรายได้ให้ชุมชนเกือบ 1 ล้านบาท, โครงการปลูกพืชพลังงาน เช่น หญ้าเนเปียร์ เพื่อแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ก็ได้ปลดล็อคด้วยการให้ความรู้แก่เกษตรกร เป็นตัวกลางเชื่อมให้ภาคอุตสาหกรรมมารับซื้อ สร้างความมั่นใจในด้านรายได้ให้เกษตรกร ปัจจุบันปลูกแล้วกว่า 100 ไร่ ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี คาดว่าสามารถแปรรูปเป็นพลังงานทดแทนได้ 2,100 ตัน สร้างรายได้ให้เกษตรกร 2.5 ล้านบาทต่อปี และยังลดการปล่อยคาร์บอนได้ 2,500 ตัน CO2 เทียบเท่า
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์ขณะที่ ‘ชนะ ภูมี’ นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) กล่าวว่า ฐานกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของประเทศกว่าร้อยละ 80 อยู่ที่สระบุรี พื้นที่ดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนบ้านของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ จึงอยากพัฒนาบ้านหลังนี้ให้ดีขึ้น โดยร่วมกับทุกภาคส่วนเร่งเปลี่ยนสระบุรีให้เป็นเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย เริ่มจากพัฒนาปูนซีเมนต์ไฮดรอลิค (Hydraulic Cement) ซึ่งเป็นปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ ที่ลดการปล่อยคาร์บอนจากการผลิต และสนับสนุนให้ใช้ในโครงการก่อสร้างของภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ สูงถึงกว่าร้อยละ 80 ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 1,169,673 ตัน CO2 (ข้อมูลสะสม มกราคม 2565 ถึงมีนาคม 2567) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานตามเป้าหมายของ จ.สระบุรี โดยไทยตั้งเป้าเป็นประเทศแรกในเอเชียที่จะไม่มีปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ภายในปี 2568 ทั้งยังมีแผนการใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำประเภทใหม่ๆ ที่ลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตได้มากขึ้น
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์สำหรับแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University) สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความชำนาญและเครื่องมือในการจัดทำแผนการเปลี่ยนแปลงพลังงานเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่สำคัญในการจัดหาและการใช้พลังงานในระบบพลังงาน (Energy Transition) ของสหรัฐอเมริกา โดยร่วมกันประเมินเส้นฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน และกำหนด Energy Roadmap ของ จ.สระบุรี รวมถึงประเมินแนวทางการใช้พื้นที่ของจังหวัดฯ ทำเป็น Solar PV พลังงานสะอาด เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายดำเนินงาน นอกจากนั้นควรเร่งพัฒนา Green Infrastructure หรือ โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของประเทศ โดยศึกษากระบวนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของจีน ที่มีการแบ่งลำดับขั้นตามความพร้อมของแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงตัวอย่างของไต้หวันที่มีโครงสร้างไฟฟ้าแบบการประมูลรายวัน ปัจจุบันเรามีความร่วมมือกับทั้ง 2 ประเทศในการพัฒนา Grid Modernization ในสระบุรีแซนด์บ็อกซ์
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์อีกหนึ่งความร่วมมือจากภาคเอกชน อย่าง‘วีรพันธ์ อังสุมาลี’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โฮมโปรในฐานะผู้นำเรื่องบ้าน เล็งเห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนสินค้าในบ้าน ทว่าอาจยังไม่ทราบวิธีจัดการสินค้าใช้แล้วอย่างถูกต้อง จึงริเริ่มโครงการ Closed-Loop Circular Products ซึ่งเป็นการนำสินค้าที่ใช้งานแล้วจากลูกค้าโฮมโปร มาจัดการอย่างถูกวิธี โดยคัดแยกชิ้นส่วนที่สามารถนำไปรีไซเคิลใหม่ และได้รับความร่วมมือจากเอสซีจีซี ที่มีเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาช่วยพัฒนาสูตรพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง หรือ กรีน พอลิเมอร์ (Green Polymer) เพื่อนำกลับมาผลิตอีกครั้งเป็นสินค้ารักษ์โลกให้กับลูกค้าโฮมโปร ปัจจุบันโฮมโปรมีผลิตภัณฑ์หมุนเวียน ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น พัดลม ไปจนถึงกระเบื้อง กล่องอเนกประสงค์ ถุงช้อปปิ้ง และอื่น ๆ ซึ่งการส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์หมุนเวียนด้วยระบบ Closed-Loop ถือเป็นภารกิจที่ตอบเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 ของโฮมโปรได้อย่างเป็นรูปธรรม
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์ไม่เพียงเท่านี้ยังมีความร่วมมือจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อย่าง‘แสงชัย ธีรกุลวาณิช’ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย โดยกล่าวว่า ความท้าทายของผู้ประกอบการรายย่อยไทยต่อจากนี้ คือการปรับธุรกิจให้เข้ากับกฎเกณฑ์ใหม่ที่เกิดจากประเด็นความห่วงใยด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป เช่น Thailand Taxonomy มาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของไทย หรือ CBAM มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเสมือนกำแพงทางการค้า ธุรกิจที่ปรับตัวได้ก่อน จะสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าวและพาธุรกิจอยู่รอดได้เร็ว ดังนั้นสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจึงสนับสนุนกลุ่มเอสเอ็มอีให้เข้าถึงความรู้ มาตรฐานใหม่ๆ เทคโนโลยีกระบวนการผลิตเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม รวมถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวทั้งในและนอกประเทศสำหรับใช้ในการปรับธุรกิจ เน้นสร้างกลไกเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ เพิ่มโอกาสเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากมาตรการต่างๆ ทั้งการเงิน ส่งเสริมความรู้ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังต้องขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อช่วยเอสเอ็มอีให้ร่วมยกระดับเศรษฐกิจฐานรากสู่ความยั่งยืนอีกด้วย
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์ทั้งนี้ งาน ESG Symposium 2024 จะจัดขึ้นวันที่ 30 กันยายนนี้ ณ Hall 1 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 11.00-16.30 น. โดยมีวิทยากรระดับโลกร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และตัวอย่างที่หลากหลายในการเปลี่ยนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมชมนิทรรศการจำลองการใช้ชีวิตแบบโลว์คาร์บอน โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง Facebook และ Youtube ของเอสซีจี
เช็กปีESGSymposiumเอสซีจีเร่งไทยสู่สังคาร์บอนต่ำดันต่อเป้ายิ่งเร่งเปลี่ยนยิ่งเพิ่มโอกาสเดลินิวส์