【pxj เครดิตฟรี 58 ทางเข้า】‘ยังติดขัด’มีอุปสรรค! ‘ถ่ายโอน รพ.สต.’ วิจัยชี้‘มีโจทย์ต้องแก้’ | เดลินิวส์

ตัวเลขดังกล่าวข้างต้นนี้เกี่ยวกับ“โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล” หรือ “รพ.สต.” ที่ถูกเผยไว้ในเวทีสัมมนาวิชาการ “สร้างต้นแบบด้วยเครือข่าย : สู่ก้าวย่างที่มั่นคงของระบบสุขภาพปฐมภูมิ กรณีการถ่ายโอนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)”เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่จัดโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหน่วยงานเครือข่าย เพื่อเสนอผลศึกษาวิจัย

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

กรณีภารกิจ “การถ่ายโอน รพ.สต.”

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ที่พบ “อุปสรรค ข้อจำกัด ที่ต้องแก้”

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ทั้งนี้ การศึกษาวิจัยที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูลวันนี้ จัดทำภายใต้การสนับสนุนจากทาง สวรส. เพื่อจะถอดบทเรียนกับหน่วยงานเครือข่าย และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. ที่ถ่ายโอนแล้ว และที่ยังไม่ได้ถ่ายโอน เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการส่งเสริมองค์ความรู้ และพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้ภารกิจดังกล่าวนี้สามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่สะดุด เพื่อจะนำไปสู่ “ระบบสุขภาพปฐมภูมิที่เข้มแข็ง”

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ในเวทีสัมมนาดังกล่าว รศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ในฐานะกรรมาธิการสาธารณสุข ระบุไว้ในการปาฐกถาพิเศษช่วงหนึ่งว่า การพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ไม่เพียงจำเป็นต้องเชื่อมโยงนโยบาย แต่ต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นศูนย์กลางของเรื่องนี้ด้วย และมุ่งให้เกิดบริการสุขภาพปฐมภูมิที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้ได้ ซึ่งการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิไม่ใช่ภารกิจแค่กระทรวงสาธารณสุข ยังมีหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก ที่จะต้องบูรณาการความร่วมมือภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน โดยหนึ่งในแนวทางที่จะยกระดับและก้าวไปสู่เป้าหมายได้ ก็มีเรื่องของ

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ภารกิจ “ถ่ายโอน รพ.สต. สู่ท้องถิ่น”

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

เพื่อ “ยกระดับบริการสุขภาพปฐมภูมิ”

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ด้าน ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รอง ผอ.สวรส. ระบุไว้ว่า สวรส. สนับสนุนทุนวิจัย ขับเคลื่อนการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ มาตลอด ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 49 โครงการวิจัย หนึ่งในนั้นก็คือ “โครงการวิจัยรูปแบบการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด” ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อศึกษาวิจัย และทดลองการ ยกระดับการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิของ อบจ. ที่นำร่องด้วยหลักเวชศาสตร์ครอบครัว ภายใต้กลไกคณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่ (กสพ.) ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการในพื้นที่นำร่องแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ปราจีนบุรี กำแพงเพชร ปัตตานี น่าน เชียงใหม่ อุบลราชธานี สกลนคร ลำปาง สุโขทัย เพชรบูรณ์ นี่เป็นความคืบหน้าการศึกษากรณีนี้

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ขณะที่ รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา หัวหน้าโครงการวิจัยฯ ก็สะท้อนในเวทีถึงผลศึกษาที่พบไว้ว่า การถ่ายโอน รพ.สต. ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพปฐมภูมิได้ดีมากขึ้นอย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนภารกิจนี้ยังคงมีอุปสรรคและข้อจำกัดในบางพื้นที่ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้ภารกิจดังกล่าวทำได้ไม่สำเร็จ หรือทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์เต็มประสิทธิภาพจากการถ่ายโอนนี้ จึงนำสู่การจัดตั้งโครงการวิจัยดังกล่าว เพื่อให้เกิดความรู้อันจะนำไปสู่การใช้ประโยชน์ หรือก่อให้เกิดประโยชน์ทางวิชาการ และช่วยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ชัดเจน

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

“นอกจากนั้น โครงการวิจัยนี้ยังได้มีการจัดทำคู่มือแนวทางการสร้าง จัดการ และพัฒนาเครือข่ายการให้บริการประชาชนด้านสุขภาพปฐมภูมิตามทฤษฎีการจัดการเครือข่ายและเวชศาสตร์ครอบครัว ซึ่งแต่ละพื้นที่สามารถนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ได้อีกด้วย” หัวหน้าโครงการวิจัยฯ ระบุประโยชน์งานวิจัยนี้

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

พร้อมกันนี้ ยังเผยไว้ถึง“ข้อเสนอแนะจากงานวิจัย”เพื่อให้ภารกิจ “ถ่ายโอน รพ.สต.” ดำเนินต่อไปได้ราบรื่น ว่า พบปัญหาที่ “จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไข” ดังนี้ 1.รัฐบาลควรพิจารณาระบบเงินอุดหนุนเป็นกรณีเฉพาะให้แก่พื้นที่ เช่น อบจ. ขนาดเล็ก ที่มีงบประมาณน้อย และมีการรับถ่ายโอน รพ.สต. หลายแห่ง, 2.หน่วยบริหารส่วนกลางควรเน้นการขับเคลื่อนเพื่อผลักดันกฎหมาย นโยบาย ให้มีผลในทางปฏิบัติ, 3.หน่วยบริหารส่วนกลางควรใช้กลไกมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัยของรัฐมาช่วยสำหรับการพัฒนาและยกระดับการทำวิจัยเชิงพื้นที่ รวมทั้งเน้นพัฒนาศักยภาพหน่วยบริหารส่วนภูมิภาคให้มีภาวะผู้นำ รวมทั้งบูรณาการและสร้างเครือข่าย ในฐานะ “พี่เลี้ยงให้ อปท.” ที่มีประสิทธิภาพ

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ทั้งนี้ ในเวทีสัมมนายังมีการถ่ายทอดประสบการณ์จากพื้นที่ต้นแบบเพื่อให้พื้นที่อื่น ๆ นำไปประยุกต์ใช้ โดยมีประเด็น “องค์ประกอบที่สำคัญของภารกิจนี้” ที่นำมาแลกเปลี่ยน 6 หัวข้อ “การพัฒนา” ดังนี้ 1.พัฒนาเครือข่ายเวชศาสตร์ครอบครัว, 2.พัฒนาเครือข่ายทันตสาธารณสุขและการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง, 3.พัฒนาระบบการเงินและบัญชีของ รพ.สต. ที่ถ่ายโอน, 4.พัฒนา-บูรณาการตัวชี้วัดด้วยเทคโนโลยีการจัดการและแสดงผลข้อมูล, 5.พัฒนาระบบบริหาร รพ.สต. สังกัด อบจ. ในระดับพื้นที่ และ 6.พัฒนากลไกส่งเสริมสนับสนุน อบจ. ในระดับพื้นที่ เหล่านี้ก็เป็น “ข้อมูลอัปเดต” เรื่องสุขภาพเรื่องนี้

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

“ถ่ายโอน รพ.สต.”ให้ “สังกัด อบจ.”

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ผ่านไประยะหนึ่ง “ยังมีโจทย์ให้แก้”

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ก็ต้องแก้ “เพื่อสุขภาพประชาชน”.

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์

ยังติดขัดมีอุปสรรคถ่ายโอนรพสตวิจัยชี้มีโจทย์ต้องแก้เดลินิวส์