【วิเคราะห์อินเดียซุปเปอร์ลีก】กินยา‘ยาแก้แพ้’ เสี่ยงสมองเสื่อม จริงหรือ ? | เดลินิวส์

ผศ. พญ.อรพิชญา ศรีวรรโณภาส สาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ  ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “ยาแก้แพ้” ไว้ว่า “ยาแก้แพ้” เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ช่วยรักษาอาการคัดจมูก มี น้ำมูก ไอ จาม ผื่นคัน การใช้ยาแก้แพ้โดยไม่มีข้อบ่งชี้ ไม่รู้สรรพคุณหรือผลข้างเคียงของยา นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพและเป็นอันตรายกับร่างกายของผู้สูงอายุแล้ว ยาแก้แพ้บางชนิดยังส่งผลต่อการทำงานของสมองทำให้เกิดอาการคล้ายภาวะสมองเสื่อมได้อีกด้วย

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์

“ยาแก้แพ้” คืออะไร ?

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์

ยาแก้แพ้” เป็นยาที่ใช้ป้องกันหรือบรรเทาอาการแพ้ เมื่อเราได้รับสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้เข้ามาในร่างกาย สารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารฮิสตามีน (histamine) ซึ่งจะทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นในร่างกาย เช่น น้ำมูกหรือน้ำตาไหล เยื่อตาอักเสบ ผื่นคันตามผิวหนัง ยาแก้แพ้จะเข้าไปยับยั้งการออกฤทธิ์ของสารฮิสตามีนและบรรเทาอาการแพ้ได้

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์High view woman having pills in her hand

“ยาแก้แพ้” มีสรรพคุณอย่างไร ?

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์บรรเทาอาการน้ำมูกไหล ไอ จาม จากการแพ้อากาศบรรเทาอาการผื่นคัน ลมพิษ

รูปแบบของยาแก้แพ้ในปัจจุบัน มีทั้งรูปแบบ “เม็ด-ยาน้ำและยาฉีด”

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์ยาแก้แพ้แบบเม็ด รักษาอาการแพ้และมี น้ำมูกยาแก้แพ้แบบน้ำ มีลักษณะของยาจะเป็นแบบน้ำเชื่อม ใช้กับผู้ป่วยเด็กเล็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปจนถึงเด็กโตยาแก้แพ้แบบฉีด ใช้กับผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง เช่น มีอาการบวมตามใบหน้า เช่น ปาก ตา หายใจลำบากหรือติดขัด เยื่อบุรอบตาบวม หรือมีอาการรุนแรงหลายอาการร่วมกันwoman hand holding a pills take medicine according to the doctor's order

ยาแก้แพ้แบบทำให้ง่วงและไม่ทำให้ง่วง ต่างกันอย่างไร ?

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์ยาแก้แพ้แบบที่ทำให้ง่วง เป็น ยาแก้แพ้ กลุ่มดั้งเดิม เช่น คลอเฟนิรามีน (chlorpheniramine) ไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine) ไดเมนไฮดริเนต (dimenhydrinate) ไฮดรอไซซีน (hydroxyzine) บรอมเฟนิรามีน (brompheniramine) คีโตติเฟน (ketotifen)

ยากลุ่มนี้จะสามารถผ่านเข้าสู่สมองไปกดประสาทโดยตรงทำให้รู้สึกง่วงซึม กระวนกระวาย นอนไม่หลับ ความจำไม่ดีในผู้สูงอายุ  การกินยาแก้แพ้แบบง่วงโดยเฉพาะในวัยสูงอายุจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์ยาแก้แพ้ชนิดไม่ง่วง (non-sedating antihistamines)

ยาแก้แพ้ชนิดนี้เป็นตัวยาที่จะผ่านเข้าสมองได้น้อย จึงทำให้กินแล้วไม่ง่วงซึมเท่ายาแก้แพ้แบบดั้งเดิม ยาแก้แพ้ชนิดไม่ง่วงในปัจจุบัน เช่น ยาเซทิริซีน (cetirizine) เลโวเซทิริซีน (levocetirizine) เฟโซเฟนาดีน (fexofenadine) และลอราทาดีน (loratadine)

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์Close up depressed woman with pills

ข้อควรระวังการใช้ “ยาแก้แพ้”  

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานานผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องจักรหรือขับรถ ไม่ควรใช้ยาแก้แพ้ชนิดนี้ห้ามใช้ร่วมกับยากล่อมประสาท ยานอนหลับ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระวังการใช้ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะที่อายุต่ำกว่า 6 ขวบ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับหญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา

ผู้ที่ไม่ควรใช้ “ยาแก้แพ้”

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์โรคตับโรคไต โรคหืด โรคความดันโลหิตสูงดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์รับประทานยาคลายกล้ามเนื้อบางชนิดรับประทานยานอนหลับ ยาต้านอาการซึมเศร้า เพราะยากลุ่มนี้มีฤทธิ์กดระบบประสาทLonely senior elderly man male enjoying looking out of window at home view from his windowSide view of a senior man who has a chronic illness Alzheimer's disease sitting in a living room

“ยาแก้แพ้”  ทำให้สมองเสื่อมจริงหรือไม่ ?

กินยายาแก้แพ้เสี่ยงสมองเสื่อมจริงหรือเดลินิวส์