【ufa168bet】‘ปิยะชาติ’ รวมความท้าทายส่งท้ายปี 67 ก้าวสู่ความพร้อมปี 68 รับมือ ‘โลกที่ยากจะคาดเดา’ | เดลินิวส์

“ปิยะชาติ อิศรภักดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ หนึ่งในตัวแทนภาคเอกชนของไทยที่มีโอกาสร่วมแสดงบทบาทสำคัญในเวทีระดับโลกสำคัญ อย่างเช่น สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ซึ่งเป็นพื้นที่รวมผู้นำ และนักคิดจากทั่วโลก เพื่อหาคำตอบต่อปัญหาและอนาคตที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดย “ปิยะชาติ” ฉายภาพให้เห็นถึงความท้าทายในอนาคต เพื่อให้ทุกคนมีพลังในการเตรียมความพร้อมก้าวสู่ปี 2568 หรือปี 2025ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ควรแยกออกจากการพัฒนาสังคมและการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งการ เตรียมความพร้อมให้ทุกคนก้าวสู่ปี 2025 ผ่าน 3 เวทีหลักที่จะช่วยให้เราก้าวข้ามความท้าทาย และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

1. เวทีอนาคตเศรษฐกิจ

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

เวทีของสภาเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นการรวมตัวผู้เชี่ยวชาญกว่า 500 คนจาก 30 สภาเฉพาะทาง เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและกำหนดแนวทางการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงระดับโลก หัวใจของการประชุมครั้งนี้คือการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มใหม่  และสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในอนาคต พร้อมทั้งหารือถึงแนวทางการเร่งผลักดันการดำเนินการที่จับต้องได้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง ซึ่งภาพรวมอนาคต จากการประชุมแสดงให้เห็นว่า โลกกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ยุคที่ความท้าทายทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด และความจำเป็นในการสร้างความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม การเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานสะอาด และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนจะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการขับเคลื่อนโลกในอนาคต ระบบเศรษฐกิจจึงต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่โมเดลที่สมดุลยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการเติบโต

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

2. เวทีอนาคตคุณภาพชีวิต

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรระยะยาวขององค์การสหประชาชาติ ทั้งในประเทศไทยและเวทีระดับโลก ให้ความสำคัญกับการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 79 (UNGA 79) ถือเป็น Milestone สำคัญที่ตอกย้ำบทบาทของแบรนดิในฐานะผู้ขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน “ปิยะชาติ” ได้หยิบยกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ Peace and Security Issues มุ่งเน้นถึงความสำคัญของการควบคุมความขัดแย้งที่เกิดจากภูมิรัฐศาสตร์ ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของสังคม แต่ยังมีผลกระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจ การปล่อยให้ความขัดแย้งลุกลามโดยไม่สามารถจัดการได้ จะก่อให้เกิดต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สูงมหาศาล ทั้งในแง่ทรัพยากรที่สูญเสียและโอกาสที่พลาดไป เวทีนี้จึงเป็นพื้นที่สำคัญในการเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างกรอบการทำงานเพื่อจัดการกับปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืน โดยเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศและการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมสันติภาพ เป็นการชี้ให้เห็นว่า การสร้างอนาคตคุณภาพชีวิตที่ดีไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากปราศจากการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เป็นรากฐานของความไม่มั่นคง

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

3. เวทีอนาคตสิ่งแวดล้อม

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

ในฐานะผู้ผลักดันแนวคิด 3P การหาจุดบาลานซ์ ระหว่าง 3 องค์ประกอบหลัก ทั้งการขับเคลื่อนกำไร การดูแลผู้คนในสังคม รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม ​ (3Ps : Profit, People, Planet)  แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) ปีนี้มุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนเงินทุนสำหรับการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

หนึ่งในหัวข้อสำคัญของการประชุมคือการหาข้อสรุปสำหรับกระบวนการ NCQG ซึ่งเป็นองค์ประกอบสําคัญของข้อตกลงปารีส ออกแบบมาเพื่อกําหนดเป้าหมายทางการเงินใหม่เพื่อสนับสนุนประเทศกําลังพัฒนาในการดําเนินการด้านสภาพอากาศหลังปี 2025 เพื่อกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ เร่งดำเนินการตามเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยประเทศไทยเองก็มีแผนปรับปรุงเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งกำหนดจะประกาศในเดือนก.พ. ปี 2568 ที่จะถึงนี้เช่นเดียวกัน

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

แผนดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศระดับโลก แต่ยังเป็นตัวอย่างของความรับผิดชอบ และความโปร่งใส ซึ่งเป็นรากฐานที่ช่วยให้เป้าหมายเชิงนโยบายสามารถแปลงสู่การปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์

“การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่สามารถแยกออกจากการเติบโตของสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ และภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญที่ต้องก้าวขึ้นมามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง และอีกไม่กี่สัปดาห์เราก็จะก้าวสู่ปี 2568 แล้ว นั่นแปลว่า เราเหลือเวลาอีกเพียง 5 ปีในการบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงควรมีการสร้างแรงจูงใจ เพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นในการนำศักยภาพหรือทรัพยากรทางการเงินของภาคเอกชนมาสนับสนุนการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น การมีนโยบายที่เอื้ออำนวย การให้สิทธิประโยชน์ หรือการสร้างโอกาสทางธุรกิจในด้านที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน และกุญแจสำคัญที่สุดในการบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนได้นั้น คือ การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่จะเป็นกลไกในการผลักดันให้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเกิดขึ้นจริง และนำไปสู่ Future of Growth ที่ครอบคลุมและยั่งยืนสำหรับทุกคน”.

ปิยะชาติรวมความท้าทายส่งท้ายปีก้าวสู่ความพร้อมปีรับมือโลกที่ยากจะคาดเดาเดลินิวส์