หลังจากควาวมหนาวเย็นของฤดูหนาวผ่านพ้นไป ความอบอุ่นที่มาแทนที่พร้อมกับต้นไม้ที่พากันจำศีลกลับเริ่มฟื้นตื่น ดอกไม้ขวัญใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่าง “ซากุระ” ก็เริ่มเตรียมตัวผลิบานอีกครั้ง และหนึ่งในจุดชมซากุระห้ามพลาดของฟุกชิมะก็คือ “สวนชิคิโนะซาโตะ เรียวคุซุยเอ็น” (Shiki no Sato Ryokusuien) ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน จะเป็นช่วงเวลาที่ซากุระและดอกท้อบานอย่างเต็มที่ และช่วงต้นเดือนพฤษภาคมก็จะเป็นคราวของดอกซากุระสายพันธุ์ชิบะ

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

ด้วยพื้นที่กว้างกว่า 90,000 เมตร นอกจากซากุระที่เวียนมาปีละครั้งแล้วยังมีดอกไม้นานาชนิดให้ได้ชมกันตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นดอกสึสึจิ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ต่อด้วยดอกกุหลาบพันปี หรืออาซาเลีย ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือน ทั้งยังมีดอกพริมโรสญีปุ่นร่วมแจมด้วยตลอดเดือนพฤษภาคม ดอกไอริส หรือดอกไฮเดรนเยีย จะมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ต่อด้วยฤดูชมดอกบัวปลายเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม โดยมีวิวของภูเขาอาดาตาระเป็นฉากหลังที่จะโดดเด่นเป็นพิเศษช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

จากสถานีโคริยามะ นั่งรถไฟสาย Ban etsusai ไปยังสถานี Kikuta จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อไปประมาณ 10 นาทีจะถึงสวนชิคิโนะซาโตะ เรียวคุซุยเอ็น ไม่ไกลกันยังทีที่เที่ยวยอดฮิตของฟุกุชิมะอีกแห่งอย่าง “ทะเลสาบอินะวะชิโระ” ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในญี่ปุ่น เจ้าของวิวฝันอย่างภาพสะท้อนฟากฟ้าและภูเขาอุระบันได ท่ามกลางผืนน้ำใสกระจ่างที่สะกดสายตานักเดินทางมานานนับพันปี จนได้สมญานามว่าเป็น “ทะเลสาบกระจกสวรรค์”

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

ทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการปะทุระเบิดเมื่อราว 40,000 ถึง 50,000 ปีที่แล้วของภูเขาอุระบันได และภูเขาเนโกมะ ในฤดูหนาวจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิจะมีภาพการอพยพของหงส์จากทุ่งทุนดร้าที่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบเป็นของแถม ส่วนช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีสีสันที่แตกต่าง ขณะที่ฤดูร้อนเต็มไปด้วยกิจกรรมทางน้ำหลากหลายซึ่งรวมถึงการตกปลาด้วย ใช้บริการรถไฟสู่สถานีไอซุวะกะมัทสึต่อด้วยรถบัสหรือแท็กซี่เพื่อไปเยือนทะเลสาบแห่งนี้ โรงแรมบางแห่งยังจัดบริการรถรับส่งจากสถานีโคริยามะด้วย

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

จุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งคือ “ศาลเจ้าซูสึมิกาโอกะฮาจิมัง” (Suzumigaoka Hachiman Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองโซมะเมืองแนวชายฝั่งของฟุกุชิมะ ก่อตั้งขึ้นในฐานะศาลเจ้าฮาชิมังกูเมื่อ 700 กว่าปีก่อน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ โดยจุดชมซากุระที่แนะนำ ได้แก่ บริเวณรอบๆ ประตูโทริอิ บ่อโฮโจจิ และสะพานจินโร เดินทางจากสถานีเซ็นไดขึ้นรถไฟ JR East Joban Line ขบวนที่มุ่งหน้าไปยัง Haranomachi ลงที่สถานีโซมะ จากนั้นนั่งรถแท็กซี่ต่อไปประมาณ 10 นาที

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

นอกจากจะมาชมซากระแล้ว เมืองโซมะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องสตรอเบอรี่รสหวานฉ่ำที่เพิ่งเก็บมาใหม่ ๆ “สมาคมสตรอเบอรี่วาดะคังโค” จึงมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเก็บสตรอว์เบอร์รีเองได้ ที่นี่จะปลูกสตรอว์เบอร์รี 6 ชนิด ซึ่งรวมทั้งพันธุ์อากิฮิเมะและซาจิโนะกะ การเก็บสตรอเบอรี่ที่นี่จะให้เวลา 30 นาทีโดยเก็บได้แบบไม่จำกัดจำนวน ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ผ่านสมาคมฯ และหากใครต้องการซื้อกลับไปรับประทานหรือเป็นของฝากที่สวนแห่งนี้ก็มีขายเช่นกัน

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

ส่วนใครที่หมายมั่นว่าจะต้องไปชมซากุระต้นยักษ์อย่าง “ต้นซากุระอิชิเบะ” (Ishibe Cherry Blossom) ซากุระเอโดะฮิกังยักษ์ที่มีอายุกว่า 650 ปี ยืนต้นสง่างามท่ามกลางภูเขาและนาข้าวของเมืองไอสึวากามัตสึ หนึ่งในสัญลักษณ์ประจำเมือง จากสถานีโคริยามะ ขึ้นรถบัสด่วน Iwaki/Koriyama-Aizuwakamatsu แล้วลงที่ป้าย Aizuwakamatsu แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสาย Akabe ลงที่ป้าย Iimoriyama-shita จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

มาย่านนี้แล้วอย่าลืมแวะเที่ยว “ปราสาทสึรุกะ” หนึ่งในแลนด์มาร์กชื่อดังที่ห้ามพลาดของฟุกุชิมะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ซึ่งยังสามารถชมซากุระบานสะพรั่งของที่นี่ได้ด้วย ภายในมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และข้าวของเครื่องใช้ของเหล่านักรบซามูไร จากชั้นที่ 5 ของปราสาทสามารถชมวิวเมืองไอสึได้ ส่วนของด้านล่างเป็นร้านขายของฝากที่มีขนมอร่อย ๆ จากฟุกุชิมะมากมาย

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

ช่วงฤดูใบไม้ผลิโดยรอบตัวปราสาทได้รับการแต่งแต้มสีชมพูอ่อนจากกลีบดอกซากุระ เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือนใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มแดงและเหลือง รวมกับฉากหลังที่เป็นปราสาทเก่าแก่ยิ่งเป็นภาพที่งดงาม ในยามค่ำคืนช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงยังมีการแสดงไลท์อัพให้ชมด้วย

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

จากแลนด์มาร์กไปที่พิกัดลับของเมืองไอสึวากามัตสึที่ได้รับความนิยมในหมู่ช่างภาพสายคอนเทนต์ของญี่ปุ่นอย่าง “วัดซาซาเอะโอะ” ที่มีจุดเด่นเป็นเจดีย์เก่าแก่สูง 16.5 เมตรสร้างจากไม้ และโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่เป็นเกลียวสองชั้นเหมือนเปลือกหอยทากทะเล ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ คือ “ซาซะเอะโด” หรือ “วัดหอยทากทะเล” และไม่มีพื้นบนชั้นอาคาร

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

วัดซาซาเอโดะสร้างขึ้นโดยใช้กรรมวิธีงานไม้แบบญี่ปุ่นเมื่อ 220 ปีก่อน ราวปี 1796 ตั้งอยู่บนภูเขาอีโมริยามะ โดยพระสงฆ์ที่ชื่อ อิกุโดะ ผู้ซึ่งน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนึ่ง เส้นทางเดินขึ้นลงเป็นการแสดงถึงการจาริกแสวงบุญของไซโงคุคันนงไปยังวัด 33 แห่ง แทนด้วยเทวรูปทั้ง 33 องค์ของคันนงที่ตั้งอยู่ตลอดทาง ว่ากันว่า ผู้จาริกแสวงบุญจะได้รับโชคลาภและได้บุญจากการสวดภาวนาแก่เทวรูป

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

ใกล้กับวัดมีรูปปั้นนักรบซามูไรหนุ่ม 19 คนที่เสียชีวิตบนภูเขาอีโมริ ทั้งหมดเป็นสมาชิกของกลุ่มเยาวชน Byakkotai หรือกองพลเสือขาว กลุ่มนักรบที่ต่อสู้ในสงครามโบชิน ช่วง ค.ศ. 1868–1869 ตั้งอยู่บนยอดเขา จากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองที่อยู่เบื้องล่างได้

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์

จากโตเกียวขึ้นเจอาร์โทโฮคุ ชินคันเซนลงที่สถานีโคริยามะ แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟธรรมดาบนเส้นทางสายเจอาร์บาเน็ตสึซาอิ และลงที่สถานีไอซุวะกะมัทสึ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นขึ้นรถบัสเส้นทางวนรอบไอซุไปลงภูเขาอีโมริ

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์DCIM\100GOPRO\GOPR1144.JPG

ฃจุดชมซากุระลับอีกแห่งคือ “สวนสมุนไพรอินะวะชิโระ” ไฮไลต์ของที่นี่คือ ให้เราสามารถชมซากุระได้แม้จะไม่ได้อยู่ในฤดูกาลชมซากุระ เพลิดเพลินไปกับการชมซากุระถึง 6 ชนิดในเรือนกระจกได้ในเดือนมีนาคม และที่ไม่ควรพลาดคือ งานร่มหลากสีประดับท้องฟ้า “Umbrella Sky” ที่จะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง

หลงเสน่ห์ฟุกุชิมะในวันดอกไม้ผลิบานเดลินิวส์