【lsm99 สล็อต】ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปี 2025 ไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ Geoeconomics 2025: Mapping the Future of Economic Power เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปี 2025 ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024: BRAVE NEW WORLD เศรษฐกิจไทย ไล่กวดโลกใหม่ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
โดยปานปรีย์แบ่งปันและแลกเปลี่ยนมุมมองด้านภูมิเศรษฐศาสตร์ (Geoeconomics) ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน รวมทั้งเสนอแนวทางการรับมือและการเตรียมพร้อม เพื่อกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2025 ที่ใกล้จะมาถึง
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ทีมงาน THE STANDARD ถอดความสปีชนี้แบบคำต่อคำ
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งโรคระบาด ปัญหา Global Warming รวมทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งใน Geoeconomics ความตึงเครียดของสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนก็สร้างผลกระทบภาพรวมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการค้า การลงทุน หรือเทคโนโลยี ที่มีผลกับเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงส่งผลให้เราต้องมาเข้าใจสิ่งนี้ นั่นคือแผนที่อำนาจเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
เริ่มกันที่จีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจฝั่งเอเชียที่เชื่อมต่อกับประเทศอื่นในหลายมิติ ทั้งด้านการเมืองอย่าง BRICS และโครงการต่างๆ เช่น Belt and Road Initiative เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ซึ่งนโยบาย BRICS ก็ค่อนข้างจะมีความชัดเจนในการลดการพึ่งพาจากชาติตะวันตก ในปีนี้เจ้าภาพการประชุมอย่างรัสเซียถึงกับมีข้อเสนอ De-dollarization กับกลุ่มประเทศสมาชิก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
จะเห็นว่าประเทศที่ประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกต่างอยู่ใน BRICS เป็นจำนวนมาก และไทยกำลังสมัครเข้าเป็นสมาชิกในนั้น ในแง่ความสัมพันธ์กับไทย จีนยังเป็นคู่ค้าสำคัญของเรา และประเทศในอาเซียนตามข้อตกลง RCEP ที่ทำให้การค้าหมุนเวียนของเราในอาเซียนมีสภาพคล่องสูงมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น จีนยังพยายามขยายอำนาจทางเศรษฐกิจผ่านโครงการ Belt and Road Initiative โดยการสนับสนุนให้ประเทศต่างๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งเพื่อเติบโตในภูมิภาค
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่ง Belt and Road Initiative อาจเป็นการสร้างภาระหนี้ให้กับประเทศในระยะยาวด้วย โดยหากมีภาระหนี้กับจีน ประเทศนั้นๆ จะต้องสำรองหยวนมากขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นคือ De-dollarization รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับจีนที่เป็นโรงงานของโลกในการส่งสินค้าสู่ตลาดโลกอย่างรวดเร็ว
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
พอหันกลับมามองสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหาอำนาจขั้วเดิมก็ปรับตัวสู้กับการเติบโตและการขยายอิทธิพลของจีนในฐานะผู้นำระเบียบโลก หรือ World Order อย่างเข้มข้นไม่แพ้กัน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
นอกจากสหรัฐฯ จะรวมกลุ่มกับ OECD ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมในหมู่ประเทศสมาชิกของตนแล้ว โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญที่มากขึ้นของกลุ่มประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย จึงริเริ่มกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ นั่นก็คือ IPEF หรือ Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity เพื่อสร้างความได้เปรียบในภูมิภาคที่สำคัญนี้ โดยเฉพาะขณะที่ผมดำรงตำแหน่ง ผมพูดคุยและสื่อสารกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ จึงเข้าใจได้ว่าทำไมพื้นที่แห่งนี้จึงมีความสำคัญมาก
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ผมอยากให้ทุกท่านลองมองโลกอีกด้านหนึ่งของแผนที่ หากจีนอยู่ซ้าย สหรัฐฯ อยู่ขวา IPEF คือจุดยุทธศาสตร์สำคัญทั้งทางด้านธุรกิจและความมั่นคง โดยล้อมรอบจีนในเกือบทุกด้าน เราจึงต้องวางตัวบนเวทีโลกให้เหมาะสม เนื่องด้วยอำนาจของทั้งสองด้านต่างมีเราเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ที่ผมต้องพูดแบบนี้ เพราะจากประสบการณ์ของผม ก่อนหน้านี้โลกของเรามองเศรษฐกิจเหนือการเมือง ในยุคหนึ่งที่จีนเริ่มเปิดประเทศเพราะรู้ว่าการค้านั้นสำคัญ ทุกประเทศต่างเปิดรับและยอมรับเข้า WTO ถึงแม้ว่าจีนจะยังคงมีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ก็ตาม
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
แต่เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาจะใช้ Geoeconomics นำ Geopolitics เช่น กลับมาทำสงครามการค้า โดยตั้งกำแพงภาษีเพื่อกีดกันสินค้าจากบางประเทศ ลามไปถึงมาตรการสกัดกั้นบริษัททุนเทคโนโลยีขั้นสูงจากจีน โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ หน่วยประมวลผลควอนตัม และปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เราเรียกว่า AI จากโลกยุคใหม่ที่เคยเป็น Free Trade หรือการค้าเสรี เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก จาก Globalization จึงกลับกลายเป็น Deglobalization มากขึ้นทุกวัน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
จากภาพนี้กลุ่มประเทศ OECD เป็นสีน้ำเงิน และ BRICS เป็นสีแดง ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่มีการทับซ้อนของประเทศเลย นี่คือฉากทัศน์ของโลกในปัจจุบัน และถ้ามองตามข้อตกลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การลงทุน การไหลเวียนของเงินทุน หรือการพัฒนาเทคโนโลยีและพันธมิตรต่างๆ ที่ทับซ้อนกันอยู่ สีเหล่านั้นจะเหลื่อมกันในบางพื้นที่ และเราเป็นหนึ่งในนั้น ท่ามกลางข้อเสนอจากทุกฝ่าย สิ่งสำคัญที่เราต้องมองคือแล้วไทยควรทำอย่างไร
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
เรื่องที่จะนำเสนอนี้เป็นมุมมองส่วนตัวของผม ในฐานะคนที่ทำงานด้านเศรษฐกิจและเคยดำรงตำแหน่งในด้านการต่างประเทศมาก่อน จึงขอพูดเรื่องนี้ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดในปัจจุบัน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ส่วนตัวผมมองว่าเราควรบริหารความสัมพันธ์อย่างมียุทธศาสตร์ นั่นคือสิ่งที่ผมยึดมาตลอดการทำงานตลอด 8 เดือน และมองไปในอนาคตข้างหน้าด้วย ที่การบริหารงานภาคเศรษฐกิจจะมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เราเรียกว่า Strategic Neutrality หรือการวางตัวเป็นกลางอย่างมีกลยุทธ์ ถ้าเป็นกลางเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องขยับคุยกับใครก็เป็นกลางได้ แต่ความได้เปรียบทางการค้าหรือโอกาสต่างๆ ก็อาจหายไป เพราะชาติอื่นมองว่าเราไม่ชัดเจน ยิ่งในยุคที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ การที่เราสามารถรับโอกาสได้จากทุกฝ่าย ค้าขายได้กับทุกทาง จะทำให้เรามีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน เพราะในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน หากต้องการจะเติบโต เราจำเป็นจะต้องมีการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกมาก รวมทั้งเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันกับตลาดโลกไปพร้อมๆ กัน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
เราต้องเปิดโอกาสให้มากที่สุดทั้งระดับประเทศและภาคเอกชน เพราะแต่ละคนมีคู่ค้าที่ไม่เหมือนกัน หากเราส่งออกไปที่ใดที่หนึ่งแล้วมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นจากการเลือกข้างในระดับชาติ เราควรต้องป้องกันความเสี่ยงโดยการกระจายการค้าไปหลายที่หรือมีความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ก่อน เพื่อให้เรามีโอกาสมากขึ้น
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาผมมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ เช่น การเปิดโอกาสด้านการท่องเที่ยวด้วยการทำฟรีวีซ่าจาก 93 ประเทศรวมจีนและอินเดีย เพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจในประเทศ, การเจรจาเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ Digital Economy และเซมิคอนดักเตอร์กับสหรัฐฯ ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้เรามีโอกาสกับการลงทุนต่างประเทศ เช่น Google และ NVIDIA ที่เริ่มมาลงทุนในไทยมากขึ้น หากเราเดินหน้าต่อทางด้าน FTA กับประเทศในยุโรปและสหราชอาณาจักร เราจะแข่งขันเรื่องการส่งออกได้อย่างสูสีกับเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามมากขึ้น ส่งผลให้ GDP ของเราจะสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
แต่เราจะสร้างโอกาสไม่ได้เลยถ้าเรากับคู่ค้ามีมาตรฐานต่างกัน เพราะแต่ละประเทศไม่ได้มองเพียงแค่สินค้าหรือต้นทุนที่ต่ำกว่า แต่ยังรวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ทรัพย์สินทางปัญญา และสิทธิมนุษยชน ซึ่งหากเรามีความสัมพันธ์ที่ดี สามารถแสดงให้โลกเห็นได้ว่าเราให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นจริงๆ เช่น กรณีการจับตัวประกันชาวไทยของฮามาส ซึ่งเราก็สามารถเจรจาให้ยอมปล่อยตัวประกัน รวมถึงอพยพชาวไทยกลับมาได้โดยความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งได้รับความชื่นชมจากประเทศฝั่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือทางด้านมนุษยชนกับชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากสงครามก็เช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดคือตัวอย่างของการสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะในโลกที่เกิดการแบ่งขั้ว เราต้องสร้างดุลยภาพ ไม่พึ่งพาใครมากเกินไป เพราะไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าใครจะเป็นผู้วาง World Order ของทศวรรษหน้า
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ประเด็นสุดท้ายที่ผมขอกล่าวถึงคือผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อไทย ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
การที่ทรัมป์ 2.0 ขึ้นเป็นประธานาธิบดีจากนโยบาย America First เศรษฐกิจโลกจะเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการแข่งขันทางการค้าระหว่างมหาอำนาจคือสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะทวีความเข้มข้นไปอีก รวมทั้งประเทศที่ค้าขายกับสหรัฐฯ ด้วย ในฐานะที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นอันดับ 1 และได้ดุลการค้า เป็นไปได้ว่าจะถูกตั้งกำแพงภาษีเช่นกัน เราจึงต้องติดตามภาษีของแต่ละประเภทสินค้าของเราให้ดี และพร้อมเจรจาเพื่อคงความได้เปรียบด้านการค้าของไทยในอนาคต
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
ส่วนการแบ่งขั้วหรือที่เราเรียกกันว่า Decoupling จากสหรัฐฯ ต่อจีน รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะถอดถอนจีนจาก MFN ที่มีการปฏิบัติต่อคู่ค้าอย่างเท่าเทียมกันนั้น อาจเกิดประโยชน์กับไทย เพราะฐานการผลิตและการลงทุนจะย้ายออกจากจีน ซึ่งจะมีหลายอุตสาหกรรมที่มีโอกาส ได้แก่ รถยนต์, คอมพิวเตอร์, อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องดื่ม รวมทั้งภาคเกษตรด้วย
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
แต่ไม่ได้แปลว่าโอกาสนี้จะเกิดประโยชน์กับเราแน่นอน เพราะนโยบายหลักของทรัมป์มีความเชื่อว่ามี Free Trade ได้จะต้อง Fair Trade ก่อน ทุกประเทศอาจต้องปรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ใหม่ทั้งหมด เพราะแนวโน้มการเจรจาจะเปลี่ยนรูปแบบจากพหุภาคีเป็นเลือกเจรจาเป็นคู่และ Mini Trade Agreement แทน เดิมมี IPEF ก็อาจยกเลิก เหมือนที่เคยถอนตัวจาก CPTPP มาก่อนแล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้เจรจาการค้าระหว่างประเทศมีความสำคัญอย่างไม่เคยมีมาก่อน เราต้องพร้อมทั้งยุทธศาสตร์และประสิทธิภาพ เพื่อชิงจังหวะของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพื่อประเทศไทย
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหน
มาถึงตรงนี้ผมขอสรุปว่า ในปีที่กำลังจะมาถึงนี้โลกจะยังคงมีความไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พวกเราจะต้องเตรียมพร้อมไว้ทั้งเชิงรับและเชิงรุก การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างมียุทธศาสตร์จะมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ผมมองว่าควรเปิดโอกาสให้ตัวเอง ไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง คุยได้ทุกฝ่าย เข้าได้ทุกชาติ ไม่ว่าจะเกิดสงครามหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าการค้าจะเป็นเช่นไร เราจะต้องเดินต่อไปให้ได้
ปานปรีย์เปิดแผนที่อำนาจเศรษฐกิจปีไทยอยู่ตรงไหนสามารถติดตาม THE STANDARD WEALTHผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้งานอยู่แล้วได้เลย