【ผลลาวพิเศษย้อนหลัง】ชวนส่งกำลังใจให้ ‘น้องคำแก้ว’ เต่าปูลูแห่งอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย | เดลินิวส์

มีรูปร่างที่แปลกไปจากเต่าชนิดอื่น ๆ กล่าวคือ มีหัวที่โต ปากงุ้มแหลม เล็บทั้ง 4 ข้างแหลมคมมาก มีหางที่ยาวมาก และไม่สามารถหดหัวเข้ากระดองที่เรียวยาวได้ เป็นเต่าที่พบในลำธารน้ำตกบนภูเขาสูงหรือป่าดิบชื้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนบนที่ติดกับตอนใต้ของประเทศจีน

ชวนส่งกำลังใจให้น้องคำแก้วเต่าปูลูแห่งอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัยเดลินิวส์

เต่าปูลูขนาดเล็ก ที่ยังไม่โตเต็มวัย เกล็ดสันหลัง มีลักษณะเป็นสันแนวกลางหลังทั้ง 5 แผ่น เกล็ดชายโครง ทั้ง 4 คู่ มีปุ่มหนาที่บริเวณกลางของแต่ละเกล็ด เกล็ดขอบกระดอง มีหยักปลายแหลมเล็กน้อย ส่วนกระดองท้องมีลักษณะดาร์ก ซิมเมตริคอล มาร์กิ้งส์ กระดองหลังสีน้ำตาลแดง กระดองท้องสีเหลือง ผิวหนังด้านท้องสีเหลือง ด้านข้างของหัวทั้งสองด้านจากท้ายตามีเส้นสีดำ 1 คู่ พาดยาวไปทางด้านหลัง ระหว่างกลางเส้นสีดำมีสีเหลือง ขาทั้ง 4 ด้านบนสีดำด้านล่างสีเหลือง แต่เมื่อโตเต็มวัย ลักษณะสันกลางหลัง ปุ่มหนามที่เกล็ดชายโครงและรอยหยักที่เกล็ดขอบกระดอง จะหายไปจนหมด ส่วนลักษณะดาร์ก ซิมเมตริคอล มาร์กิ้งส์ ที่กระดองท้องสีทั้งหมดจะหายไป หรือจางลงจนสังเกตเห็นไม่ชัด เส้นคู่สีดำข้างหัวจะหายไปด้วย

ชวนส่งกำลังใจให้น้องคำแก้วเต่าปูลูแห่งอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัยเดลินิวส์

จากกรณี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ช่วงเกือบ 4 โมงเย็น นายประวิทย์ ใจคำ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย จ.แพร่ เล่าให้ทีมข่าววาไรตี้สัตว์ฟังว่า ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่าเจอน้องเต่าปูลู นอนนิ่ง ๆ อยู่บนหาดทรายของน้ำตกแม่เกิ๋งหลวง ชั้นที่ 3 น้องนอนนิ่งมาก และสังเกตเห็นรอยแผลแตกบริเวณส่วนท้ายของกระดองและโคนหาง สันนิษฐานว่าน้องคงได้รับบาดเจ็บ จึงไม่สามารถไปไหนได้ นักท่องเที่ยวคณะดังกล่าว จึงได้ขึ้นมาแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งปฏิบัติงานดูแลนักท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกแม่เกิ๋งหลวง พอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่ากระดองของน้องมีรอยแตกเป็นทางยาว และมีรอยแผลบริเวณหาง (คาดว่าอาจจะโดนหินทับ หรือโดนหินร่วงทับ เนื่องจากลำห้วยและน้ำตกชั้นที่ 3 อยู่กลางป่า รถไม่มีทางทับได้ และน้องค่อนข้างผอมคาดว่าน่าจะอดอาหารมาหลายวัน)

ชวนส่งกำลังใจให้น้องคำแก้วเต่าปูลูแห่งอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัยเดลินิวส์

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำมาหาสัตวแพทย์ในตัวเมืองแพร่ ระยะทางกว่า 80 กิโล กว่าจะมาถึงในเมืองก็เกือบทุ่ม แล้วยังต้องค่อย ๆ พาไปแต่ละคลินิก ไม่ใช่ว่าทุกคลินิกจะรักษาเต่าได้ จนมาถึงคลินิกแห่งที่ 4 คือคลินิก บ้าน ป.ปลา รักษาสัตว์ มาพบคุณหมอ สัตวแพทย์ ที่เคยรักษาน้องเต่าในลักษณะนี้ (กระดองแตก) มาก่อน น้องจึงได้รับการรักษา คุณหมอบอกว่า จุดที่กระดองแตก เป็นบริเวณที่ไม่มีอวัยวะสำคัญอยู่ อาการน้องจึงไม่โคม่า แต่ก็คงเจ็บ เพราะเมื่อคุณหมอจับโดนบริเวณแผล น้องดิ้นหนี ดิ้นสู้ ทีมคุณหมอและผู้ช่วยจึงได้มารุมช่วยกันรักษาน้อง โดยทำความสะอาดแผล ซ่อมแซมและเชื่อมกระดองแล้วปิดกันน้ำชั่วคราวด้วยดินน้ำมัน และให้ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวดและอื่น ๆ รวมทั้งให้ยาน้องมากินต่อเนื่องด้วย จนกว่าน้องจะหายเป็นปกติ และปล่อยคืนกลับธรรมชาติได้ คุณหมอจะขอติดตามอาการของน้องจนกว่าจะหายเป็นปกติ

ชวนส่งกำลังใจให้น้องคำแก้วเต่าปูลูแห่งอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัยเดลินิวส์