ปีหน้า ปี 2568 “เทรนด์สุขภาพ” ก็น่าจะยังมาแรงต่อเนื่องเหมือนกับปีนี้ ทำให้ผู้ประกอบการที่กำลังสนใจ หรือกำลังพัฒนาสินค้ากลุ่มนี้จำเป็นต้องติดตามและศึกษาหาข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อมาอัพเดทอยู่เป็นระยะ ที่วันนี้คอลัมน์นี้ก็มีข้อมูลน่าสนใจ ในแง่วิชาการเกี่ยวกับ “ผลิตภัณฑ์สุขภาพ” ในกลุ่มของ “เครื่องดื่มชาหมัก” หรือ “คอมบูฉะ” มาฝากกัน

ใช้นวัตกรรมวิจัยขยายโอกาสสร้างโอกาสให้ธุรกิจคอมบูฉะเดลินิวส์

สำหรับข้อมูลเรื่องนี้ รศ.ดร.นิษก์นิภา สุนทรกุล หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยคุณภาพสูงนวัตกรรมยีสต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ให้ข้อมูลว่า คอมบูฉะ หรือ คอมบูชา (Kombucha) คือเครื่องดื่มชาหมักที่มีจุลินทรีย์ชนิดดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยแบคทีเรียและยีสต์บางชนิดที่พบในชาหมักเป็นจุลินทรีย์ใน กลุ่มโปรไบโอติกส์ (Probiotics) ที่ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ กับช่วยลดจำนวนแบคทีเรียไม่ดี ทำให้ลำไส้ทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดีย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ในกระบวนการหมักชาเพื่อผลิตคอมบูฉะยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากใบชาอีกด้วย ที่กลายมาเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เครื่องดื่มประเภทนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มของคนรักสุขภาพ โดยปัจจุบันการบริโภคคอมบูฉะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศโซนอเมริกา แคนาดา ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่มีแนวโน้มการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าขนาดตลาดคอมบูฉะทั่วโลกน่าจะมีมูลค่า 13.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2029 และมีอัตราเติบโตต่อปีที่ 25% โดยผลิตภัณฑ์คอมบูฉะที่เป็นที่นิยมในต่างประเทศนั้น ได้แก่ ชาหมักด้วยสโคบี้ ที่เป็นกลุ่มแบคทีเรียและยีสต์ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน โดยเป็นผลิตภัณฑ์คอมบูฉะที่ได้รับความนิยมสูงในต่างประเทศ และมีราคาสูงเนื่องจากให้คุณค่าทางโปรไบโอติกส์อย่างแท้จริง เพราะเป็นชาหมักที่มีเชื้อจุลินทรีย์ดีที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ทราบก็คือ ผลิตภัณฑ์คอมบูฉะบรรจุขวดปิดสนิทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในบ้านเรานั้น จะต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิที่สูงมาก แม้จะมีข้อดีคือกำจัดจุลินทรีย์ที่เป็นโทษซึ่งอาจจะปนเปื้อนในระหว่างการผลิตได้ แต่ผู้บริโภคอาจจะไม่ได้ประโยชน์หรือคุณค่าทางอาหารอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านโปรไบโอติกส์ เพราะจุลินทรีย์โดยเฉพาะแบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ทนความร้อนสูงจะตายไปด้วย หรือเหลือรอดน้อยมาก อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระก็เหลือค่อนข้างน้อย เนื่องจากถูกทำลายไปกับความร้อน

ใช้นวัตกรรมวิจัยขยายโอกาสสร้างโอกาสให้ธุรกิจคอมบูฉะเดลินิวส์

อย่างไรก็ดี แต่ปัญหานี้อาจมีทางออก โดย รศ.ดร.นิษก์นิภา เผยว่าจากการทำวิจัยกว่า 16 ปี ทีมวิจัย มจธ.ได้ศึกษาและพัฒนาคุณสมบัติยีสต์สายพันธุ์ต่าง ๆ จนได้ “ซุปเปอร์ยีสต์ (Super Yeast)” ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้การนำไปประยุกต์ใช้ทางอุตสาหกรรมและการแพทย์ จึงเป็นที่มาของ “โปรไบโอติกส์ซุปเปอร์ดริ้ง สปาร์คกลิ้ง ยีสต์คอมบูฉะ” ที่ยังคงคุณค่าโปรไบโอติกส์ไว้ได้ครบถ้วน เนื่องจากSuper Yeast ที่พัฒนาได้นี้เป็นกลุ่มยีสต์โปรไบโอติกส์ที่มีความแข็งแรงสูง และทนทานต่อการหมักได้ดี ทำให้มีชีวิตรอดในอุณหภูมิที่สูงได้ ซึ่งคุณสมบัติของซุปเปอร์ยีสต์ที่ว่านี้ น่าจะส่งผลดีและมีประโยชน์ต่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชาหมัก หรือเครื่องดื่มคอมบูฉะของไทย ที่จะมีโอกาสเพิ่มศักยภาพการพัฒนาสินค้าของไทยส่งออกไปตีตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ในตลาดต่างประเทศ และนี่ก็เป็นข้อมูลวิชาการน่าสนใจ ซึ่งเอสเอ็มอีที่เกี่ยวข้องน่าพิจารณา.

ใช้นวัตกรรมวิจัยขยายโอกาสสร้างโอกาสให้ธุรกิจคอมบูฉะเดลินิวส์

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]

ใช้นวัตกรรมวิจัยขยายโอกาสสร้างโอกาสให้ธุรกิจคอมบูฉะเดลินิวส์