【xxxพม่า】DSI จ่อส่งหนังสือถึง ปคบ. ขอทราบประเด็นสอบดิไอคอน ก่อนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ | เดลินิวส์

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการนัดหมายประชุมหารือวาระสำคัญในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด The iCon Group Co., Ltd. ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม เพื่อพิจารณาองค์ประกอบความผิดตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 นำโดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ

จ่อส่งหนังสือถึงปคบขอทราบประเด็นสอบดิไอคอนก่อนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษเดลินิวส์

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการเชิญ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานสอบสวนอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมาประชุมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานกรณีหากคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จะถูกรับมาดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เบื้องต้น รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ หรือกองคดีแชร์ลูกโซ่ มีหนังสือประสานไปยัง บก.ปคบ. ขอรับทราบประเด็นผลการสอบสวน พฤติการณ์ทางคดี พยานหลักฐานที่ได้มาจากการรวบรวมข้อเท็จจริงต่าง ๆ และตำรวจได้ดำเนินการสิ่งใดไปแล้วบ้าง เพื่อให้มีข้อมูลตั้งต้นในการประสานงานในการดำเนินการคู่ขนาน เดิมก่อนหน้านี้ดีเอสไอใช้การประสานข้อมูลโดยต่างคนต่างใช้อำนาจของตนในการทำหน้าที่ แต่วันนี้จะมีหนังสือประสานงานอย่างเป็นทางการเพื่อเอาข้อมูลมาดูทั้งสองฝั่ง ทั้งนี้ ตามหลักการ หากดีเอสไอพิจารณาข้อมูลที่ได้รับมาและพบว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายของดีเอสไอจริง จึงจะทำหนังสือแจ้งกลับ บก.ปคบ. ว่า รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับดำเนินการเป็นคดีพิเศษ เรียบร้อยแล้ว

จ่อส่งหนังสือถึงปคบขอทราบประเด็นสอบดิไอคอนก่อนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษเดลินิวส์

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าตอนนี้ตำรวจ บก.ปคบ. ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่นั้น พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า ตามที่ได้เรียนแจ้งว่าเราทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ หากสิ่งใดที่สนับสนุนได้ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็ได้มอบนโยบายว่าให้กองคดีที่เกี่ยวข้องไปร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจ

จ่อส่งหนังสือถึงปคบขอทราบประเด็นสอบดิไอคอนก่อนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษเดลินิวส์

พ.ต.ต.วรณัน เผยต่อว่า ส่วนการดำเนินการของดีเอสไอในตอนนี้ จะสามารถบอกได้หรือไม่ว่าแผนธุรกิจดังกล่าวเข้าข่ายในฐานความผิดใดนั้น คงยังต้องขอดูข้อเท็จจริงก่อน ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ แต่หากมีประเด็นสำคัญใด ๆ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ให้ข้อเท็จจริงต่อสาธารณะในภายหลังแทน อย่างไรก็ตาม ประเด็นมูลค่าความเสียหาย และจำนวนผู้เสียหาย ณ ปัจจุบันที่เข้าเกณฑ์การรับเป็นคดีพิเศษนั้น ตนต้องชี้แจงว่า เข้าใจดีว่าคนไทยทั่วประเทศ และดีเอสไอเข้าใจดีอยู่แล้วว่ามันกระทบต่อความสงบเรียบร้อย เพียงแต่เขตอำนาจที่จะบอกว่าคดีใดเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในส่วนนี้ดีเอสไอได้ทำงานประสานกับทางตำรวจอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ในกรณีหากดีเอสไอรับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เป็นคดีพิเศษ ทางตำรวจก็จะได้สนับสนุนการปฏิบัติเพื่อทำงานร่วมกัน หรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่ตำรวจทำงานเป็นหลัก ดีเอสไอก็ได้เข้าไปซัพพอร์ตการทำงานของตำรวจเช่นกัน

จ่อส่งหนังสือถึงปคบขอทราบประเด็นสอบดิไอคอนก่อนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษเดลินิวส์

พ.ต.ต.วรณัน เผยด้วยว่า เรื่องที่มีผู้เสียหายมองว่าเหตุใดตำรวจสอบสวนล่าช้า ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ถูกร้องกล่าวโทษนั้น ในความเห็นของตนไม่ได้มองว่าตำรวจทำงานสืบสวนสอบสวนคดีล่าช้า เพราะตอนนี้ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายเกือบ 1,000 ราย และทำหน้าที่เต็มที่ ขณะที่ดีเอสไอจะมีความชำนาญเรื่องเส้นทางการเงิน เราจึงสนับสนุนข้อมูลในส่วนนี้ เช่น ดีเอสไอได้ตรวจสอบงบการเงินของบริษัท พบความผิดปกติหลายประเด็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้-รายจ่าย และเรื่องงบดุลของบริษัท อาทิ ต้องตรวจสอบงบการเงินย้อนหลังไปในปี 2562 (ตอนเริ่มธุรกิจ) ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูล

จ่อส่งหนังสือถึงปคบขอทราบประเด็นสอบดิไอคอนก่อนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษเดลินิวส์

พ.ต.ต.วรณัน ระบุด้วยว่า การทำงานของดีเอสไอในตอนนี้ เราดูประมาณ 2-3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ได้แก่ เป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ และหากเป็นคดีความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ที่ไม่ใช่คดีในอำนาจ เงินที่หมุนเวียนเข้าลักษณะของการฟอกเงินหรือไม่ ถ้ามูลฐานเป็นคดีอาญาอื่นแล้วมีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนนี้จะเป็นประเด็นเรื่องการฟอกเงินที่ดีเอสไอจะเข้าไปรับผิดชอบได้ คาดว่าจึงอาจมีหลายฐานความผิดที่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ ทั้งกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายการฟอกเงิน กฎหมายภาษี

จ่อส่งหนังสือถึงปคบขอทราบประเด็นสอบดิไอคอนก่อนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษเดลินิวส์