เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 68 น.ส.นันท์นภัส ตันมิ่ง พนักงานแบงก์ในจังหวัดเลย ได้ร้องต่อชมรมสื่อเสรีเลย ว่าหลานชายจบการศึกษาที่วิทยาลัยเทคนิคเลย ระดับ ปวส.เข้าโครงการนักศึกษาฝึกงานที่เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ไปฝึกงานมากว่า 2 ปี ใกล้จะกลับประเทศไทย ได้สูญหายไปเดือนกว่า ญาติๆ ติดต่อไม่ได้ และเพิ่งรู้ว่าได้เสียชีวิตในร้านอาหารไทยในเมืองฮิโรชิม่า ทางญาติได้พยายามติดตามทั้งติดต่อกงสุลที่ญี่ปุ่น กงสุลในไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และบริษัทที่ดูแลนักศึกษาฝึกงาน ต่างเงียบหายไม่มีคำตอบให้มานานนับเดือน จึงขอร้องสื่อเพื่อสื่อถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือในเรื่องของคดีและนำกระดูกกลับเมืองไทย

กลัวเรื่องเงียบร้องสื่อถึงนายกฯอิ๊งค์ช่วยคดีหลานเสียชีวิตปริศนาที่ญี่ปุ่นเดลินิวส์

น.ส.นันท์นภัส เผยว่า ตนมีศักดิ์เป็นน้าของนายกรณพัฒน์ พรมสุ่ง หรือน้องนัท ซึ่งเป็นคนอำเภอเชียงคาน จ.เลย จบการศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเลย ระดับ ปวส. ได้ร่วมโครงการนักศึกษาฝึกงานที่จังหวัดฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น มีสัญญา 3 ปี โดยได้เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22 เมษายน 65 และมีกำหนดกลับประเทศไทยวันที่ 22 เมษายน 68 โดยได้เข้าทำงานกับบริษัทนายจ้าง CHUZOSHO CO.LTD สหกรณ์ HIROSHIMA SOKEIZAI CENTER

กลัวเรื่องเงียบร้องสื่อถึงนายกฯอิ๊งค์ช่วยคดีหลานเสียชีวิตปริศนาที่ญี่ปุ่นเดลินิวส์

โดยวันที่ 21 ธันวาคม 67 น้องนัท มีกินเลี้ยงกันที่หอพักคนงานที่ทางบริษัทจัดเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า หลังเสร็จงานคนงานรวมทั้งน้องนัทก็ได้ชวนกันไปต่อที่ร้านอาหารไทย ในเมืองฮิโรชิม่า ก่อนจะเดินทางน้องนัทได้ไลน์และถ่ายทอดสดมาให้ตนและแฟนของน้องนัทที่อยู่ประเทศไทยดู ซึ่งร้านดังกล่าวห่างจากที่ทำงานประมาณ 50 กิโลเมตร จึงเช่าเหมารถแท็กซี่เดินทางไปร่วมกับเพื่อนด้วยกันทั้งหมด 10 คน ขณะอยู่ในร้านยังไลน์ให้แฟนดูตลอด จนถึงช่วงประมาณตี 2 เวลาในประเทศไทย ก็ขาดการติดต่อไป ต่อมาเช้าวันใหม่แฟนสาวน้องนัทติดต่อไปแต่ติดต่อไม่ได้ สอบถามเพื่อนๆ ที่ไปด้วย แจ้งว่าไม่เห็นตั้งแต่เมื่อคืน ตามหาไม่พบจนคิดว่าอาจกลับไปที่พักก่อนแล้ว

กลัวเรื่องเงียบร้องสื่อถึงนายกฯอิ๊งค์ช่วยคดีหลานเสียชีวิตปริศนาที่ญี่ปุ่นเดลินิวส์

จากวันนั้นทางตน ญาติๆ และแฟนสาว ก็ไม่ได้รับการติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Line หรือ Facebook จึงประสานงานไปทางโครงการที่ส่งน้องไปปฏิบัติงาน และได้เข้าการแจ้งความคนหายแล้ว เมื่อที่ 23/12/2567 และตรวจสอบกับโรงพยาบาลต่างๆ ไม่ปรากฏว่ามีการเข้ารักษาตัว หรืออุบัติเหตุอย่างใด โครงการฯ ได้ประสานงานตรงไปที่กรมแรงงานเเต่ก็ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม และตนได้โทรฯ ทางไกลไปร้านอาหารไทย ที่น้องนัทไปเที่ยวก็ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่าพบตัวน้องนัท สภาพเสียชีวิตแล้วใต้บันไดฉุกเฉินในร้านอาหารไทยที่ไปเที่ยว

กลัวเรื่องเงียบร้องสื่อถึงนายกฯอิ๊งค์ช่วยคดีหลานเสียชีวิตปริศนาที่ญี่ปุ่นเดลินิวส์

ทั้งนี้ก่อนหน้าจะรู้ว่าน้องนัทเสียชีวิต ทางญาติก็ได้พยายามทั้งโทรศัพท์และทำหนังสือไปถึงกงสุลไทยที่ประเทศญี่ปุ่น และกงสุลไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน ต่างเงียบหายไม่มีคำตอบอะไรออกมา จนรู้ว่าพบร่างน้องนัทแล้ว ก็พยายามติดต่อหน่วยงานเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด

กลัวเรื่องเงียบร้องสื่อถึงนายกฯอิ๊งค์ช่วยคดีหลานเสียชีวิตปริศนาที่ญี่ปุ่นเดลินิวส์

ทางญาติก็พร้อมจะไปรับศพกลับมาเมืองไทย อยากทราบแนวทางคดีและการรับศพกลับมา สำหรับตนเชื่อน้องนัทถูกฆาตกรรมแน่นอน น้องนัท อายุ 25 ปี มีอนาคตอีกไกล และยังเป็นกำพร้าพ่อที่เสียชีวิตไปเมื่อเกิดมาได้ 1 ปี 8 เดือน ตาและยายจึงเอามาเลี้ยง ตนฐานะเป็นน้าจึงสนิทสนมกันมาก และกิจวัตรต้องส่งไลน์มาบอกไม่เคยขาด จึงอยากจะวิงวอนสื่อเพื่อจะสื่อไปถึงผู้มีอำนาจ ถึงท่านแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลืออย่างน้อยขอเอากระดูกกลับมาไทย ทางญาติอยากจะประสานทางญี่ปุ่น และแนวทางเรื่องของคดี และพร้อมจะเดินทางไปรับน้องกลับมาประเทศไทย ตนและญาติต่างร้อนใจประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบต่างเงียบหายไม่มีคำตอบอะไร หรือความคืบหน้าอะไรมาเลย

กลัวเรื่องเงียบร้องสื่อถึงนายกฯอิ๊งค์ช่วยคดีหลานเสียชีวิตปริศนาที่ญี่ปุ่นเดลินิวส์