ปี 2567 ที่ใกล้จะผ่านพ้นไปนับเป็นอีกปีที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลาย ๆ ด้าน รวมถึงวิถีชีวิตผู้คน โดย “ทีมวิถีชีวิต” ก็ได้มีการนำเสนอ “เรื่องราวชีวิตน่าสนใจ” ของคนทุกเพศทุกวัยหลากหลายสาขา ซึ่งต่างก็มี “วิธีคิดดี ๆ” ที่อาจจะเป็น “ข้อคิดดี ๆ”ให้กับหลาย ๆ คนได้ ทั้งนี้ ในโอกาสจะก้าวผ่านสู่ปีใหม่ 2568 ในไม่ช้าไม่นานจากนี้ “ทีมวิถีชีวิต” ก็พลิกแฟ้มประมวลตัวอย่าง “วิถีชีวิตสาวเด่น ปี 2567” มาสะท้อนย้ำไว้โดยสังเขป ซึ่งจะเป็นวิถีชีวิตน่าสนใจของใครกันบ้าง มาดูกัน

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

โดนัท-ฟอริดา สุขสว่าง

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

“ตอนเด็กเคยจมน้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด จนแม่สั่งห้าม ทำให้มีปมตั้งแต่เด็ก เพราะชอบว่ายน้ำ พยายามขอแม่อยู่พักใหญ่กว่าแม่จะยอม จากนั้นก็พยายามจะว่ายน้ำให้เป็นให้ได้ ไปเรียนว่ายน้ำแบบจริงจัง จนว่ายน้ำเป็น จนเอาตัวรอดในน้ำได้” เป็นคำบอกเล่าของ “โดนัท-ฟอริดา สุขสว่าง” สาวสวยที่ได้รับฉายา “เมอร์เมดเมืองไทย” จากการงานที่ทำ คือ “อาชีพนางเงือกโชว์”ที่เป็นงานใต้น้ำที่เสี่ยงบนความเป็นความตาย!! แต่ก็เป็นงานที่เธอชอบ ที่หลงรัก และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มเด็ก ๆ ที่เข้ามาชมโชว์ของเธอ โดยโดนัทเล่าถึงเส้นทางสู่อาชีพไว้ว่า เกิดขึ้นหลังจากได้ดูการว่ายน้ำท่านางเงือกของต่างประเทศ ทำให้สนใจอยากลองทำดูบ้าง จึงศึกษาจากยูทูบและฝึกหัดเอง โดยเวลาลงไปว่ายเธอจะตั้งกล้องถ่ายไว้ แล้วนำไปลงในโซเชียล จนมีพี่ที่เป็นหัวหน้าทีมนางเงือกซึ่งจัดโชว์ในอควาเรียมติดต่อมาหาให้เธอลองไปทดสอบ ซึ่งหลังจากวันนั้นพี่คนนี้ก็เงียบหายไป 6 เดือน แต่ที่สุดเธอก็ได้รับการติดต่อให้ไปแสดงเป็น “นางเงือกโชว์” งานแรก ที่ จ.ระยอง โดนัทเล่าจุดเริ่ม พร้อมเล่าอีกว่า ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าที่ไทยมีอาชีพนี้หรือไม่ ซึ่งเธอก็ฝึกเองซ้อมเองจนว่ายพอได้ แต่ไม่เคยใส่ชุดของจริงเลย พอได้ลองก็พบว่าเป็นชุดที่หนักมาก ทำให้ตอนใส่ว่ายน้ำลำบากมาก อีกทั้งอาชีพนี้ก็ยังมีทักษะและเทคนิคมากมายที่ต้องฝึกฝนอย่างหนัก ซึ่งสาเหตุที่เล่าเรื่องนี้เพราะอยากให้คนอื่นรู้ว่า “อาชีพนางเงือกโชว์เป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะและร่างกายอย่างมาก ไม่ใช่ใคร ๆ ก็จะเป็นได้เลย”อีกทั้งเวลาจะลงน้ำโชว์แต่ละครั้งก็จะต้องเตรียมร่างกายกับจิตใจให้พร้อม ร่างกายต้องพร้อมมากที่สุด และเมื่อคิวแสดงเริ่มรัน ในระหว่างช่วงการโชว์จะไม่มีหยุดพักเลยตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง ทำให้หลังจบคิวแสดงแต่ละครั้งจะต้องพักอย่างน้อย 2 วันเต็มๆส่วนคำถามที่ว่าความเสี่ยงในอาชีพกับรายได้คุ้มไหม?โดนัท บอกไว้ว่า แม้รายได้จะไม่เยอะ แต่ก็ถือว่าคุ้ม ซึ่งคุ้มที่ว่าไม่ได้หมายถึงตัวเงิน แต่เป็นความสุขที่เห็นผู้ชมชอบการแสดงมากกว่า และเธอยังย้ำว่า “ไม่ได้ทำอาชีพนี้เป็นอาชีพหลัก แต่เป็นงานเสริมที่รักและอยากทำมากกว่าจะหากำไร”

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

มด-ปุญญิศา อั่วทู

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

“ช่วงเป็นเด็กชอบคิดมากเพราะน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่เหมือนคนอื่น แถมเพื่อนยังชอบมาล้อเรื่องสัญชาติ ยิ่งช่วงกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย พ่อแม่ก็ยิ่งกังวลเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าเรียนจบมาแล้วเราจะทำงานไม่ได้” นี่เป็นบางช่วงบางตอนช่วงวัยเยาว์ของ “มด-ปุญญิศา อั่วทู” เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ “ฟาร์มน้องมดไก่ไข่อารมณ์ดี จ.ราชบุรี” และยังเป็น “สาวกะเหรี่ยงติ๊กต็อกเกอร์คนดัง” ที่มีแฟนคลับติดตามล้นหลาม จากความสดใสน่ารักและอารมณ์ดีของเธอ โดยเธอเล่าไว้ว่า ด้วยฐานะทางบ้านไม่ดี เรียนก็ไม่เก่ง อีกทั้งยังเป็นเด็กไร้สัญชาติ จึงคิดว่าเพื่อน ๆ อาจไม่อยากคบกับเธอ ซึ่งความคิดนี้ทำให้เธอรู้สึกด้อยกว่าคนอื่น แต่ที่สุดเธอก็คิดได้ว่า ข้อจำกัดนี้คงไปทำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่เธอควบคุมได้และทำได้ คือ ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด แล้วที่สุดเธอก็ทำสำเร็จ โดยจบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 และช่วงฝึกงานเธอก็ยังได้รับข่าวดีคือการได้รับสัญชาติไทย ซึ่งเธอบอกว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต โดยหลังเรียนจบ และเมื่อได้สัญชาติไทย เธอก็เริ่มต้นทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศในกรุงเทพฯ จนมาเกิดโควิด-19 เธอก็คิดอยากจะมีอาชีพเสริม โดยเธอนั่งคิดกับแฟน (หรั่ง-ยุทธพงศ์ สุกแตง) ว่าจะทำอะไรดี สุดท้ายก็เลยเริ่มจากการเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งเธออยากเลี้ยงไก่แบบปล่อย อยากเลี้ยงไก่ให้อารมณ์ดีกว่าเลี้ยงแบบใส่กรง เพราะเธออยากให้ทั้งไก่และคนมีความสุขไปด้วยกัน ซึ่งเธอบอกว่า “การเลี้ยงไก่ให้อารมณ์ดีช่วยได้เยอะมากนอกจากช่วยให้มีรายได้มาแบ่งเบาค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยบำบัดจิตใจได้ด้วย”โดยเธอเองนั้น จากคนที่เสี่ยงเป็นซึมเศร้า พอมาเลี้ยงไก่ ก็รู้สึกเลยว่าจิตใจดีขึ้น ทำให้เธออามณ์ดีขึ้น ทั้งนี้ จาก “คนเลี้ยงไก่” เธอยังก้าวสู่วงการ “ยูทูบเบอร์-ติ๊กต็อกเกอร์” ด้วย โดยระหว่างเลี้ยงไก่เธอถ่ายคลิปไปลงยูทูบกับติ๊กต็อก จนมีคนติดตามเพิ่มขึ้นก็เริ่มมีงานติดต่อเข้ามา จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาทำเต็มตัว โดยหลังเปลี่ยนมาทำอาชีพใหม่ ทำให้มีเงินเปิดร้านขายของชำให้พ่อแม่ได้ รวมถึงมีทุนเปิดคาเฟ่ของตัวเอง ส่วนฝันต่อไปนั้น มด บอกไว้ว่า “ที่อยากให้เป็นจริงที่สุด คือ อยากเป็นเกษตรกรที่มีความสุขที่สุด”

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

เอ๋ย-สุธาดา จงใจพระ

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

“เป็นโรคไม่มั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่ได้การขี่มอเตอร์ไซค์ช่วยเยียวยาและทำให้กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง” เป็นการระบุจาก “เอ๋ย-สุธาดา จงใจพระ” อดีตเกิร์ลกรุ๊ปวง SHUU ที่ก้าวสู่เส้นทาง “สาวไบค์เกอร์” เต็มตัวและมีแฟนคลับมากมายติดตามเรื่องราวการเดินทางของเธอด้วยรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Chaoey Ride” โดยจุดเริ่มต้นที่เข้าสู่วงการจนมาเป็นสาวไบค์เกอร์ เริ่มจากที่เธอชอบท่องเที่ยว และมีกลุ่มเพื่อน ๆ ที่เป็นสายขี่บิ๊กไบค์ท่องเที่ยวระยะทางไกล ๆ เธอจึงถูกชวนให้ลองขี่ ทั้งที่ไม่มีเรื่องนี้ในหัวเลย และพอเธอได้ซ้อนท้ายเพื่อนบ่อย ๆ ก็เริ่มอยากที่จะลองขี่บ้าง โดยเมื่อตัดสินใจจะเริ่มขี่ เธอก็เริ่มฝึกจากรถบิ๊กไบค์เลย แต่ด้วยความไม่มีทักษะทำให้ล้ม แม้จะไม่ได้ล้มแรง แต่ก็ทำให้กลัว จนรู้สึกไม่กล้าขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ๆ แต่ความคิดที่มีอยู่ก็ยังไม่เลิกล้ม เธอจึงหันไปมองมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดเล็กลง โดยเมื่อเธอได้ลองขี่มอเตอร์ไซค์ Honda รุ่น CT125 ก็รู้สึกชอบมาก จึงตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มาเป็นรถคู่ใจคันแรกในชีวิต เธอบอกเรื่องนี้ พร้อมเล่าถึงอีกจุดเปลี่ยนทำให้มาขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวว่า แต่ก่อนเธอเป็นคนขาดความมั่นใจมาก และคิดมากถึงขั้นจะเป็นซึมเศร้า เธอจึงไปปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งคุณหมอแนะนำว่าให้ลองหากิจกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างความมั่นใจให้ตัวเองดู สุดท้ายเธอก็เลย “เลือกการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นตัวช่วยบำบัด” เพราะเวลาที่ขี่ไปท่องเที่ยว ความรู้สึกของเธอเหมือนเล่นเกมผ่านแต่ละด่านได้ไปเรื่อย ๆ และประโยชน์ที่ได้จากการขี่มอเตอร์ไซค์ที่เธอสัมผัสได้อีกอย่างก็คือ เธอรู้สึกว่าตัวเองมีสติ มีสมาธิเพิ่มขึ้น ยิ่งทุกครั้งที่เธอสามารถไปถึงจุดหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ ก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจ จนทำให้เธอหลงรักการขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยว และติดการขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวไปเลย ถึงขนาดยอมลางานไปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวกับเพื่อน ๆ เลยทีเดียว โดย เอ๋ย ยังย้ำไว้ว่า “เวลาขี่รถเหมือนเราได้ฝึกจิตฝึกสมาธิ เพราะเวลาขี่จิตจะต้องนิ่งและมีสมาธิ ทำให้รู้ภาวะอารมณ์ตัวเองมากขึ้น ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะเวลาเจอปัญหาอุปสรรคอะไร ก็จะสามารถผ่านมันไปได้”

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

สมาย-ชุติกาญจน์ เหิรอดิศัย

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

“ไม่ได้คิดว่าการตัดสินใจของเรายิ่งใหญ่อะไร แค่อะไรทำได้ก็ทำไปก่อน ตอนนั้นยังเด็ก เราช่วยเรื่องเงินก็ไม่ได้ ไปทำงานข้างนอกก็ไม่ได้ ก็เลยมาช่วยงานที่อู่ซ่อมรถของคุณพ่อ อีกอย่างที่ตัดสินใจเป็นช่างซ่อมรถ เพราะคิดว่าสุดท้ายถึงเรียนจบก็คงทำสิ่งนี้อยู่ดี ก็เลยเลือกทางนี้” นี่เป็นการตัดสินใจของ “ช่างซ่อมรถสาวคนดัง อย่าง “สมาย-ชุติกาญจน์ เหิรอดิศัย” ที่ได้บอกเล่าไว้เกี่ยวกับเส้นทางนี้ของเธอ แถมไม่ได้ทำเล่น ๆ แต่ถึงขั้นเปิดธุรกิจอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองในชื่อ “สมายการช่าง” อีกด้วย โดยเธอบอกว่า อาชีพช่างซ่อมรถนี้ ไม่ได้เพิ่งมาทำแค่เดือนสองเดือน แต่ยึดอาชีพนี้ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองมากว่า 10 ปีแล้ว โดยเธอเริ่มเป็นช่างซ่อมเต็มตัวตอนที่อายุแค่เพียง 14 ปี ซึ่งลูกค้าเก่าแก่ทุกคนต้องจำเธอได้ กับภาพเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ก้มหน้าก้มตาซ่อมรถ อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่า บางคนติดภาพว่าอาชีพช่างซ่อมรถเป็นพื้นที่สำหรับผู้ชาย จึงมีอคติกับช่างผู้หญิง และก็ไม่ใช่กับคนทั่วไปเท่านั้น กับช่างด้วยกันเองก็ยังมีอคติแบบนี้เช่นกัน ซึ่งเธอเล่าไว้ว่า มีครั้งหนึ่งได้ติดต่อไปที่อู่ของช่างผู้ชายที่โตกว่า เพื่อที่จะคุยเรื่องอะไหล่ เผื่อจะมาเป็นพาร์ตเนอร์กัน แต่ฝั่งนั้นตอบกลับมาว่าไม่คุยด้วย พร้อมกับบอกว่าตัวเธอเป็นแค่นักแสดง ไม่ใช่ช่างซ่อมรถจริง ๆ ซึ่งเธอก็เข้าใจ เพราะฝ่ายนั้นอาจจะคิดว่าที่เห็นเธอซ่อมรถก็คงแค่ทำคอนเทนต์ ไม่ได้ซ่อมจริง ๆ ซึ่งเธอไม่ได้เก็บมาคิด เพราะ “คนที่รู้จักตัวเราดีที่สุดคือตัวเราเอง” ทั้งนี้ นอกจากคำดูถูกว่าไม่ได้เป็นช่างจริง ๆ แล้ว อีกสิ่งที่โดนเยอะไม่แพ้กัน และ เป็นเรื่องที่เธอยอมไม่ได้ ก็คือ การ Sexual Harassment เพราะด้วยการที่เธอมีภาพลักษณ์เซ็กซี่นอกเวลางาน ทำให้บางครั้งจึงถูกคุกคามทางเพศ หรืออย่างตอนกำลังไลฟ์สดอยู่ ก็มักจะมีคนเข้ามาคอมเมนต์ไม่ดีซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าประทับใจที่เคยเผชิญ อย่างไรก็ดี สมาย ยืนยันไว้ว่า “พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิง เพราะเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนทำอะไรได้ทุก ๆ อย่างไม่แตกต่าง ไม่แพ้ผู้ชาย”

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

เมย์มี่-พัชารียา ป้อมวงศ์

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

“ตอนแรกไม่ได้คิดจะจริงจัง ทำเป็นงานอดิเรก แต่เวลาไปเดินสายก็จะถ่ายคลิปลงยูทูบไว้ด้วย จนมีคนสนใจเยอะก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเป็นนักตกปลาแบบจริงจัง” เป็นจุดเริ่มต้นของ “เมย์มี่-พัชารียา ป้อมวงศ์” สาวสวย “ยูทูบเบอร์สายตกปลา” ที่มีช่องยูทูบชื่อ “MAYME” กับเฟซบุ๊กเพจ “MAYME เมย์มี่” ซึ่งมีแฟนคลับหลงเสน่ห์นักตกปลาสาวคนนี้อย่างล้นหลาม ซึ่งเธอเล่าว่า ไม่ได้เป็นคนชอบการตกปลามาก่อน จึงไม่เคยคิดว่าจะกลายมาเป็นนักตกปลา โดยก่อนหน้าที่จะมามุ่งกับการตกปลา เธอก็เป็นเหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่รักสวยรักงาม กลัวแดดกลัวดำ ดังนั้นกิจกรรมตกปลาจึงไม่เคยมีอยู่ในหัว โดยก่อนหน้าที่จะลาออกจากงานมาเปิดช่องทำยูทูบตกปลานั้น เธอทำงานเป็นครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาอังกฤษกับภาษาจีนให้เด็ก ๆ ชั้นประถม แต่พบจุดเปลี่ยนชีวิตหลังได้ลองจับคันเบ็ดตกปลาครั้งแรก ซึ่งได้ออกทริปตกปลามาเรื่อย ๆ และเมื่อนานเข้าจากความสนุกก็กลายเป็นความหลงรักและหลงใหล โดยจากวันแรกถึงวันนี้ก็นานมากกว่า 10 ปีแล้ว โดยเธอพูดถึงเสน่ห์ของการตกปลาในมุมมองของเธอว่า “การตกปลามีทั้งความสนุกและความเร้าใจโดยเฉพาะตอนที่ปลากินเบ็ดและได้เย่อกับปลาที่ออกแรงสู้เบ็ด” ดังนั้นเธอจึงหลงใหลการตกปลา จนถึงขั้นเคยยืนตกปลาตั้งแต่เช้ายันเย็น 12 ชั่วโมง เธอก็เคยทำมาแล้ว อย่างไรก็ดี แต่การเป็น “นักตกปลาผู้หญิง” ก็มีความยากลำบากเหมือนกัน โดยเรื่องใหญ่สุดคือห้องน้ำที่เป็นปัญหากับนักตกปลาผู้หญิงมาก แต่หลังออกทริปบ่อย เธอก็เริ่มปรับตัวได้ ทำให้ตอนนี้ถ้าปวดปัสสาวะ เธอก็จะเข้าป่าเลย ซึ่งแรก ๆ อาจจะมีเขิน ๆ บ้าง แต่พอผ่านไปสักระยะก็จะชินไปเองในที่สุด ส่วนเรื่องอาบน้ำนั้น ไม่อาบก็ไม่เป็นไร ทั้งนี้ สาวสวยนักตกปลาคนนี้เธอยังเล่าอีกว่า ช่วงแรก ๆ ที่ทำคลิปลงยูทูบ เธอจะออกแนวบู๊มาก เรียกว่าลุยได้ทุกที่ แต่หลัง ๆ ด้วยความที่อายุมากขึ้น จะบู๊แบบเดิมก็ไม่ไหว อีกทั้งมองว่าการเสพคอนเทนต์ของคนดูเปลี่ยนไป เธอก็เลยหันมาขายความเป็นตัวเอง โดยนำเสนอการตกปลาในแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น ส่วนถ้าหากจะมีใครถามเธอว่า คิดจะวางคันเบ็ดอำลาวงการเมื่อไหร่? เรื่องนี้ เมย์มี่ บอกไว้ว่า “ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้ลดความโหดลงไปเยอะ ยิ่งตอนนี้หันมาเน้นทำคอนเทนต์ตกปลาแบบสนุก ๆ จึงยังไม่เคยคิดเรื่องจะวางมือ แต่ยิ่งตั้งใจว่า ถ้ายังไหวอยู่ก็คงทำต่อไป”

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

นี่ก็เป็นบางส่วน และโดยสังเขป จากเรื่องราวชีวิตที่ “ทีมวิถีชีวิต” ได้นำเสนอไว้ กับ “วิถีชีวิตสาวเด่น ปี 2567”ซึ่ง “วิธีคิด” ที่ได้สะท้อนมาข้างต้นนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศใด ๆ ก็สามารถ “ลองใช้เป็นแง่คิดกับชีวิต” ได้ ทั้งในปีเก่า ในปีใหม่ หรือแม้แต่ต่อเนื่องไปในปีต่อ ๆ ไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะวันเดือนปีใด ๆ “การมีมุมมองการใช้ชีวิตที่ดีนั้น เป็นวิถีนำไปสู่ชีวิตที่ดีได้”.

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์

ทีมวิถีชีวิต : รายงาน

สวยแซ่บมุมมองชีวิตน่าสนใจวิถีสาวดังสาวเด่นเชื่อมั่นเลือกที่รักampรักที่เลือกเดลินิวส์