ข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุว่า วิกฤติไฟป่าที่เขตลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย อาจสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้กับรัฐแคลิฟอร์เนีย สูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.72 ล้านล้านบาท ที่เป็นภัยพิบัติที่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ สำหรับรัฐแคลิฟอร์เนีย การประเมินครั้งนี้ถือว่า ทำลายสถิติไฟป่า “แคมป์ ไฟร์” ที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2561 มีมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 345,874.99 ล้านบาท

เตือนรับมือโลกที่ไม่เหมือนเดิมไฟป่ารุนแรงนํ้าท่วมฝุ่นพิษคลุมเมืองเดลินิวส์

จากประเด็นนี้ “กลอยตา ณ ถลาง” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานคาร์บอน มาร์เก็ตส์ คลับ มองว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 กลายเป็นวิกฤติที่เรื้อรังในประเทศไทย โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่สภาพอากาศมีลักษณะอุณหภูมิผกผัน ทำให้ฝุ่นละอองถูกกักอยู่ใกล้พื้นดิน สาเหตุหลักของฝุ่นพีเอ็ม 2.5 มาจาก 2 แหล่งใหญ่ คือ กิจกรรมในเมือง เช่น การจราจรและโรงงานอุตสาหกรรมและการเผาในภาคเกษตรกรรม

เตือนรับมือโลกที่ไม่เหมือนเดิมไฟป่ารุนแรงนํ้าท่วมฝุ่นพิษคลุมเมืองเดลินิวส์

ข้อมูลจากดาวเทียมล่าสุดพบว่า จุดความร้อนในพื้นที่เกษตรเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ซึ่งตรงกับฤดูกาลเผาพืชไร่ ฝุ่นเหล่านี้มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจ และมะเร็งปอด หากปัญหานี้ไม่ได้รับการจัดการที่จริงจัง ภาวะโลกร้อนอาจยิ่งทำให้ปรากฏการณ์เหล่านี้เกิดบ่อยและรุนแรงขึ้น

เตือนรับมือโลกที่ไม่เหมือนเดิมไฟป่ารุนแรงนํ้าท่วมฝุ่นพิษคลุมเมืองเดลินิวส์

อีกฟากหนึ่งของโลก รัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังเผชิญกับไฟป่าครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีปัจจัยหลักคือ ลม Santa Ana ที่มีกำลังแรง ความแห้งแล้งที่ยาวนาน และอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน ลม Santa Ana ช่วยกระพือไฟให้ลุกลามอย่างรวดเร็วในขณะที่ความแห้งแล้งทำให้พืชพรรณกลายเป็นเชื้อไฟที่ติดไฟง่าย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นส่งผลให้ไฟป่าเกิดบ่อยและรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า การพัฒนาชุมชนในพื้นที่ใกล้กับป่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงและความเสียหายจากไฟป่า

เตือนรับมือโลกที่ไม่เหมือนเดิมไฟป่ารุนแรงนํ้าท่วมฝุ่นพิษคลุมเมืองเดลินิวส์

ทั้งปัญหาฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ในไทยและ ไฟป่าในแคลิฟอร์เนียเป็นตัวอย่างของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ชัดเจน การแก้ไขจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการลดกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การลดการเผาพืชผล การพัฒนาแผนการปรับตัวต่อสภาพ
ภูมิอากาศ รวมถึงการวางแผนป้องกันภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นเครื่องเตือนใจการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไข ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของมนุษย์ในระยะยาว การปรับตัวและการวางแผนเชิงรุกจากทุกภาคส่วนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติในอนาคต เพื่อให้โลกใบนี้คงความสมดุลและน่าอยู่อย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นถัดไป

เตือนรับมือโลกที่ไม่เหมือนเดิมไฟป่ารุนแรงนํ้าท่วมฝุ่นพิษคลุมเมืองเดลินิวส์

ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อมเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิเคราะห์ว่า ไฟป่าครั้งร้ายแรงในแคลิฟอร์เนีย หายนะจากโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ขณะที่แถวบ้านเรา ภัยคุกคามอันดับแรก คือ นํ้าท่วม หากข้ามไปอเมริกาฝั่งตะวันตก หายนะ คือไฟป่า หลายปีที่ผ่านมา เราได้ยินข่าว
ไฟป่าในพื้นที่นั้นต่อเนื่อง แต่หนนี้รุนแรงและมาเร็วมาก จากปกติเข้าช่วงนี้ของปี มีไฟป่าอยู่แล้ว โลกร้อนไม่ได้สร้างไฟป่า แต่ทำให้แรงขึ้น เร็วขึ้น พินาศมากขึ้น เนื่องจากหลายสาเหตุ หลายปีติดต่อกันที่ฝนตกน้อยกว่าปกติ ทำให้สภาพป่าแห้งแล้ง เมื่อ 2-3 ปีก่อน ฝนเกิดตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดพุ่มไม้เป็นจำนวนมาก นี่คือเชื้อไฟชั้นดี หน้าหนาวปีนี้ ฝนกลับมาตกน้อยมาก ๆ ในแอลเอ ฝนตกแค่ 0.16 นิ้ว ตั้งแต่ตุลาคม ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ย 4 นิ้ว ถือเป็นเชื้อไฟ

เตือนรับมือโลกที่ไม่เหมือนเดิมไฟป่ารุนแรงนํ้าท่วมฝุ่นพิษคลุมเมืองเดลินิวส์

แล้งจัด คือปัจจัยสร้างไฟป่าค่าเฉลี่ยของวันที่เสี่ยงเจอไฟป่าพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็เป็นลม ซึ่งปกติพัดอยู่แล้วทุกปี แต่ไม่แรงพอลากไฟป่าลงมาจากเขา ผิดจากปีนี้ที่สภาพอากาศแปรปรวนสูง ลมแรงจัดจนกระชากไฟเข้าชุมชน กลายเป็นหายนะของผู้คนที่หมดตัวในพริบตา จะเห็นว่าโลกร้อนทำให้ความเสี่ยงแต่ละปัจจัยที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อทุกอย่างประจวบเหมาะ จากภัยธรรมดาก็กลายเป็นหายนะ สถานการณ์มีแต่สาหัสขึ้น เหมือนกันหมดทั้งปะการังฟอกขาว หญ้าทะเลพินาศ พะยูนตาย นํ้าท่วม ไฟป่า ฯลฯ ทุกอย่างที่รุนแรงขึ้นจากโลกร้อน แก้ที่ต้นเหตุไม่ได้ แก้ตรงปลายเหตุ จึงยํ้าเตือนเสมอโลกเปลี่ยนไปแล้ว หาความรู้ให้มากเพื่อเข้าใจ เปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับโลกยุคใหม่ อย่าไปถวิลหาโลกยุคก่อนหรือรอให้ใครมาช่วย เรียนรู้เรื่องความเสี่ยงจากโลกร้อนให้มาก ๆ ไม่งั้นเราจะแย่!!!.

เตือนรับมือโลกที่ไม่เหมือนเดิมไฟป่ารุนแรงนํ้าท่วมฝุ่นพิษคลุมเมืองเดลินิวส์