【ตรวจหวยฮานอยextra】ครีเอเตอร์สูงวัย สะใภ้ถิ่นน้ำหอม ‘มาดามติ๋ม - วิยะดา ชื่นตา’ ต้องขออภัย ‘ชีวิตยังไม่สะดวกแก่’ | เดลินิวส์

หนึ่งในภาพจำที่คนรุ่นใหม่ ๆ มักจะมีกับ “กลุ่มผู้สูงวัย” ก็คือ ความไม่เข้าใจ และการไม่เท่าทันต่อเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้หลาย ๆ ครอบครัวที่มีคนหลากรุ่นหลายเจเนอเรชันเกิดปัญหาในเรื่องของ “ช่องว่างระหว่างวัย” ระหว่างเด็กรุ่นใหม่ กับผู้สูงอายุ จนปรามาสผู้สูงอายุว่า “เป็นคนแก่ไม่ทันโลก” อย่างไรก็ดี แต่วันนี้ก็ต้องถือว่า มี “ผู้สูงวัย” หลายคนไม่เพียงแต่จะ “ลบคำปรามาส” เหล่านั้นได้ หากแต่ยังกลายเป็น “ไอดอล” ให้กับทั้งคนรุ่นเก่า-คนรุ่นใหม่ได้ อย่างเช่น “คุณป้าวัยเก๋า” รายนี้ ที่วันนี้ “ทีมวิถีชีวิต” มีเรื่องราวมานำเสนอ

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

สำหรับคุณป้าท่านนี้ ก็คือ “ป้าติ๋ม-วิยะดา ชื่นตา บีช” ไอดอลวัยเก๋า “ครีเอเตอร์สูงวัย” หนึ่งใน ผู้ก่อตั้งกลุ่ม 50+ไม่สะดวกแก่ ซึ่งมาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตเธอในอดีตจนถึงปัจจุบัน และเส้นทางการมาเป็นครีเอเตอร์ โดยปัจจุบันป้าติ๋มอายุ 52 ปี และเป็นมาดามอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส หลังจากแต่งงานกับ Mr.Bertrand Betsch สามีชาวฝรั่งเศส โดยป้าติ๋มเล่าว่า เธอมีพื้นเพเป็นคน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคิรีขันธ์ โดยเกิดและโตมาในครอบครัวที่ยากจนมาก หลังเรียนจบ ป.6 เธอก็ไม่ได้เรียนต่อ และเข้ากรุงเทพฯ โดยทำงานเป็นลูกจ้างและคนรับใช้ตามบ้านอยู่นายหลายปี จนบังเอิญได้พบเจอกับสามีคนแรก ที่เป็นคนไทย และอยู่กินกันจนมีลูก 2 คน แล้วก็ต้องเลิกรากันไป เพราะสามีแอบไปมีผู้หญิงคนใหม่ โดยทอดทิ้งเธอกับลูก ๆ ไว้โดยไม่แยแส ทำให้ป้าติ๋มจำเป็นต้องเอาลูกไปฝากทางบ้าน เพื่อที่เธอจะได้ทำงานเลี้ยงดูตัวเองและหาเงินส่งเสียลูก ๆ

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

ป้าติ๋มเล่าไว้ต่อไปว่า เธอทำมาหลายอาชีพมาก โดยเคยเป็นแม่ค้าขายของเก่า รับซื้อของเก่า และเก็บขยะตามถังขยะ นำเอาไปขาย เพราะต้องทำทุกทางเพื่อให้มีเงิน มีรายได้ เพื่อส่งไปให้ลูก ๆ จนเมื่อเวลาล่วงผ่าน อะไร ๆ รอบตัวก็เริ่มจะดีขึ้น จนป้าติ๋มได้เจอกับสามีคนที่สอง ซึ่งเป็นคนไทยเช่นกัน โดยเธอบอกว่าชีวิตรักครั้งที่สองนี้ แรก ๆ ก็ดูดี เพราะทั้งเธอและสามีต่างก็ช่วยกันทำมาหากิน แต่พอนาน ๆ สามีคนนี้ก็เริ่มออกลาย โดยคนนี้ไม่ติดผู้หญิง แต่ติดทั้งเหล้าติดทั้งยาเสพติด และเวลาเมาก็จะอาละวาดทุบตีป้าติ๋มเป็นประจำ จนป้าติ๋มมีแต่แผลและรอยฟกช้ำ ซึ่งป้าติ๋มกลัวมาก ๆ จนต้องหนีไปนอนกับเพื่อนอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ซึ่งเป็นอย่างนี้ตลอด 6-7 ปี แต่ก็ต้องทนเพราะมีลูก จนสุดท้ายก็ไม่ไหว จึงตัดสินใจไปพัทยา

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

วันชิล ๆ ในฝรั่งเศส

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

“พอรู้ว่าไม่ไหวแล้วก็เลยหนีไปพัทยา โดยมีคนรู้จักพาไปสมัครงานบาร์ แต่ด้วยความไม่ได้ภาษา ประกอบกับสมัยนั้นรูปร่างอ้วนตุ้ยนุ้ย บาร์เลยไม่รับ ก็เลยเปลี่ยนเป็นทำงานโรงแรม ตั้งแต่สามดาวจนถึงห้าดาว โดยทำงานทุกอย่างเพื่อให้มีรายได้ส่งเสียลูก จนลูก ๆ เขาโตกันหมดแล้วและหาเลี้ยงตัวเองได้ ป้าก็เลยหยุดส่งเสีย ทำให้ช่วงนั้นป้าสามารถใช้ชีวิตตัวเองได้อิสระเต็มที่ หลังจากต้องเหน็ดเหนื่อยมานาน จนต่อมาป้าก็ได้เจอกับสามีคนที่สามที่เป็นต่างชาติผ่านเว็บไซต์หาคู่” ป้าติ๋มเล่าช่วงชีวิตที่ต้องหนีสามีคนที่สองระหกระเหินสู่พัทยา ก่อนจะพบสามีคนที่สาม

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

พร้อมทั้งเล่าอีกว่า สามีฝรั่งคนนี้ไม่มีอะไรเลย แต่มาหลอกให้ป้าติ๋มรักและทำงานหาเลี้ยงเขา แต่ถึงรู้ทั้งรู้ป้าติ๋มก็ยอม จากนั้นก็จึงย้ายไปอยู่ที่บางสะพานด้วยกัน โดยป้าติ๋มเอาเงินเก็บที่มีมาเปิดร้านอาหารและร้านส้มตำ ซึ่งรสมือของป้าติ๋มในการตำส้มตำนั้นก็เด็ดดวงพอตัว จนมีหลายเพจมาแนะนำร้านให้ ทำให้ร้านไปได้ดี จนป้าติ๋มเก็บเงินซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ กับที่ดิน 1 ไร่ได้ จนต่อมาพอเกิดเศรษฐกิจไม่ดี ร้านนี้ก็เลยจำต้องปิดกิจการไป แต่ป้าติ๋มก็ยังต้องหาเลี้ยงสามีฝรั่งคนนี้

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

“พอร้านปิด ป้าก็ขอสามีเข้าทำงานกรุงเทพฯ เป็นแม่บ้าน และจับได้ว่าสามีคุยกับผู้หญิงต่างชาติในเว็บไซต์ แถมยังบอกให้ป้าติ๋มไปเปิดเว็บไซต์หาผู้ชายรวย ๆ มาซื้อบ้านของป้า แต่ที่แสบสุดคือเขาไปหลอกเพื่อนมาซื้อที่ดินข้าง ๆ หวังจะฮุบ คือกะจะตั้งรากฐานอยู่ที่นี่ ผู้ชายคนนี้เลวมาก ทำให้ป้าตัดสินใจเลิกกับสามีคนที่สามนี้”

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

ป้าติ๋ม กับสามีชาวฝรั่งเศส

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

เมื่อตัดสินใจเลิกกับสามีคนนี้ เธอก็บอกขายบ้านและที่ดินข้าง ๆ เพราะซื้อในชื่อป้าติ๋ม โดยพอขายได้แล้ว ป้าติ๋มก็เอาเงินคืนให้กับเพื่อนชาวต่างชาติ จากนั้นก็เอาเงินจากการขายบ้านมาลงทุนเปิดร้านอาหารอีกครั้ง และตัดสินใจเข้าเว็บไซต์หาคู่อีกครั้งเพื่อหาสามีหาคนเลี้ยงดูเพื่อเป็นทางเลือกและทางรอด จนได้มาเจอสามีคนที่สี่คนปัจจุบัน ซึ่งดีกว่าสามีทุกคนที่ผ่านมาของเธอมาก เพราะสามีคนนี้ทั้งรักและดูแลป้าติ๋มดีมาก ๆ

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

“ภาษาไม่เก่ง แต่ก็คุยกันด้วยแอปแปลภาษา ผ่านวิดีโอคอล โดยคุยกันได้ 7 เดือน เขาก็บินมาหาป้าที่เมืองไทย เพื่อเจอหน้าและคุยกันในชีวิตจริง พอเจอกันเขาก็ชมป้าว่าตัวจริงสวยกว่าวิดีโอ (หัวเราะ) ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราสัมผัสได้ถึงความจริงใจ และสังเกตตลอดเวลาคุยกันว่าคนนี้เขาจะไม่กั๊ก ไม่ว่าเป็นญาติพี่น้อง หรือลูกมาหา เขาก็ให้คอลแนะนำตัวกับเราทุกครั้ง แสดงถึงความจริงใจให้เห็น ซึ่งดูใจกันได้ 45วัน เขาก็บินกลับฝรั่งเศส แต่ก็คุยกันอีก 3เดือน เขาบอกว่าเธอต้องบินมาหาฉันแล้วนะ ฉันอยากให้เธอมาดูบ้านฉัน เราก็โอเค ก่อนจะบิน 20วัน เขาก็บอกว่าให้เราเตรียมเอกสารแต่งงานมาเลยนะว่าต้องใช้อะไรบ้าง เราก็บินเพื่อจะแต่งงานและท่องเที่ยวไปด้วย” เป็นเส้นทางรักครั้งล่าสุด กับสามีคนที่สี่ของป้าติ๋ม ครีเอเตอร์วัยเก๋าคนนี้

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

มาด “มาดาม” สไตล์ฝรั่งและสไตล์ไทย

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

แต่ภาพฝันกับชีวิตจริงก็มักจะคนละเรื่อง โดยป้าติ๋มเล่าว่า การอยู่เมืองนอกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทำให้เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายอย่าง เช่น อากาศหนาวเย็น อาหารการกิน และผู้คนที่ไม่เป็นมิตร อีกทั้งภาษาที่ไม่คุ้นเคยจึงทำให้เธอรู้สึกกดดันมาก ซึ่งอาจเพราะด้วยอายุที่เยอะแล้วจึงปรับตัวลำบากมาก จนอยากกลับประเทศไทยตลอดเวลา แต่โชคดีที่สามีเข้าใจ

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

“ฝากบอกผู้หญิงไทยนะว่า ก่อนตัดสินใจแต่งงาน หรือย้ายประเทศ อยากให้ศึกษาการใช้ชีวิตก่อนว่าเราอยู่ได้ไหม และเรื่องภาษานั้นสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะทุกเรื่องต้องใช้ภาษา เขาจึงให้คนต่างชาติเรียนภาษาและอบรมการเป็นพลเมืองด้วย เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมพื้นฐาน ส่วนเรื่องอาหารการกิน การใช้ชีวิต การทำงาน เป็นเรื่องรองลงมา เราอยู่ที่นี่ก็โชว์ความเป็นคนไทย ทำอาหารไทย โชว์วัฒนธรรมไทย ซึ่งเพื่อน ๆ และญาติสามีชอบเรามาก เพราะคนฝรั่งเศสเป็นคนยิ้มยาก แต่เราเป็นคนคิดบวก อารมณ์ดี ยิ้มอย่างเดียว ไปไหนมาไหนก็ยกมือไหว้” เป็น “เคล็ดลับชนะใจคนฝรั่งเศส” ในสไตล์ป้าติ๋ม

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

กับลูกน้องที่ร้านส้มตำ

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

ป้าติ๋มยังพูดถึงสามีฝรั่งเศสคนปัจจุบันนี้ว่า เป็นรักแท้ของป้าก็ว่าได้ หลังจากต้องผิดหวังและช้ำใจมาหลายครั้ง โดยสามีคนนี้มีอาชีพเป็นวิศวกรโรงงานกระดาษทิชชู แต่ตอนนี้เกษียณแล้ว ซึ่งตอนที่สามีใกล้เกษียณก็มีการคุยกันว่าอยากจะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยด้วยกัน เพราะเกรงใจสามีที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก ก็เลยชวนสามีว่า ถ้าไปอยู่ที่เมืองไทยไม่ต้องเสียค่าอะไรเลยนะ เงินค่าประกันที่เสียไปก็สามารถซื้อตั๋วกลับมาเที่ยวฝรั่งเศสได้ปีละ 3 ครั้ง ซึ่งสามีรู้ว่าเธออยากจะกลับมาอยู่เมืองไทยก็ตามใจ ก็เลยได้มาเริ่มต้นชีวิตอีกครั้งที่ประเทศบ้านเกิดของป้าติ๋ม

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

“เราสองคนอยู่เมืองไทยแบบสบาย ๆ ได้เลยค่ะ ไม่ต้องทำงานก็ไม่เดือดร้อน ตอนนี้ก็เล็งบ้านและที่ดินไว้เรียบร้อยแล้ว แถมตอนนี้ป้ามีอาชีพจากออนไลน์ และอนาคตที่วางแผนไว้ก็คือ อยากจะเป็นเจ้าของแบรนด์น้ำหอมนำเข้าจากฝรั่งเศส และมีธุรกิจเล็ก ๆ สั่งของจากเมืองจีนมาขายออนไลน์ เพราะป้ามองว่าตอนนี้เรายัง 50+เรายังไม่สะดวกแก่ ยังทำโน่นทำนี่ได้ ป้าก็เลยผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์ โดยทำมาได้ 7-8 เดือนแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะทำได้ ไม่คิดว่าเงินในอากาศมีจริง” ป้าติ๋มพูดถึงจุดเริ่มต้นสายออนไลน์ ที่เกิดจากความต้องการมีอาชีพ-มีรายได้

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

ทั้งนี้ก่อนลากัน “ทีมวิถีชีวิต” ถามถึงความรู้สึก “ป้าติ๋ม” กับ “ชีวิตปัจจุบัน” ว่า รู้สึกอย่างไร? และภูมิใจหรือไม่? ซึ่งเธอก็ได้ตอบกลับมาว่า “ถามว่ารู้สึกดีมากไหมกับชีวิตในตอนนี้ ป้าติ๋มบอกเลยว่า ชีวิตตอนนี้เรียกว่าเอนจอยมาก แฮปปี้ที่สุด โดยเฉพาะถ้ามองจากศักยภาพของป้าที่เป็นเพียงแค่คนที่เรียนจบแค่ ป.6เป็นแค่เพียงผู้หญิงบ้าน ๆ แต่ก็ก้าวมาไกลขนาดนี้”.

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

แชร์ประสบการณ์ ‘โนดราม่า’

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

นอกจากบทบาท “ครีเอเตอร์” ที่ทำอยู่แล้ว “ป้าติ๋ม” ยังเป็น “แอดมิน ผู้ก่อตั้ง” ของ “กลุ่ม 50+ไม่สะดวกแก่” อีกด้วย โดยป้าติ๋มเล่าถึงกลุ่มดังกล่าวนี้ว่า ในกลุ่มนี้จะไม่มีผู้ชาย และจะเป็นกลุ่มที่มีมาดามคนไทยที่อยู่อาศัยในต่างประเทศ รวมถึงสมาชิกที่เป็นคนไทย กว่า 400 คน ซึ่งสมาชิกในกลุ่มทุกคนจะตอบสนองดีมาก โดยเป้าหมายที่ก่อตั้งกลุ่มนี้ขึ้นนั้น เธอบอกว่าเอาไว้เพื่อพูดคุยและบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งเพื่อเป็นการคลายเหงา หาเพื่อน หรือใช้เป็นแหล่งข้อมูลให้กันและกัน เพราะมีตั้งแต่เรื่องครอบครัว สัพเพเหระ เคล็ดลับทำอาหาร การแต่งตัว ไปจนถึงเรื่องความสวยงาม และนอกจากนั้นก็ยังเป็นเสมือนกระดานข่าวคอยบอกเล่า หรือช่วยกันสแกนดูเรื่องต่าง ๆ “ตอนนี้วางแผนนัดเจอกันแบบตัวเป็น ๆ ตั้งใจจะจัดปาร์ตี้เพื่อพบปะกัน ซึ่งกลุ่มของเราจะโนดราม่า แต่จะเน้นแชร์ประสบการณ์และความสุขให้กันและกันเป็นหลัก”.

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์

เชาวลี ชุมขำ : รายงาน

ครีเอเตอร์สูงวัยสะใภ้ถิ่นน้ำหอมมาดามติ๋มวิยะดาชื่นตาต้องขออภัยชีวิตยังไม่สะดวกแก่เดลินิวส์