การแสวงหานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืน กลายเป็นหัวใจสำคัญของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของโลกปัจจุบัน หนึ่งในภาคส่วนที่น่าจับตามองคือ ‘อุตสาหกรรมยานยนต์’ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำทั่วโลกต่างตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และหนึ่งในนวัตกรรมที่น่าจับตามองคือ การนำวัสดุคอมโพสิตและวัสดุรีไซเคิลมาประยุกต์ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ยางล้อรถยนต์’

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

การนำวัสดุคอมโพสิตมาใช้ในการผลิตยานยนต์ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยานยนต์แห่งอนาคต เนื่องจากวัสดุดังกล่าวมีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา ทำให้สามารถลดน้ำหนักของตัวรถได้ ซึ่งส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ วัสดุคอมโพสิตยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถออกแบบให้มีรูปทรงที่ซับซ้อนและมีคุณสมบัติเฉพาะตัวได้ตามต้องการ ทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

อีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ การนำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนมาใช้ในการผลิตยางล้อรถยนต์ การเปลี่ยนจากยางธรรมชาติมาสู่ยางสังเคราะห์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า และลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากยางรถยนต์ใช้แล้ว มากไปกว่านั้น การพัฒนาวัสดุผสมที่ประกอบด้วยวัสดุรีไซเคิลและวัสดุธรรมชาติ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยางล้อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และมีแรงเสียดทานที่เหมาะสมกับการใช้งานบนถนนแต่ละประเภทอีกด้วย

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

สอดคล้องกับการที่ ‘มิชลิน’ (Michelin) ผู้ผลิตยางรถยนต์ระดับโลก ประกาศเดินหน้าสู่เป้าหมายใช้วัสดุหมุนเวียน 100% ในการผลิตยางล้อ ภายในปี 2050 ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตวัสดุคอมโพสิต ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนายางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในงาน Michelin Asia Pacific Media Day 2024

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

ผ่านวิสัยทัศน์ ‘ยั่งยืนในทุกด้าน (All Sustainable)’ ภายใต้ 3 เสาหลักหลัก ได้แก่ People (ผู้คน), Profit (ผลกำไร) และ Planet (ผืนโลก) สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนในระยะยาว ควบคู่ไปกับการดูแลพนักงานและส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมพัฒนายางรถยนต์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

‘มานูเอล ฟาเฟียง’ ประธานกลุ่มมิชลินประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย เปิดเผยว่า มิชลินไม่ได้จำกัดบทบาทเพียงแค่ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำเท่านั้น แต่ยังก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในหลากหลายภาคส่วน ทั้งในด้านการดูแลสุขภาพ การก่อสร้าง และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวัสดุคอมโพสิต ซึ่งมิชลินได้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้นำระดับโลกในการผลิตวัสดุดังกล่าว ภายใต้ความมุ่งมั่นในการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมด้านความยั่งยืนของวัสดุ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตของบริษัทส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

“วิสัยทัศน์ ‘Innovating for a Sustainable Future’ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการดำเนินงานทุกด้านของบริษัท เราจะเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า และยั่งยืนกว่าเดิมทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก” ฟาเฟียง กล่าวเสริม

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

สำหรับกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก ที่กล่าวไปในข้างต้น ฟาเฟียง ได้อธิบายในแต่ละด้าน ดังนี้

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

People (ผู้คน): มิชลินให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอันดับแรก โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเป็นธรรม ส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรม และส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านอัตราการมีส่วนร่วมของพนักงานที่สูงถึง 85% นอกจากนี้ มิชลินยังมุ่งมั่นสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงานอย่างต่อเนื่อง

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

Profit (ผลกำไร): แม้จะมุ่งเน้นความยั่งยืน แต่มิชลินก็ยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯ สร้างมูลค่าทางการเงินควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ นวัตกรรมที่โดดเด่นของมิชลิน เช่น โซลูชันการขับเคลื่อนด้วยลม (Wisamo) และวัสดุคอมโพสิตโพลิเมอร์ (Solesis) สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบสนองความต้องการของลูกค้า

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

Planet (ผืนโลก): มิชลินตระหนักดีถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 และใช้วัสดุหมุนเวียน 100% ในการผลิตยางล้อทุกเส้นภายในปีเดียวกัน นอกจากนี้ มิชลินยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นการใช้วัสดุรีไซเคิลและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

ด้าน ‘ถิรพล เมืองเนาว์’ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการการผลิต มิชลินภูมิภาคเอเชีย กล่าวถึงกระบวนการผลิตในส่วนของโรงงาน ว่า มิชลินให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดแนวทางหลัก 4 ประการ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความยั่งยืน ดังนี้

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

1. การใช้พลังงานสะอาด: ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยหันมาใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันสามารถทดแทนพลังงานจากแหล่งอื่นได้ถึง 20% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในโรงงาน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับใบรับรองการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (International Renewable Energy Certificate: I-REC) ที่ได้จากแหล่งพลังงานธรรมชาติ เช่น แสงอาทิตย์ ลม น้ำ ความร้อนใต้พิภพ ชีวมวล และก๊าซชีวภาพเพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในโรงงานทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

2. การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ: มุ่งมั่นที่จะใช้น้ำอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้ความสำคัญกับการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตให้ได้ 100% เพื่อลดต้นทุนการผลิต รักษาสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

3. การลดการปล่อยสารระเหย: ด้วยความตระหนักถึงผลกระทบของสารระเหยที่มีต่อสิ่งแวดล้อม มิชลินจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยสารระเหยลงให้ได้มากที่สุด อาทิ ยางรถยนต์มิชลินที่ผลิตอยู่ในปัจจุบันสามารถลดการใช้สารระเหยได้เกือบ 100% ทั้งยังตั้งเป้าที่จะพัฒนากระบวนการผลิตที่ไม่ปล่อยสารระเหยออกสู่ชั้นบรรยากาศ หรือลดการปล่อยสารระเหยเป็นศูนย์ในอนาคต

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

และ 4. การจัดการขยะอย่างครอบคลุม: ด้วยการให้ความสำคัญกับการลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต โดยร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์ และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดปริมาณขยะจากกระบวนการผลิตให้เหลือน้อยที่สุด ปัจจุบัน โรงงานในเอเชียของมิชลินมีปริมาณขยะจากกระบวนการผลิตน้อยกว่า 1% และสามารถนำขยะส่วนใหญ่กลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตได้

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนายางล้อเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งต้องการสมรรถนะของยางที่สูงกว่ายานยนต์แบบเดิม เนื่องจากมีน้ำหนักและแรงบิดที่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงมุ่งมั่นในการพัฒนายางล้อที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น พร้อมทั้งผสมผสานวัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิลเข้าไปในกระบวนการผลิต โดยตั้งเป้าหมายในการใช้วัสดุหมุนเวียนให้ได้ 40% ภายในปี 2030 และเพิ่มเป็น 100% ภายในปี 2050

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์

ทั้งนี้ หนึ่งในความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของมิชลินในการเดินตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว คือการนำเสนอยางล้อที่ผลิตจากวัสดุยั่งยืนถึง 71% ในการแข่งขันรถยนต์เลอม็อง 24 ชั่วโมง เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีที่ยั่งยืนในการตอบสนองความต้องการของการแข่งขันระดับโลก

มิชลินประกาศเป้าผลิตยางล้อจากวัสดุหมุนเวียนภายในปีเดลินิวส์