【เว็บหวยไทยรวย】“อิ๊งค์”สยบดราม่าขึ้นภาษีแวต บทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้!! | เดลินิวส์

หลังในช่วงที่ผ่านมา กระแสสังคมไทยในทุกชนชั้นทุกอาชีพต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักกับกระแสข่าวการ ขึ้นภาษีแวต 15% จนลุกลานบานปลายใหญ่โตจนสั่นสะเทือนเก้าอี้รัฐบาลไม่น้อย

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ต่อให้!! เรื่องของการขึ้นภาษี จะอยู่ในใจอยู่ในความคิดของรัฐบาลทุกรัฐบาลก็ตาม แต่ในความจริงแล้วเมื่อพูดถึงเรื่องภาษีก็เปรียบเสมือน ยาขม ของนักการเมืองทุกคนนั่นแหล่ะ

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาลแพทองธาร เท่านั้น!! ที่พูดถึงเรื่องการขึ้นภาษี ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลต่างพูดถึงเรื่องของภาษี เช่นกัน เพียงแต่ว่าพอเอาเข้าจริงแล้วไม่สามารถทำได้

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

เหตุผลใหญ่!! นอกจากกระเทือนเก้าอี้รัฐบาลแล้ว ยังลดความนิยมในพรรคการเมือง สุ่มเสียงต่อการเสียคะแนนเสียงในการเลือกตั้งในครั้งต่อไป

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่หลายพรรคการเมือง หลายรัฐบาล มักหลีกเลี่ยงนโยบายการขึ้นภาษี โดยเฉพาะ แวต ที่กระทบต่อผู้บริโภคอย่างถ้วนหน้า

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ต่อให้อัตรา 7% ที่เรียกเก็บกันอยู่ทุกกวันนี้ ไม่ใช่อัตราเดิมที่เคยเรียกเก็บไว้ตั้งแต่ปี 35 ในอัตราที่ 10% ก็ตาม โดยรัฐบาล ได้ออกมติครม.เพื่อคงการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

แต่เชื่อเถอะ ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังยักแย่ยักยัน ยังเติบโตได้ไม่เต็มศักยภาพที่ 5% หรือชาวบ้านชาวช่องยังไม่รู้สึกว่า มีเงินเต็มมือหรือมีเงินในกระเป๋าเพียงพอ หากรัฐบาลประกาศขึ้นภาษี ก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ไม่ใช่แค่รัฐบาลเจ๊งเท่านั้น แต่ประเทศก็เจ๊งไปด้วย เพราะกำลังซื้อในประเทศ ที่ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หมุนเศรษฐกิจจะหยุดชะงัก เพราะไม่มีแรงซื้อ

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ในเมื่อไม่มีแรงซื้อ ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมต่อเนื่องไปกระทบถึงภาคผลิต สุดท้ายภาคผลิตไปไม่ได้ การขายของก็เกิดขึ้นไม่ได้ ผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้ กระเทือนมาถึงลูกจ้าง สุดท้าย หายนะก็บังเกิด

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

สถานการณ์เช่นนี้ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ใช่ว่ารัฐบาลหรือผู้บริหารประเทศจะไม่รู้ ทุกฝ่ายต่างรู้ดีเหมือนกันหมด แต่ถามว่า? จำเป็นต้องทำหรือไม่? เอาจริงๆ จำเป็นต้องทำ!! แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจที่เหมาะสมเท่านั้น

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

มีการประเมินกันว่า ทุก 1% ของอัตราภาษีมูล่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้น ทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างน้อย 70,000-80,000 ล้านบาท จึงไม่ต้องแปลกใจหากรัฐบาลต้องการเพิ่มเงินในกระเป๋าก็ต้องเลือกใช้วิธีนี้ เพื่อให้ได้รายได้ก้อนใหญ่

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

อย่างที่บอก!! การตัดสินใจไม่ใช่เรื่อง่าย และเชื่อว่าคงไม่มีรัฐบาลไหน เชือดคอตัวเอง โดยใช้วิธีหาเงินเพิ่มด้วยการเพิ่มภาษีแวต

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ดังนั้น จึงต้องตามมาด้วยการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ โดยมีเหตุผลที่ว่า เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมในระบบภาษี เพื่อลดความเป็นธรรม เพื่อสร้าความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และอื่น ๆ อีกมากมายหลายเหตุผล

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

แม้ในหลายประเทศในโลกในปัจจุบันได้จัดเก็บภาษีเพื่อการบริโภคในอัตราสูง 15-20% หรือแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในประเทศที่เป็นแหล่งชอปปิงก็เลือกเก็บแวตที่ 10%

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

แต่ด้วยสภาพทางเศรษฐกิจของไทยในเวลานี้ ยังไม่ได้เข้าสู่สถานะที่จะเก็บภาษีสูง อย่างที่ชาวบ้านชาวช่องเค้าทำกันได้ จึงได้เห็นเสียงวิพาษ์วิจารณ์ดั่งที่ออกมา!!

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ในภาพแห่งความเป็นจริง แม้เรื่องการขึ้นภาษีแวต จำเป็นต้องทำก็ตาม แต่การขึ้นทีเดียว 3% สังคมไทยย่อมรับไม่ได้เช่นกัน จึงมีหลายฝ่ายโดยเฉพาะในภาควิชาการ ที่มองว่าการทยอยปรับขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งหนทาง

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

มาถึง ณ จุดนี้ ดราม่าเรื่องขึ้นภาษีที่ออกมา อาจเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ของรัฐบาล ที่จำเป็นต้องอธิบายความให้ชัดเจน เพราะการพูดครึ่ง ๆ กลางๆ พูดไม่จบ พูดไม่ชัดเจน อาจทำให้เกิดผลลบมากกว่าผลดี

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ที่สำคัญ ณ เวลานี้ ผลงานของรัฐบาลแพทองธาร ที่ออกมา ยังไม่มีอะไรที่จับต้องเป็นรูปธรรมได้ชัดเจน จริงอยู่ในช่วง 3 เดือนจะเอาอะไรนักหนา ทำได้ก็แค่ สานงานต่อจากรัฐบาลก่อนหน้า รวมไปถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างเหตุการณ์น้ำท่วม ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

แต่ในเมื่อรับอาสาเข้ามาเป็นผู้นำประเทศ เข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ ดังนั้นหน้าที่สำคัญ ก็ต้องนำพา ต้องทำให้คนทั้งประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้รู้สึกได้ว่าแตกต่างจากที่ผ่านมา

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

ไม่เช่นนั้น!! ความนิยมชมชอบก็ต้องเสื่อมถอยไปตามสภาพ เมื่อถึงเวลานั้น ก็ไม่ต้องโทษใคร!!

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์

อ่านบทความทั้งหมดคลิกที่นี่

อิ๊งค์สยบดราม่าขึ้นภาษีแวตบทเรียนครั้งสำคัญต้องเรียนรู้เดลินิวส์