【epicwin】เที่ยวรับ “ซัมเมอร์” แบบรักษ์โลกที่ “ตราด” | เดลินิวส์

ด้วยความตั้งใจของผู้คนบนเกาะที่เห็นตรงกันว่าอยากรักษาสภาพแวดล้อมให้คงความบริสุทธิ์และเงียบสงบ ดั่งวันวานเมื่อครั้งที่ 5 ตระกูลใหญ่แห่งเกาะหมาก อันได้แก่ ตะเวทีกุล วงษ์ศิริ สุทธิธนกุล จันทสูตร และสุขสถิตย์ ผู้ล้วนสืบเชื้อสายมาจาก นางจาบ พี่สาวเจ้าจอมมารดาจันทร์ในรัชกาลที่ 4 โดยมี หลวงพรมภักดี ต้นตระกูลตะเวทีกุล พาครอบครัวอพยพจากหมู่บ้านเกาะปอมายังเกาะหมาก และซื้อเกาะจากผู้ครอบครองเดิมที่มาบุกเบิกทำสวนมะพร้าว

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

โดยปฏิเสธสถานบันเทิง แสง สี เสียง และมุ่งมั่นพัฒนา“เกาะหมาก” ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Tourism) มีกิจกรรมท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) มาทดแทน พร้อมกับวิถีชุมชนแบบดั้งเดิม ที่ยังคงมีสวนมะพร้าว สวนยาง และประมงพื้นบ้าน การท่องเที่ยวของเกาะหมาก จึงเป็นที่รู้จักในฐานะเกาะโลว์คาร์บอนแห่งแรกของไทย ทั้งยังเป็นต้นแบบให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังก้าวเข้าสู่การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

พลังงานสะอาดที่หาใช้ได้ง่ายสำหรับเมืองร้อนอย่างโซลาร์เซลล์ถูกนำมาใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับไฟทางเดิน สระว่ายน้ำ รวมไปถึงระบบทำน้ำอุ่น ขณะที่ร้านอาหารเลือกที่จะรับซื้ออาหารทะเลสดจากเรือประมงพื้นบ้านของเกาะหมากมาให้บริการลูกค้า รีสอร์ทบางแห่งก็แบ่งพื้นที่มาทำเกษตรอินทรีย์ปลูกผัก ผลไม้ปลอดสารพิษนำมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารบริการให้กับแขกที่มาพัก

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ส่วนเรื่องสำคัญอย่าง“ขยะ” ที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับแหล่งท่องเที่ยว นอกจากจะก่อตั้งโรงคัดแยกขยะ “Energy Park” เพื่อคัดแยกขยะรีไซเคิลอย่างกระดาษ กระป๋อง พลาสติก สายไฟ เศษโลหะ แล้วบีบอัดเป็นก้อนจัดส่งกลับไปขายบนฝั่ง ส่วนขยะเปียกมีทั้งนำไปหมักได้แก๊สชีวภาพมาใช้ในครัวเรือน และนำไปทำปุ๋ยใช้สำหรับแปลงผักปลอดสาร โดยมีสวนเกษตรอินทรีย์ของ“เกาะหมากรีสอร์ท” เป็นหนึ่งในต้นแบบ ซึ่งมีทั้งแบบปลูกกลางแจ้งและในโรงเรือนกันแมลง มีการใช้ปุ๋ยหมักมาบำรุงพืชผัก ไล่แมลงด้วยน้ำยาฉีดที่ทำจากสมุนไพรจำพวกข่าตะไคร้ ใบสาบเสือหมักกับเหล้าขาว มีบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่แบบอารมณ์ดีด้วยพื้นที่กว้างขวาง เดินเล่นได้แบบไม่ต้องถูกขังคอกใครคอกมัน

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ฃทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่ชาวเกาะหมากทำจนเป็นกิจวัตรประจำวันแบบที่ไปเมื่อไหร่ก็ได้เห็นแบบนั้น นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเกาะหมากสามารถไปเยี่ยมเยือนได้ และไม่นานมานี้ยังเพิ่มเติมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนด้วย “เรือโซลาร์เซลล์” เรือแบบท้องคู่ที่เรียกว่า “คาตามาราน” ต้านน้ำน้อย ตัดคลื่นได้ดี ทั้งยังแล่นบนผิวน้ำได้อย่างราบเรียบมั่นคง โดยมีแผงโซลาร์เซลล์ 6 แผง ทำหน้าที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้า เก็บสำรองไว้ในแบตเตอรี่ก่อนจะจ่ายออกสู่มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 แรงม้า 2 ตัวเพื่อขับเคลื่อนเรือ ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 8.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เพราะวิ่งได้ระยะทางราว 20 กิโลเมตร หรือราว 2.5 ชั่วโมง จึงเหมาะกับการท่องเที่ยวทางทะเลเส้นทางที่ไม่ไกลมากนัก แบบกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ ข้ามจากเกาะหมากไปเกาะขาม เกาะระยั้ง เกาะกระดาด แวะชายหาดเล่นน้ำ ดำน้ำตื้น ดูปะการัง ตกปลา หรือลอยลำชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเล

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

แล้วอย่าลืมแวะไป “พิพิธภัณฑ์เกาะหมาก” ที่ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวของชุมชนว่าเป็นใครมาจากไหน อยากรู้ว่า 5 ตระกูลที่บอกว่ามาจากรากเดียวกันมาดูได้จากแผนผังเครือญาติที่จัดแสดงไว้ รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีตของชาวเกาะหมาก เลยต่อไป “บ้านหลวงพรมภักดี” เรือนโบราณตามแบบสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 6 ต้นตระกูลตะเวทีกุล เรือนไม้สองชั้นทรงหลังคาปั้นหยาสร้างเสร็จเมื่อปี 2475 ที่ยังคงมีลูกหลานเจ้าของอาศัยอยู่ ด้านหลังมีโรงบ่มยางเก่าครึ่งตึกครึ่งไม้ที่ยังตั้งตระหง่านเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงยุครุ่งเรืองแห่งการทำสวนยางของเกาะหมากเมื่อครั้งอดีต

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ใครเรี่ยวแรงขาดีแนะนำให้ไปขี่จักรยานเที่ยวรอบเกาะหมาก นอกจากจะมีรถราวิ่งน้อย ถนนโล่งให้ปั่นได้แบบสบาย ๆ แล้ว ยังมีภูมิประเทศหลากหลายให้ชมตลอดทาง ทั้งชายหาด ป่า สวนยาง ดงมะพร้าว และชุมชนเก่าแก่ จะเช่าจักรยานแม่บ้านปั่นแบบสบาย ๆ หรือแอดเวนเจอร์แบบเสือภูเขาก็เลือกได้ตามความถนัด และเส้นทางที่ถูกใจ แนะนำ 2 เส้นทาง ได้แก่ ถนนหลวงอุทัย ระยะทาง 5 กิโลเมตร และถนนหลวงนารา ระยะทาง 7 กิโลเมตร ที่พาไปสุดทางที่ชายหาดแหลมสน เผื่อนึกอยากลงเล่นน้ำ หรือจะต่อด้วยการนั่งเรือไปเที่ยวเกาะกระดาดก็สามารถทำได้ แต่ห้ามลืมแวะไปเที่ยว แหลมสน ฝั่งตะวันออกสุดของเกาะ สะพานโคโค่เคป สะพานซิกแซ็กที่ทอดตัวยาวลงไปในทะเล สะพานสู่ฝัน ที่ถือว่ายาวที่สุดของเกาะหมากที่ใคร ๆ ต้องมาแวะเช็กอิน

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ถ้าแรงยังไม่หมดชวนไปปล่อยพลังต่อด้วยการไต่เขาขึ้นไปชมวิวที่ “เขาแผนที่” แม้เส้นทางจะสั้น ๆ เดินแค่ 20 นาทีก็ถึงยอดเขา แต่ควรมีไกด์นำทางเพราะต้องเดินตัดผืนป่า เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการขึ้นมาชมวิวเวิ้งอ่าวกว้างไกลคือ ช่วงก่อนพระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า หรือจะไปชมความงดงามของสีสันโลกใต้ทะเลที่ “หมู่เกาะรัง” ที่สวยไม่แพ้ที่อื่น มีทั้งแบบดำบนผิวน้ำแบบสนอร์กเกิลและดำน้ำลึกแบบสกูบาหรือไปพายเรือคยัคและดำน้ำตื้นที่เกาะระยั้งในและระยั้งนอกที่ออกไปไม่ไกล หรือจะลองเล่นเรือใบข้ามไปเกาะขามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

หากต้องการบรรยากาศแปลกใหม่ ข้ามไปเกาะกระดาดแล้วนั่งรถอีแต๊กเที่ยวชมรอบเกาะ เกาะที่ดูราบเรียบไปกับผืนน้ำสมชื่อเป็นเกาะส่วนตัวที่มีรีสอร์ทบริการ แต่เปิดให้ขึ้นไปเที่ยวชมได้ รถอีแต๊กจะพาวิ่งโขยกท่ามกลางดงมะพร้าวเก่าแก่ โดยมีเหล่ากวางน้อยที่เคยมีคนนำมาปล่อยแล้วออกลูกหลานครองเกาะคอยแอบมองอยู่เป็นระยะ ๆ

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ไม่ใช่แค่เกาะหมากเท่านั้นที่ยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบวันวาน “ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว” ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย  (Thailand Tourism Awards : TTA) สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน และสาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ประจำปี 2566 ที่ที่สองศาสนา สามวัฒนธรรม อยู่ร่วมกันอย่างปรองดองมายาวนานกว่า 200 ปี ร่วมกันฟื้นฟูป่าชายเลนรอบชุมชน ปลูกป่า พร้อมกับตั้งกฎห้ามตัด ห้ามทำลาย ห้ามจับสัตว์น้ำ และหาผลประโยชน์ในเขตป่า หลังชุมชนขยายและสิ่งแวดล้อมโดยรอบเริ่มเสื่อมโทรม จนปัจจุบันผืนป่าขยายไปถึง 2,338 ไร่ พร้อม ๆ กับวิถีชีวิตดั้งเดิมที่กลายเป็นเสน่ห์ที่ใคร ๆ ต่างถวิลหา ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับแบบญาติพี่น้อง อาหารพื้นบ้านที่ได้จากปลาที่ออกไปจับ หอยปากเป็ดที่พากันออกไปงม พักในโฮมสเตย์ที่ต้องลุ้นว่าจะได้นอนริมน้ำ ข้างท้องนา หรือในบ้านสวน ขึ้นอยู่กับการจัดคิวของวิสาหกิจชุมชน

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ชวนมานั่งเรือลัดเลาะเที่ยวป่าโกงกางชมความอุดมสมบูรณ์ที่ชุมชนช่วยกันดูแลรักษา เเละเดินไปตามป่าโกงกางเพื่อแวะขึ้นไปหอดูนกสูง 16 เมตร ที่ยังสูงไม่เท่าต้นโกงกางที่ชาวบ้านปลูกไว้ หรือจะไปขี่จักรยานเที่ยวรอบ ๆ ชุมชนโดยมีกลุ่มนักสื่อความหมายท้องถิ่นคอยนำทาง พาไปลองสาน “งอบ” แรร์ไอเทมแห่งบ้านน้ำเชี่ยว ชิม “น้ำตาลชัก” หรือตังเมกรอบ “ข้าวเกรียบยาหน้า” ขนมที่บ่งบอกถึงร่องรอยอารยธรรม

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ชุมชนท่องเที่ยวของ “ตราด” ยังไม่หมดเท่านั้น ยังมี “ชุมชนวิสาหกิจท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง” ชุมชนเก๋ ๆ ที่มีกิจกรรมรักษ์โลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำขยะพลาสติก หรือของเก่ามาสร้างสรรค์เป็นของใช้หลากหลาย ทั้งโมบายจากทุ่นที่ลอยมาติดชายหาด กระถางจากฝาขวด ถังขยะจากขวดน้ำ แล้วยังมี “ผ้ามัดย้อม 3 ป่า” ผ้าย้อมสีธรรมชาติที่มีไฮไลต์อยู่ตรงการล้างผ้าด้วยน้ำทะเลก่อนล้างน้ำจืด จะช่วยให้ผ้ามีสีสันสดใสและติดทนนานกว่าปกติ แล้วเลยลงหลุมที่ชาวบ้านช่วยกันขุดทรายแดงคอยท่ากับกิจกรรม “หมกทรายแดง” เม็ดทรายที่ดูคล้ายดินลูกรังเพราะสีแดงและเม็ดโต ที่ว่ากันว่าความเย็นเบื้องล่างของผืนทรายนั้น ช่วยบำบัดอาการเมื่อยล้าได้ ต่อด้วย “สปาเท้า” ที่มีจุดเด่นตรงถุงใส่เมล็ดถั่วเขียวที่มีไว้ให้เหยียบระหว่างแช่เพื่อช่วยในการบำบัด ตบท้ายด้วยอาหารเป็นยากับเมนูพื้นบ้านที่มีสมุนไพรผสมอยู่ในทุกเมนู

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

และห้ามผ่านเลย “ชุมชนบ้านท่าระแนะ” อดีตศูนย์กลางท่าเรือสำเภาจีนที่แล่นเรือมาเพื่อสรรหาสมุนไพรโบราณในย่านนี้ เจ้าของ “ลานตะบูน” ความงดงามของรากไม้ที่เลื้อยสานกันเป็นเกลียวแผ่ขยายเป็นวงกว้างนับไร่ มรดกภูมิปัญญา “เครื่องจักสานจากใบคันทรง” ที่ได้รับการรื้อฟื้นให้กลับคืนมา ทั้งยังมีมหัศจรรย์นิเวศป่าชายเลนที่เปรียบเสมือนยาอายุวัฒนะของคนในพื้นที่ ถึงกับมีคำกล่าวว่า “จิบชาร้อยรู อยู่ร้อยปี” ก่อนกลับอย่าลืมร่วมปล่อยปูดำคืนสู่ธรรมชาติ และปลูกหัวร้อยรู เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรักษานิเวศป่าชายเลนให้คงอยู่ต่อไป

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

ซัมเมอร์นี้หากยังไม่รู้ว่าจะไปเส้นทางไหน เที่ยวแบบสวยเด็ด อิ่มพุงกาง และยังรักษ์โลก ต้องไปที่ “ตราด” รับรองว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน กับกิจกรรมท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนของเกาะหมาก และสัมผัสวิถีชุมชนแบบแนบสนิทใกล้ชิดที่บ้านน้ำเชี่ยว บ้านธรรมชาติล่าง และบ้านท่าระแนะ แล้วจะรู้ว่าตราด“สะหงาดสะเงย” ขนาดไหน

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด Facebook Page : ท่องเที่ยวตราด โทร. 0-3959-7259 หรือ 1672 Travel buddy

เที่ยวรับซัมเมอร์แบบรักษ์โลกที่ตราดเดลินิวส์